สันธนะ! เปิดศึกชน5นายพล
13 พ . ค .61 พ . ต . ท . สันธนะ ประยูรรัตน์ ผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมือง ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนภายหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ว่า ตั้งเเต่พนักงานรอบสวนพาตนเดินทางออกจาก สน . ดอนเมือง ตนได้สังเกตุเห็นความผิดปกติ โดยมีการสั่งการถ่วงเวลาโดยอ้างว่ารอเอกสารคำร้องฝากขังพร้อมมีคำสั่งพิเศษมาให้ใช้เครื่องพันธนาการควมตัวตนอย่างแน่นหนา โดยใส่กุญแจมือ จนใกล้จะมาถึงศาลอาญาก็มีโทรศัพย์คำสั่งพิเศษโทรมาอีกว่าให้เอาตัวผมกลับไปยัง สน . ดอนเมือง
พ . ต . อ . สันธนะ กล่าวว่า ดังนั้น ตนจึงเเจ้งคนควบคุมตัวไปว่าขณะนี้คุณได้ควบคุมตัวผมพร้อมเอกสารเข้ามาในเขตอำนาจศาลแเล้ว หากคุมตัวผมกลับไม่แน่ว่าจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ คนควบคุมเลยจำเป็นต้องนำตนไปควบคุมที่ศาลอาญา แต่ก็ได้ทราบว่ามีการนำคำร้องฝากขังกลับไปแก้ไขได้
ซึ่งในคดีของตนได้ทำคำร้องเพิ่มเติมเพื่อที่จะไม่ให้ศาลอนุญาตปล่อยขั่วคราว แต่เมื่อมีการยื่นคำร้องฝากขังไปแล้ว ศาลท่านได้มีความเห็นว่าคดีของตนแม้จะเป็นการกระทำหลายครั้งในเวลาต่อเนื่อง แต่เป็นความผิดเดียวกันผู้ต้องหาคนเดียวกันจึงสั่งให้รวมคำร้องฝากขังเป็นคำร้องเดียวกันทั้ง 8 คดี ซึ่งผู้พิพากษาที่พิจารณาก็ได้แจ้งคำร้องให้ตนทราบ และตนก็ไม่คัดค้านการฝากขัง
พ . ต . อ . สันธนะ กล่าวอีกว่า ต่อมาจึงเป็นการพิจารณาในเรื่องขอประกันตัว ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนเสนอศาลค้านการปล่อยชั่วคราว แต่ศาลมีความเห็นอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้โดยมีหลักประกันเป็นเงินสด 3 เเสนบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และห้ามข่มขู่ผู้เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งตนไม่ทำอยู่แล้ว แต่รายละเอียดในคดีอย่างที่ได้เคยแจ้งว่าตนไม่คิดจะหลบหนี พอออกหมายจับตนก็เดินทางกลับมามอบตัวมีการประสานงานกับ ผกก . สน . โชคชัย ให้กับเจ้าหน้าที่ให้มารับตัว ตนไม่ได้ถูกรวบตัว ผกก . ก็รับทราบ แต่พอมีโทรศัพท์สั่งการมา ผกก . สน . โชคชัย ก็เปลี่ยนท่าทีจากที่เคยรับทราบเรื่องการติดต่อมอบตัวของตนทุกครั้ง
" ถ้ามีโทรศัพท์ ถ้ามามันจะเพี้ยนไปหมด เหมือนตอนมาศาลดีนะเขาโทรมาช้ารถเลี้ยวเข้าประตูศาลมาแล้ว ถ้ายังไม่เลี้ยวสงสัยได้วนรถกลับไปยัง สน . ดอนเมือง อีกคดีนี้มันมีเหตุมี่จะมีการสั่งการเป็นระยะให้มันมีเหตุเปลี่ยนเเปลงกันตลอดผมก็ไม่อยากให้ผู้ปฎิบัติเดือดร้อน เสียงนั้นมันมาจากสวรรค์หรือนรกสั่งมาทำไปอย่าให้คุณเดือดร้อน เดี๋ยวไอ้เสียงนั้นไว้เจอกับผมดีกว่าว่าใครมันจะเสียงดีงกว่ากันตอนนี้ผมหวังพึ่งศาลยุติธรรมเป็นที่สุด " พ . ต . อ . สันธนะ 
