Social :



วิธีการ พัฒนาการตัดสินใจให้ดีขึ้น

21 เม.ย. 61 06:00
วิธีการ พัฒนาการตัดสินใจให้ดีขึ้น

วิธีการ พัฒนาการตัดสินใจให้ดีขึ้น

วิธีการ พัฒนาการตัดสินใจให้ดีขึ้น


ในชีวิตเราต้องตัดสินใจอะไรมากมาย เรื่องที่ต้องตัดสินใจมีตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงเรื่องสำคัญ อะไรที่เราตัดสินใจทำลงไปนั้นจะกำหนดชีวิตเราในภายหลัง การตัดสินใจครั้งสำคัญอาจแม้แต่มีผลกระทบต่ออนาคตก็เป็นได้ ถ้าเคยทำอะไรสักอย่างลงไปและต้องเสียใจ เราก็ได้บทเรียนที่จะสามารถนำมาใช้ตัดสินใจได้ดีขึ้นในครั้งต่อไปแล้ว

1.ตั้งกรอบการตัดสินใจ

สรุปประเด็นปัญหา. ก่อนที่จะสามารถตัดสินใจได้ดี ต้องสรุปประเด็นปัญหาให้ชัดเจนก่อน วิธีนี้จะช่วยให้มุ่งเฉพาะแต่เรื่องที่กำลังตัดสินใจ และป้องกันไม่ให้สิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจมาทำให้ไขว้เขว[1] การเขียนประโยคง่ายๆ ลงไปหนึ่งหรือสองประโยคว่า “เรื่องที่ฉันต้องตัดสินใจคือ...” ก็ช่วยได้แล้ว
ควรถามตนเองว่าทำไมรู้สึกว่าต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ แรงจูงใจคืออะไร วิธีนี้จะทำให้เข้าใจสิ่งที่จะทำ อาจตัดสินใจซื้อรถใหม่ ซื้อรถใหม่เพราะต้องมีรถใหม่ไหม ต้องการมีรถใหม่เพราะเพื่อนเราก็มีรถใหม่หรือเปล่า การเข้าใจแรงจูงใจของตนเองช่วยหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ไม่ดี [2]

2.จัดการความรู้สึกตนเอง. 

ความรู้สึกมีผลต่อการตัดสินใจ [3] นี้ไม่ใช่เรื่องแย่ สิ่งที่สำคัญคือหาให้พบว่าตนเองรู้สึกอย่างไรและควบคุมความรู้สึกนั้น การตัดสินใจที่ดีเกิดจากการใช้อารมณ์ความรู้สึกประกอบกับเหตุผล ควรใช้อารมณ์ความรู้สึกตอนที่ต้องตัดสินใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรงเท่านั้น [4]
ถ้าได้รับข่าวร้ายตอนก่อนไปทำงานหรือไปโรงเรียนพอดี ความรู้สึกด้านลบพวกนี้จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจบางเรื่อง ถ้ารู้ตัว ก็สามารถสงบใจในเวลาแค่แวบเดียว และเตือนตัวเองว่าต้องทำงานสำคัญที่อยู่ตรงหน้าก่อน

3.อย่ารับข้อมูลมามากเกินไป. 

เราอาจได้ยินผู้คนพูดถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของเรา การมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเป็นเรื่องสำคัญ แต่การได้ข้อมูลมาเยอะเกินไปก็อาจไม่ดีนัก [5] เรามักจะตัดสินใจจากข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับมา
ควรจัดลำดับว่าข้อมูลใดสำคัญและเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ต้องตัดสินใจมากที่สุด อาจจัดลำดับความสำคัญข้อมูลที่ต้องการไว้ในใจ หรือเขียนใส่กระดาษไว้
ถ้าคิดเรื่องที่กำลังตัดสินใจอยู่มานาน พักเพื่อทำให้จิตใจปลอดโปร่ง อาจเดินเล่น หรืออ่านหนังสือสัก 15 นาที[6]

