Social :



วิธีการ ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน

21 เม.ย. 61 06:00
วิธีการ ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน

วิธีการ ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน

วิธีการ ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน


คุณมีปัญหาการยอมรับตัวเองเมื่อทำผิดพลาดหรือไม่? คุณรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดจนคุณกลับไปทำผิดพลาดซ้ำๆ กับนิสัยเดิมๆ หรือไม่? อาจเป็นเรื่องท้าทายที่จะยอมรับความผิดพลาดที่เราได้ทำไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราถูกเลี้ยงมาโดยคิดว่าสมบูรณ์แบบที่คำว่า “เยี่ยมยอด” กับคำว่า “ห้ามพลาด” ทับซ้อนกันอยู่ การทำผิดพลาดอาจแตกต่างจากความล้มเหลว ความล้มเหลวคือการไม่ประสบความสำเร็จจากการพยายาม แต่ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่โชคยังดีที่ยังคงมีวิธีการที่จะทำให้คุณยอมรับความผิดพลาดได้มากขึ้น และยังมีเทคนิคที่จะทำให้คุณเรียนรู้จากความผิดพลาดได้มากที่สุด

1.ให้โอกาสตัวเองได้ผิดพลาด. 

มีเหตุผลมากมายที่คุณควรให้ตัวเองได้ทำพลาดบ้าง การทำพลาดเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของมนุษย์ ความผิดพลาดเป็นแหล่งคำแนะนำที่ดีเยี่ยมและยังทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นอีกด้วย มันจะสอนสิ่งใหม่ๆ ให้กับคุณและทำให้คุณมองโลกได้กว้างขึ้น [1]
  • เช่น คุณอาจต้องการที่จะเรียนทำอาหาร เริ่มจากการที่คุณบอกตัวเองว่า “เรายังมือใหม่อยู่ยังไงก็ต้องทำพลาด แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย พลาดบ้างจะได้เก่ง”
  • บางครั้งความกลัวที่จะทำพลาด อุดมคตินิยม จะทำให้คุณไม่สามารถลองอะไรใหม่ๆ หรือแข่งขันอะไรได้เพราะว่าคุณกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีจนไม่กล้าทำ อย่าปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับคุณ
2.รู้ถึงพลังของนิสัย. 

บางครั้งความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากความพยายามในการทำของเรา แต่เกิดจากเราพยายามไม่เพียงพอ เราไม่สามารถพยายามอย่างเต็มที่กับทุกอย่างในทุกวันได้ สิ่งที่เราทำทุกๆ วัน เช่น การขับรถไปทำงานหรือทำอาหารเช้าสามารถกลายเป็นนิสัยจนเราไม่ได้ใส่ใจมันเท่าไรนัก ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้เราสามารถเก็บพลังงานไปใช้กับงานอย่างอื่นที่ต้องการความเอาใจใส่มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามบางครั้งพลังของนิสัยเหล่านี้สามารถนำไปสู่ความผิดพลาดได้ ต้องรู้ว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่มีพลังงานอยู่อย่างจำกัด
  • เช่น บางทีคุณอาจขับรถไปทางเดิมเพื่อไปทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ ในวันหยุดคุณควรจะขับรถพาลูกๆ ไปหัดเล่นฟุตบอล แต่คุณเพิ่งรู้ตัวว่าคุณได้เปิดโหมด “ขับขี่อัตโนมัติ” และขับไปทางไปที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว ความผิดพลาดโดยธรรมชาตินี้คือผลมาจากความเคยชิน การโทษตัวเองกับความผิดพลาดเช่นนี้เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ คุณควรแค่รับรู้มันแล้วเดินหน้าต่อ
  • จากการศึกษาพบว่าคุณอาจสามารถทดแทนความผิดพลาดจากความไม่รู้ตัวจากความเคยชิน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่รู้ตัวก็ตาม การศึกษากับนักพิมพ์ดีดแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะพิมพ์ช้าลงเมื่อพิมพ์ผิด ถึงแม้วว่าคุณจะรู้ตัวก็ตามว่ากำลังทำเช่นนั้นอยู่ [2].
  • จากการศึกษายังพบว่า 47% ของเวลาที่คนสติหลุด หรือปล่อยให้จิตใจของพวกเขาเตร็ดเตร่ออกจากงานที่ทำอยู่ จะเป็นช่วงเวลาที่ความผิดพลาดเกิดขึ้น หากคุณพบว่าคุณมักจะทำผิดพลาดเนื่องจากเหม่อลอย ลองพยายามฝึกจิตให้อยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน [3]
3.แยกแยะระหว่างความผิดพลาดจากการกระทำและความผิดพลาดจากการไม่ได้ทำ. 

