Social :



การปลูกชมพู่

20 มี.ค. 61 19:03
การปลูกชมพู่

การปลูกชมพู่

การปลูกชมพู่


ชมพู่เป็นผลไม้ที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศอินเดีย  จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับฝรั่ง ยูคาลิบตับ เนื่องจากต้องการน้ำสูง ลำต้นมีขนาดใหญ่ สูง ดอกมีกลิ่นหอมไม่ต่างจากกุหลาบบ้านเราเลย ที่สำคัญผลมีรสชาติที่หวานกรอบ เป็นที่นิยมสำหรับคนไทยและจัดเป็นผลไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง



โดยทั่วไปแล้วชมพู่สามารถเจริญเติบโตได้ทุกที่ แต่ที่ชอบที่สุดคือพื้นที่ทีมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ สภาพดินที่ชอบมากที่สุดคือดินร่วนปนดิน หรือจะเป็นดินร่วนปนดินเหนียวก็ได้ สภาพความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ที่ 6.5-7

การขยายพันธุ์

สามารถทำการขยายพันธ์ได้ 3 วิธี คือกานตอนกิ่ง การปักชำ และการต่อกิ่ง โดยทั่วไปแล้วเกษตรกรนิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่งแล้วนำไปเพราะปลูกในกระถางก่อนการลงสู่แปลงที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ไม่กลายพันธุ์ ที่สำคัญให้ผลผลิตได้ไม่ต่างจากต้นแม่และมีลำต้นที่เตี้ยลง

การปลูก

1.เตรียมแปลงปลูก การปลูกชมพู่ส่วนใหญ่แล้วนิยมปลูกแบบยกร่อง โดยเป็นร้องดิน 3 เมตร และร่องน้ำประมาณ 1-1.5 เมตร หลักยกร่องควรมีการตากหน้าดินเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือนแล้วค่อยกลับหน้าดินเพื่อการปลูกในขั้นต่อไป ในช่วงนี้เพื่อเป็นการปรับสภาพดินให้เหมาะสำหรับการปลูก เกษตรกรสามารถใส่ปูนขาวคลุกเคล้าลงไปด้วย
MulticollaC

2.การยกร่องในการปลูก มีระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 4 เมตร ส่วนที่ดอนจะใช้ 4×4 หรือ 6×6 ก็ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของหน้าดินด้วย

3.การขุดหลุมเตรียมปลุก ขนาด 50x50x50 เซนติเมตร โดยเมื่อขุดดินออกมาแล้วให้นำมาคลุกเคล้ากับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยรอคฟอสเฟต 500กรัมในอัตราส่วนที่เท่ากัน เอาดินทีมีการผสมกับปุ๋ยใส่กลับไปที่เดิมจนพูนหลุม

4.วิธีการปลูกทำการขุดหลุมใหม่ให้มีขนาดเท่ากับดินในกระถามที่เพาะชำ วางต้นกล้าลงไปให้มีระดับสูงกว่าปากถุงเล็กน้อย แล้วเอาดินพอกโคนต้นให้พูน


5. ทำการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยช่วงแรกจะต้องให้มากเป็นพิเศษเนื่องจากต้นกล้ายังปรับตัวได้ไม่ดีนัก เมื่อผ่านไปสักหนึ่งอาทิตย์อาจมีการลดการให้น้ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความเหมาะสมด้วย

ขั้นตอนการปลูก การขยายพันธุ์ รวมไปถึงการดูแลรักษาชมพู่ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากมีการดูแลรักษาที่ถูกวิธี ชมพู่ก็จะสามารถออกผลผลิตได้อย่างรวดเร็ว อย่าไปรุกเร้าเอาผลผลิตงวดแรกนะคะ ในช่วงแรกจะต้องมีการบำรุงลำต้นให้แข็งแรงและมีความอุดมสมบูรณ์ก่อน ค่อยมารุกและคาดหวังเอางวดที่สอง และงวดถัดๆมา




ที่มา : http://www.kasetporpeang.com

โพสต์โดย : Ao