พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานของสื่อมวลชนเนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกว่า มีทั้งเรื่องที่พอใจและไม่พอใจการทำงานของสื่อมวลชน แต่ตนเองต้องอดทน เพราะสื่อคือผู้ที่ต้องสร้างการรับรู้ให้สังคมโดยรวมโดยไม่บิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง ด้วยความเข้าใจในบริบทของสังคม เข้าใจข้อกฎหมาย และการเรียนรู้อดีต
ทั้งนี้ เห็นว่าหากทุกคนยังทำเหมือนเดิม ประเทศก็คงหนีไม่พ้นความขัดแย้ง ส่วนในมุมมองของตน ต้องการให้สื่อทำหน้าที่โดยไม่บิดเบือนมีการวิพากษ์วิจารณ์ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่มีข้อเท็จจริง และต้องนึกถึงผลกระทบจากการแสดงความเห็นของตนเองที่มีต่อการแก้ปัฐหาต่างๆ เช่นการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องคำนึงถึงทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนของประชาชนและเจ้าหน้าที่และที่สำคัญต้องไม่ขยายความให้กับผู้ที่ไม่ทำตามกฎหมาย
ส่วนข้อเสนอของสมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยที่ให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.บางฉบับที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่สื่อมวลชน นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะนำไปพิจารณา แต่ย้อนถามว่าขณะนี้สื่อคิดว่าไม่มีเสรีภาพเพียงพอหรือไม่
ขณะที่เรื่องการแสดงความเห็นการออกเสียงประชามติ ที่บางฝ่ายมองว่าประกาศของ กกต. ที่ออกมายังไม่มีความชัดเจนอาจต้องมีการตีความในบางประเด็นนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้อ่านแล้ว และส่วนตัวเห็นว่ามีความชัดเจนและเข้าใจได้ และเชื่อว่าวิญญูชนย่อมต้องรู้ว่าเรื่องใดไม่ถูกต้องเรื่องใดเป็นการพูดที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และบิดเบือน หรืออะไรเป็นการพูดที่ชักจูง นอกจากนี้ ยังเห็นว่าเจตนาเป็นเรื่องสำคัญ หากมีเจตนาที่บริสุทธิ์ก็คงจะเข้าใจประกาศดังกล่าวได้
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การรณรงค์การออกเสียงประชามติสามารถทำได้ แต่ต้องเป็นลักษณะของการทำความเข้าใจถึงร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่การรณรงค์ให้รับหรือไม่รับร่าง และต้องอยู่บนพื้นที่ฐานทางวิชาการ
ทั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนจะมีความเข้าใจในร่างรัฐธรรมนูญ หากมีการแสดงความคิดเห็นและชี้แจงตามข้อเท็จจริงทั้งหมดโดยไม่มีกลุ่มใดให้ข้อมูลที่บิดเบือนกับประชาชน