ความผิดพลาดไม่ได้เป็นผลจากความพยายามของคุณเสมอไป บางครั้งคุณอาจทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ดั่งเช่นกฎหมายกำหนดไว้ว่าทำผิดจากการทำ (คือการทำบางอย่างที่ไม่สมควรทำ) และทำผิดจากการไม่ทำ (การไม่ทำบางอย่างที่ควรทำ) บ่อยครั้งที่ความผิดจากการกระทำมักถูกมองว่ารุนแรงกว่า [4] ความผิดพลาดจากการละเลยในหน้าที่มักจะดูธรรมดาเมื่อเทียบกับการทำผิดหน้าที่ [5]
  • อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดจากการละเลยหน้าที่อาจมีผลต่อชีวิตของคุณได้ เช่น หากบริษัทของคุณไม่ทันเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด อาจทำให้เกิดปัญหาด้านการเงินในชีวิตของคุณก็ได้ในอนาคต [6]
  • เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้จักความผิดพลาดทั้งสองอย่าง เพราะว่าคุณสามารถเรียนรู้จากมันได้ บางคนพยายามที่จะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดจากการกระทำด้วยการทำให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่นี่ไม่ได้ทำให้คุณพ้นจากความผิดพลาดในการไม่ทำสิ่งที่ควรทำ และยังไม่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตและความเจริญก้าวหน้าอีกด้วย [7]
4.แยกแยะระหว่างความผิดพลาดกับการตัดสินใจที่ไม่ดี. 

เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ความแตกต่างระหว่างความผิดพลาดและการตัดสินใจที่ไม่ดี ความผิดพลาดคือเรื่องผิดคาดเล็กน้อย เช่น อ่านแผนที่ผิดและออกผิดประตู การตัดสินใจที่ไม่ดีจะรุนแรงกว่านั้น เช่น เลือกไปทางที่วิวสวยตอนไปประชุมแล้วทำให้คนอื่นลำบากเพราะว่าไปสาย ความผิดพลาดสามารถเข้าใจได้ และอาจแก้ไขได้ง่ายกว่า คุณควรยอมรับว่าการตัดสินใจที่ไม่ดีก็เหมือนความผิดพลาดแต่คุณต้องให้ความใส่ใจมันมากกว่า [8]

5.โฟกัสที่จุดแข็งของคุณด้วย. 

เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหลีกเลี่ยงความยุ่งยากจากความผิดพลาดของคุณ ลองพยายามทำให้การโทษตัวเองและการชมตัวเองเมื่อทำอะไรได้ดีสมดุลกัน [9] อาจหมายถึงการฉลองให้กับอะไรที่ทำได้ดีอยู่แล้วหรือฉลองให้กับอะไรที่คุณมีพัฒนาการที่ดีขึ้น การพัฒนาของคุณจะไม่มีผลเลยหากคุณไม่ชื่นชมมัน
MulticollaC
คุณอาจเป็นมือใหม่เรื่องทำอาหาร แต่บางทีอาจมีเซนส์บางอย่างก็ได้ บางทีคุณอาจบอกได้ทันทีว่าเครื่องเทศตัวไหนที่ขาดไปจากแค่การชิม ชื่นชมตัวเองกับจุดแข็งเช่นนี้

6.มองความผิดพลาดให้เป็นโอกาส. 

มีกลไกในสมองที่ช่วยพวกเราป้องกันเมื่อเราทำอะไรผิดพลาด สมองจะสั่งงานเราเมื่อเราทำพลาด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในการเรียนรู้ การทำผิดพลาดสามารถช่วยให้เราตั้งสมาธิในสิ่งที่เรากำลังทำได้มากขึ้นและพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด [10]
  • การวิจัยยังแสดงให้เห็นอีกว่าผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์ อาจไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้เพราะว่าพวกเขามั่นใจในการตัดสินของพวกเขามากเกินไป การเปิดใจมองความผิดพลาดให้เป็นโอกาสก็เป็นประโยชน์เสมอ ถึงแม้ว่าคุณจะเก่งในด้านๆ นั้นๆ แล้วก็ตาม [11]
7.ดูว่านานแค่ไหนถึงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้. 

การวิจัยพบว่าอาจต้องใช้เวลาสิบปีในการลองผิดลองถูกกับทักษะต่างๆ ก่อนที่จะเก่งในเรื่องนั้นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเรื่องจริงของทุกๆ คนตั้งแต่นักดนตรีโมซาร์ทจนถึงนักบาสเก็ตบอลโกเบ ไบรอัน [12] อย่าหักโหมมากนักในตอนแรกหากคุณไม่สำเร็จเพราะว่าเป็นเรื่องปกติ มันจะต้องใช้ความพยายามในระยะเวลาที่ยาวนานเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จ

8.คิดว่าการตัดสินใจคือการทดลอง. 