พ . ต . ท . สันธนะ กล่าวต่อถึงเรื่องที่เคยระบุว่ามีความขัดเเย้งกับผู้มีอิทธิพลฝ่ายรัฐ ว่า เรื่องนี้มันเริ่มต้นจาก 3 นายพลตำรวจ ตอนนี้ขยับเป็น 5 นายพล ที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบมุ่งเป้าหมายมาที่ตน ดูการปฏิบัติจากควบคุมตนก็จะทราบได้เลย ว่ามีการเตรียมกำลังมาเป็นร้อย และเตรียมปฏิบัติการด้วยความรุนแรง บุกค้นคอนโดตนจนคนแตกตื่น โดยตนจะทำหนังสือถึง ผบ . ตร . ให้ทราบว่าใครคือนายพลที่มีปัญหากับตน 3 คน และการปฏิบัติที่ผ่านมาเป็นการปฏิบัติที่รุนแรงและเลือกปฏิบัติกับตน
โดยหลังจากนี้ในทางคดีที่มี 8 พ่อค้าเเม่ค้าร้องทุกข์ ทำให้ตนสงสัยว่าตนไปรีดทรัพย์ใครในหมายจับก็ไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงตนไม่รู้เลยทั้งที่ตนเป็นผู้ต้องหา ต่อมาตนถึงทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้า 8 ราย ที่เต็มใจมาชี้ตนกับพนักงานตลาดร่วมกันข่มขู่บังคับเรียกเก็บ ไม่งั้นจะเปิดขายไม่ได้ทั้งที่ตลาดมีร้านค้ากว่า 500 ร้านค้า มีคุณเปิดไม่ได้ 8 ร้านค้า เรื่องนี้เชื่อว่าจะต้องมีการชักจูงโน้มน้าว 8 คนดังกล่าว ตนได้ชื่อเเล้วต่อไปจะทำการตรวจสอบว่าเป็นผู้ค้าจริงหรือไม่อยู่ล็อคไหน ตนไปเดินผ่านร้านเรียกเก็บตอนไหน ซึ่งทั้ง 8 ราย ตนอ่านชื่อเเล้วไม่รู้จักเลย ตนจำเป็นต้องฟ้องกลับแน่นอน
ส่วนหากมีการมาร้องตนเพิ่มและมีการขอออกหมายจับอีกเรื่องนี้ ทางทนายความของตนได้ยื่นคำร้องขอขอศาลว่าหากมีการเพิ่มผู้เสียหายก็ให้แจ้งข้อหามา แต่ในส่วนเรื่องการขอออกหมายจับหมายค้นที่มีการเตรียมการไว้ก่อน ตนขอให้ศาลพิจารณาให้ความเป็นธรรม เนื่องจากคดีนี้ตนอยู่ในอำนาจศาลแล้ว
" ความอับอายน่าจะเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำกับผมมันไม่เคยมีการปฏิบัติแบบนี้ ส่วนที่ว่าผมกร่างโวยวายเป็นคาแรคเตอร์ผมยอมรับ ผมไม่ยอมใคร ผมไม่เคยรีดไถใครไม่มีใครเคยมาฟ้องผม จะมีก็ตำรวจกลุ่มนี้เท่านั้น โดยหลังจากนี้ หากมีตำรวจมาปฎิบัติกับผมอย่างไรผมก็โต้กลับโต้ในทางกฎหมาย ผมเชื่อในศาลยุติธรรม "
โดยหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ พ . ต . ท . สันธนะ กล่าวว่า จะขอกลับบ้าน ไปพักผ่อนสักครึ่งวัน และก็เดินเข้าไปที่รถตู้สีดำ ที่มี พ . ต . อ .( พิเศษ ) สมชาย บิดา นั่งอยู่ในรถ พร้อมกับนั่งลงกราบลงที่ตัก และสวมกอดก่อนเดินขึ้นรถอีกคันกลับไป
ที่มา//แนวหน้า
