Social :



รัฐบาลเปิด ‘สายตรงลุงตู่’ รับเรื่องร้องทุกข์-ปัญหาทุจริต

04 เม.ย. 61 06:00
รัฐบาลเปิด ‘สายตรงลุงตู่’ รับเรื่องร้องทุกข์-ปัญหาทุจริต

รัฐบาลเปิด ‘สายตรงลุงตู่’ รับเรื่องร้องทุกข์-ปัญหาทุจริต

รัฐบาลเปิด ‘สายตรงลุงตู่’ รับเรื่องร้องทุกข์-ปัญหาทุจริต


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดตัวโครงการสายตรงไทยนิยม หรือ “สายตรงลุงตู่” โดยกล่าวว่า สายตรงไทยนิยมที่เปิดขึ้นในวันนี้ เป็นช่องทางการสื่อสารของรัฐบาล โดยได้เพิ่มช่องทางสื่อสารด้วยการเปิด Website และ Facebook ชื่อ “สายตรงไทยนิยม” เพื่อรับคำร้องเรียน ร้องทุกข์ ข้อเสนอแนะ แสดงความคิดเห็น และใช้ในการกระจายข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ ข้อมูลสาธารณประโยชน์ ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เสริมช่องทางเดิมที่มีอยู่

ซึ่งโครงการนี้ไม่ใช่โครงการประชานิยม แต่เป็นอีกหนึ่งช่องทางการรับฟังปัญหาจากประชาชน ในขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความต้องการสาธารณูปโภคพื้นฐานมากถึง 50% เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การค้าขาย การคมนาคมได้สะดวก นอกจากนี้ ยังมีด้านสาธารณสุข 8% ด้านการเกษตรประมาณ 10% และด้านอื่น ๆ เช่น การบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น

พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเรื่องจะไม่ถึงนายกรัฐมนตรี และจะตอบทุกคำถาม หลังจากมีการพูดคุยกับคณะทำงานที่สรุปเรื่องเข้ามา ซึ่งบางเรื่องตอบได้ทัน บางเรื่องต้องใช้เวลาหาข้อมูล
MulticollaC
โดยจะทำให้ดีที่สุดทุกช่องทาง ทั้ง 191 และศูนย์ดำรงธรรม ไม่เฉพาะแค่เรื่องทุจริตเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ ของประชาชนด้วย โดยจะตรวจสอบตามขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจสอบข้อเท็จจริง การตั้งคณะกรรมการสอบวินัย โดยได้กำชับให้ลงโทษอย่างจริงจังทั้งทางวินัยและอาญา

นายกฯ ได้ฝากให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยควรต้องระมัดระวัง ทักท้วงผู้บังคับบัญชาบ้าง เมื่อเห็นบางเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน ก็ฝากถึงประชาชนว่า ขออย่าหลงเชื่อคำบิดเบือนซึ่งเริ่มมีมากขึ้น โดยขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อน

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานต้องทำงานในเชิงโครงสร้างในพื้นที่ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ส่งเสริมผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งการดูแลแรงงานภาคการเกษตรให้กลับสู่ภูมิลำเนา รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปการเกษตรทั้งระบบ ซึ่งได้ดำเนินการทบทวนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานให้มากขึ้น รวมทั้งการเจรจาค้าขายกับต่างประเทศ โดยต้องระมัดระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรภายในประเทศ ทั้งนี้ อยากให้ทุกคนคำนึงถึงกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งมีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือ เพื่อให้เป็นแรงงานที่มีศักยภาพ และเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้น





ขอขอบคุณที่มา:www.sanook.com

โพสต์โดย : Wizz

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด