จัดงานแต่งแบบนี้สิ ลดค่าใช้จ่าย แถมได้กำไรสุดคุ้ม
จัดงานแต่งแบบนี้สิ ลดค่าใช้จ่าย แถมได้กำไรสุดคุ้ม
งานแต่งงาน ถูกเรียกว่าเป็นงานฟุ่มเฟือยที่ทำให้หลายคนเกือบหมดเนื้อหมดตัวกันมาแล้ว ยิ่งถ้าบ้านไหนแขกเหรื่อเยอะ หรือเป็นคนประเภทหน้าใหญ่ใจโต จะหมดกี่บาทก็ช่าง แต่งานต้องใหญ่ไว้ก่อน ลงท้ายที่สุดก็ขาดทุนจนยับเยินก็มีให้เห็นไม่น้อยในปัจจุบัน ทั้งที่งานแต่งนั้น สามารถจัดขนาดกลาง ๆ ก็ได้ เป็นเพียงการให้เกียรติพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย และเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าคู่บ่าวสาวพร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำเทคนิคจัดงานแต่งงานง่าย ๆ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย พร้อมกับเหลือกำไรไปฮันนีมูนสบาย ๆ
1.เลือกสถานที่จัดงานแต่งงานที่ไม่ไกลมาก
สถานที่จัดงานแต่งงาน มีผลต่อแขกที่จะมางานเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ หรือสะดวกต่อการเดินทางทั้งการขับรถไปเอง นั่งรถประจำทางและรถไฟฟ้า ก็มีโอกาสที่แขกจะมาครบเกือบทั้งหมด แต่ทั้งนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องเลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรมเสมอไป ลองเลือกเป็นสโมสรทหาร หรือร้านอาหารขนาดใหญ่ที่รับจัดงานแต่งอยู่แล้ว ก็จะช่วยประหยัดได้มากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องนับจำนวนแขกให้ดี ๆ ก่อนเสมอ จะได้ตัดตัวเลือกในเรื่องของสถานที่ได้มากยิ่งขึ้น
2.เชิญแขกที่มีคุณภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก บางคนจัดงานแต่งงานทั้งทีก็แจกซองไปทั่ว
ด้วยจุดประสงค์ที่อยากให้มีคนมาร่วมงานเยอะ ๆ บางคนก็ขนกันมาทั้งบ้าน 6-7 คนแต่ใส่ซองแค่ 1,000 บาท หักลบแล้วก็ถือว่าไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไรนัก อาจจะดูใจแคบไปสักเล็กน้อย แต่ถ้าอยากให้ได้กำไรก็เชิญแขกที่มีคุณภาพ (บ้าง) จะดีกว่า เลือกเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ เพื่อนฝูงที่สนิทกันจริง ๆ หรือจะเป็นคนรู้จักที่เคยร่วมงานและเป็นมิตรที่ดีต่อกันก็พอแล้ว
3.ทำการ์ดเชิญและของชำร่วยด้วยตัวเอง
ถ้าหากว่ายังมีเวลาอีกหลายเดือน กว่าจะถึงงานแต่งงานของคุณ ก็ลองนั่งออกแบบการ์ดเชิญงานแต่งที่เป็นสไตล์ของคุณเอง จะเลือกแบบทำมือ หรือจะใช้โปรแกรมออกแบบภายในคอมพิวเตอร์ก็ได้ แล้วค่อยไปติดต่อให้ร้านปริ้นให้ จะดีกว่าไปจ้างร้านทำทั้งหมด ถึงแม้ว่ารูปแบบของมันอาจจะไม่สวยและหรูหรานัก แต่คุณและคนรักจะได้ภูมิใจว่าเป็นการ์ดแต่งงานใบเดียวในโลกที่คุณตั้งใจทำขึ้นมา และถ้าหากว่าหลังทำการ์ดแล้วเวลายังหลงเหลืออีก ก็ลองทำของชำร่วยด้วยฝีมือตัวเองเพิ่มไปด้วย จะช่วยประหยัดงบไปมากถึงหลักพันปลาย ๆ กันเลยทีเดียว
แต่งงานทั้งที ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองไปกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลย อะไรที่ทำด้วยตัวเองได้ ก็ขอให้ลองทำไปก่อน ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ค่อยไปหาซื้อหรือไปจ้างเขาทำ รับรองว่าคุณจะประหยัดงบประมาณไปได้เกินครึ่งอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณที่มา:www.sanook.com
โพสต์โดย : Wizz