ส่วนหนึ่งของปัญหาที่ไม่ยอมให้ตัวเองทำพลาดคือการคิดว่าคุณต้องตัดสินใจได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้ง แทนที่จะมาตั้งเป้าอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ควรพยายามที่จะคิดว่าการตัดสินใจคือการทดลองอย่างหนึ่งแทน การทดลองที่อาจจะได้ผลดีหรือไม่ดี แต่คุณก็ยังสามารถทำให้ดีที่สุดเพื่อทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่แน่นอนว่าจะช่วยลดความกดดันลงไปได้ [13]
  • เช่น กับเรื่องทำอาหาร ควรทำตามสูตรอาหารด้วยจิตใจที่คิดว่ามันคือการทดลอง อย่าไปคาดหวังว่าจะได้อาหารรสเด็ด ควรมองมันเป็นโอกาสที่จะทดลองและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำอาหาร วิธีนี้จะทำให้คุณหลีกเลี่ยงการตัดสินตัวเองเรื่องทำพลาด ที่คุณจะต้องทำมันอย่างแน่นอน
9.ค้นพบว่าสมองจัดการกับความผิดพลาดอย่างไร. 

สมองจะมีเซลล์ประสาทที่ช่วยพวกเราจัดการ ป้องกันความผิดพลาด และเรียนรู้จากสิ่งที่พวกเราทำผิด [14] สมองยังมีปัญหาด้านการยอมรับว่ามันได้ทำสิ่งผิดพลาดไป อย่างไรก็ตามสมองจะตีกรอบประสบการณ์ให้เหลือแต่เรื่องดีๆ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการยอมรับว่าได้ทำผิดพลาดไป หากคุณมีปัญหาเรื่องการรู้และยอมรับความผิดพลาด นี่คือเหตุผล [15] การเข้าใจว่าสมองจัดการกับความผิดพลาดอย่างไรสามารถช่วยให้คุณตระหนักถึงประสบการณ์ของคุณได้
  • สมองของคุณมีกระตอบสนองที่สำคัญอยู่สองแบบต่อความผิดพลาด: โหมดแก้ปัญหา (“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? จะทำอย่างไรไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก?”) ไม่น่าแปลกใจเลยที่โหมดแก้ปัญหาจะช่วยคุณเรียนรู้จากความผิดพลาดและแก้ไขความผิดพลาดนั้นในอนาคต มันมักจะเกิดขึ้นกับคนที่คิดว่าความฉลาดเป็นสิ่งที่ยืดหยุ่นได้ และทุกคนสามารถพัฒนาได้ และอีกโหมดคือโหมดปิดตัวมักพบจากคนที่คิดว่าความฉลาดเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้ว นั่นหมายความว่าคุณถูกกำหนดมาแล้วว่าคุณต้องเก่งหรือแย่ในสิ่งไหน ความคิดเช่นนี้จะทำให้คุณไม่สามารถเรียนรู้และเติบโต [16]
10.เข้าใจว่าสังคมมองความผิดพลาดอย่างไร. 

เราอยู่ในสังคมที่กลัวการทำผิดพลาด [17] เราโตมาโดยถูกสอนให้ทำพลาดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ [18] คนที่จะประสบความสำเร็จคือคนที่รักษากฏข้อนี้อย่างจริงจัง ต้องตั้งใจเรียนในมหาวิทยาลัยให้ได้เกรดดีๆ ได้เกียรตินิยม แทบไม่มีที่ว่างเหลือให้กับความผิดพลาดเลย ดังนั้นหากคุณกำลังมีปัญหาเรื่องยอมรับความผิดพลาดในตอนแรก อย่าคิดมากเพราะว่ามันไม่ใช่ความผิดของคุณทั้งหมด คุณอาจถูกสอนมาให้จริงจังกับตัวเองมากจนเกินไป
  • เตือนตัวเองว่าความเชื่อที่ว่าต้องไม่ทำผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องที่ผิด ความผิดพลาดคือทางเดียวที่เราจะเรียนรู้ หากคุณไม่ทำผิดพลาด (มาก) อาจเป็นเพราะคุณรู้ทุกอย่างอย่างทะลุปรุโปร่ง หากคุณต้องการเรียนรู้และเติบโต คุณต้องผ่านการทำผิดพลาดก่อน
  • เตือนตัวเองว่าอุดมคตินิยมกำลังทำให้คุณและผู้อื่นติดอยู่ในมาตรฐานที่ไม่สมจริง การทำผิดพลาดไม่ได้ทำให้คุณเป็นคนล้มเหลวหรือทำให้ความพยายามเสียเปล่า ลดมาตรฐานของคุณลงและเหลือพื้นที่ให้ความผิดพลาดบ้าง มันจะเป็นวิธีที่เป็นประโยชน์และได้ผลกว่าเพื่อความก้าวหน้า [19]






ขอขอบคุณที่มา:th.wikihow.com

โพสต์โดย : Wizz