4.พิจารณาทางเลือกหลายๆ ทาง. 
Lif

เขียนทางเลือกที่มีทั้งหมด ไม่ว่าจะรู้สึกว่าทางเลือกที่มีนั้นจะน่าขำแค่ไหน จิตไร้สำนึกมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ นักวิทยาศาสตร์พบว่าการตัดสินใจส่วนใหญ่อาศัยจิตไร้สำนึก การตัดสินใจเหล่านี้กลายเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะตัดสินใจตามข้อมูลที่มีอยู่ [7]
ฝึกใช้สติในการตัดสินใจ[8] ควรทิ้งสิ่งที่ทำให้ไขว้เขว และใช้เวลาตั้งสมาธิกับเรื่องที่ต้องตัดสินใจตรงหน้า หายใจเข้าลึกๆ และคิดเรื่องที่ต้องตัดสินใจ หาหนทางต่างๆ ในการแก้ปัญหา ข้อดีและข้อเสียของทางเลือกแต่ละทาง แค่ทำสมาธิ 15 นาทีก็สามารถทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น[9]
ควรตั้งสมาธิกับเรื่องที่อยู่ในปัจจุบัน ถ้าจิตใจเริ่มออกนอกลู่นอกทาง ให้พาความคิดกลับมาอยู่กับเรื่องที่ต้องตัดสินใจอีกครั้ง
การหมั่นยับยั้งความรู้สึกและการเตรียมข้อมูลที่จำเป็นจะช่วยให้การคิดแบบไร้จิตสำนึกทำให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น[10]

5.เอาตนเองออกมาจากการตัดสินใจ. 

การตัดสินใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเองนั้นยากลำบาก ให้แสร้งทำเป็นว่ากำลังตัดสินใจเรื่องของเพื่อน และเราเป็นผู้ให้คำปรึกษา เราจะให้คำแนะนำแก่เพื่อนต่างออกไปจากที่เราให้คำแนะนำตนเอง[11][12] วิธีนี้จะทำให้ได้มุมมองในการตัดสินใจหลายมุมมอง
ถ้ากำลังตัดสินใจว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์เดิมดีไหม ลองแสร้งทำเป็นว่าเพื่อนเราอยู่ในความสัมพันธ์นั้น ไม่ใช่เรา จากนั้นเราจะพิจารณาความสัมพันธ์จากมุมมองของคนสองคนที่เกี่ยวข้องในความสัมพันธ์นั้น อาจคิดวิธีการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ของเพื่อนคนนั้น และคิดผลลัพธ์ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
การใช้มุมมองจากคนภายนอกยังช่วยยับยั้งความรู้สึกอีกด้วย

6.คำนึงถึงผลเสียและผลดี. 

ควรเขียนสิ่งที่เป็นผลดีและสิ่งที่เป็นผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจ ยังควรคิดอีกด้วยว่าใครอาจได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจของเรา[13] จำไว้ว่ามีข้อดีและข้อเสียไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไรลงไป ควรตัดสินใจโดยชั่งน้ำหนักผลดีและผลเสีย เพราะไม่มีการตัดสินใจใดที่จะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง
ถ้าวางแผนที่จะซื้อรถคันใหม่ ข้อดีคือ รถอยู่ในช่วงรับประกันสินค้า รถเป็นแบบรุ่นใหม่ล่าสุด ใช้น้ำมันต่อระยะทางน้อยกว่า ข้อเสียอาจจะเป็นมีค่าใช้จ่ายดูแลรถยนต์เพิ่มเข้ามา และต้องจ่ายค่าประกันรถยนต์ คำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ควบคู่กับสถานการณ์ทางการเงินและสถานการณ์การคมนาคมในปัจจุบัน
ควรคิดถึงสิ่งที่ดีที่สุดและสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเรา ควรคำนึงถึงด้วยว่าถ้าไม่ตัดสินใจทำเลย อะไรจะเกิดขึ้น (ซึ่งนี้ก็เป็นการตัดสินใจเช่นกัน)





ขอขอบคุณที่มา:th.wikihow.com

โพสต์โดย : Wizz