สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ใน ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก อุทัยธานี อยู่ในความดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามปลกตาของทางธรรมชาติ หุบป่าตาด ได้ถูกประกาศจากกรมอุทยานแห่งชาติ ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ เนื่องจากมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แปลกตาด้วยพันธุ์ไม้ หายากมากมายหลายชนิด เช่น เต่าร้าง เปล้า คัดค้าวเล็ก ขนุนดิน เป็นต้น โดยหุบป่าตาดมีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ภายในคือผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาดและพืชพันธุ์โบราณแปลกตา ถ้ำหุบป่าตาดนั้นค้นพบโดยพระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง เมื่อปี พ.ศ. 2522 ครั้งนั้นพระครูได้ปีนลงไปในหุบเขานี้แล้วพบว่ามีต้นตาดขึ้นอย่างดาษดื่น ซึ่งต้นตาดนั้นจัดเป็นไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม ท่านจึงได้เจาะถ้ำเพื่อเป็นทางเข้าไปสู่หุบป่าตาดนั้นในปี พ.ศ. 2527
เมื่อเดินทางมาถึงปากทางขึ้นไปยังหุบป่าตาด เสียค่าบริการเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท พร้อมไฟฉาย 1 อัน แนะนำให้พกยากันยุงติดตัวมาด้วย ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ บริเวณทางเข้าจะมีบริการมักคุเทศน์น้อยนำทางที่คอยเล่าเรื่องราวของป่าดึกดำบรรพ์แห่งนี้ ซึ่งค่าบริการแล้วแต่เราจะให้ ซึ่งถือว่าก็ดีที่มีน้องๆมาช่วยเล่าเรื่องก็ทำให้เราได้ความรู้เกี่ยวกับพืชพันธุ์ต่างๆ มากขึ้น
และสำหรับระยะทางเดินชมธรรมชาติ ไป-กลับ 700 เมตร ใช้เวลาชมประมาณ 30 นาที เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เดินสบายๆ แบบเพลิดเพลิน ได้เห็นต้นตาดขึ้นปกคลุมหนาแน่นในวงล้อมของผาหินที่เต็มไปด้วยหินงอก หินย้อย รูปร่างแปลกตา โดย เริ่มจากเดินผ่านไปยังบันไดทางเดินที่ได้จัดทำไว้ ไปสู่จุดแรกคือ โถงถ้ำที่มืดสนิท และปลายทางคือปล่องขนาดใหญ่ที่มีแสงส่องลงมา
โดยมีจุดชมวิวที่เผยให้เห็นภาพอันน่ามหัศจรรย์ของป่าตาด พืชตระกูลปาล์ม มีใบเป็นแฉกแผ่กว้างสยาย ชอบขึ้นในพื้นที่ป่าดงดิบที่มีอากาศเย็นชื้นสภาพหนาทึบ ราวกับว่ากำลังหลุดอยู่ในโลกยุคดึกดำบรรพ์อย่างไรอย่างนั้น
ต้นตาดที่ขึ่นปกคลุมตลอดเส้นทางเดิน
หากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนตั้งแต่ประมาณเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน เราจะได้พบเห็นเจ้ากิ้งกือมังกรสีชมพู มีสีชมพูสดใสมองไปมองมาคล้ายเกสารดอกไม้ มีลักษณะโดดเด่นด้วยลวดลายและปุ่มหนามคล้ายมังกร พบได้ในป่าที่มีความชุ่มชื้นสูงและอุดมสมบูรณ์ เมื่อโตเต็มที่จะมีลำตัวยาวประมาณ 7
เดินเข้ามาเกือบสุดเส้นทางจะพบกับถ้ำอีก 1 ถ้ำ แบบเปิดโล่งพอเห็นแสง มีหินงอกหินย้อย และหินปูน ซึ่งลวดลายหินที่งดงาม หากมาเที่ยวในช่วงกลางวันจะมีแสงอาทิตย์สาดส่องลงมากลางหุบที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสูงชัน
จากถ้ำก็มาถึงทางเดินเล็กๆ ซึ่งเต็มไปด้วยป่าตาดเช่นกัน โดยเมื่อมาถึงตรงจุดนี้ลักษณะทางเดิน จะเป็นการเดินกลับไปยังเส้นทางเดิม ระหว่างทางก็จะได้เห็นต้นไม้แปลกๆ เช่นเคย มาสะดุดจากับเจ้าใบไม้ที่ตกลงมาจากต้นบนหิน จากสีเขียวกลายเป็นสีเหลืองดงาม ใบใหญ่มากเกือบเท่าหน้าเลยทีเดียว
สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสความรู้สึกเหมือนเราหลุดไปอยู่ในโลกของพืชพันธุ์ดึกดำบรรพ์ เชิญมาเดินชมความมหัศจรรย์กันได้ที่ หุบป่าตาด
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
หุบป่าตาดเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 8.30 น. – 16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท ในวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีไกด์น้อยมาคอยพานำเที่ยวชมตามค่าบริการแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวหุบป่าตาดคือช่วง 11:00-13:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แสงส่องลงมายังหุบป่าตาด ทำให้เห็นประกายของหินแวววับในโพรงถ้ำสวยงามมาก
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน โทร. 0-5698-9128
เส้นทางการเดินทาง
จากตัวเมืองอุทัยธานีใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 333 ผ่านอำเภอหนองฉาง ต่อด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 3438 ไปยังอำเภอลานสัก ประมาณ 21.5 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางลาดยางอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ก็ถึงหุบป่าตาด ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากตัวเมืองอุทัยธานี
ขอบคุณข้อมูลจาก
paiduaykan.com