Social :



วิธีปลูกฟักทอง

16 มิ.ย. 61 15:06
วิธีปลูกฟักทอง

วิธีปลูกฟักทอง

วิธีปลูกฟักทอง


ฟักทอง  เป็นพืชตระกูลเดียวกับแตง เป็นผักที่ปลูกได้ง่าย ขึ้นได้ในดินทุกชนิด แทบทุกส่วนของฟักทองสามารถนำมาใช้บริโภคเป็นอาหารได้ นอกจากนั้นยังนำมาทำของหวานได้ด้วย ฟักทองมีลำต้นเลื้อย จึงต้องการพื้นที่ในการเพาะปลูกมาก มีดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ในต้นเดียวกัน ใช้แมลงเป็นตัวช่วยผสมละอองเกสร และสามารถช่วยการผสมให้ติดผลได้มากขึ้น ฟักทองเป็นพืชที่รู้กันในหมู่คนที่อพยพเข้าไปอยู่ในอเมริกาสมัยแรกๆ คนเหล่านั้นใช้ฟักทองเป็นอาหาร ชาวอินเดียแดงบางเผ่าใช้เปลือกฟักทองมาตากแห้ง แล้วนำมาทำเป็นเครื่องประดับ ส่วนชาวจีนนับถือว่าฟักทองเป็นพืชที่บ่งบอกถึงความสมบูรณ์มั่งคั่ง ซึ่งฟักทองนั้นแบ่งออกเป็น 2 ชนิด (ตามลักษณะลำต้น) ดังนี้


พวกที่ลำต้นเป็นเถาเลื้อย (Vine type) ลำต้นเมื่อโตแล้วจะเลื้อยและแตกแขนงมาก เป็นฟักทองพันธุ์พื้นเมืองทั่วๆ ไป และมีพันธุ์ลูกผสมต่างๆ พวกนี้จะออกดอกตามข้อ มีแขนงมากให้ผลแขนงละ 1-2 ผล
พวกที่ลำต้นเตี้ย (Bush type) พุ่มใหญ่ ใบมีขนาดใหญ่มาก และบางชนิดอาจมีหนาม ก้านใบกลมกลวง หักง่าย ออกดอกตามมุมก้านใบ ออกดอกเมื่อฟักทองอายุได้ 35 วัน มีผลมาก เพราะมีดอกตัวเมียมาก ขนาดของผลแต่ละผลมีขนาดที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิด


การเตรียมปลูกและการปลูกฟักทอง

ฟักทองเป็นผักที่ชอบอากาศร้อน ถ้าอากาศเย็นอัตราการเจริญเติบโตจะลดลงหรืออาจไม่ได้ผลผลิต อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตจะอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส ในบ้านเราปลูกได้ดีที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ และสามารถปลูกได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงพฤษภาคม ฟักทองชอบดินร่วนทราย ชอบอากาศแห้ง แต่ต้องมีความชื้นในดินพอเพียง และต้องการแสงแดดเต็มที่ตลอดทั้งวัน

การเตรียมดินในการปลูกนั้นควรเตรียมดินโดยการขุดไถให้ลึกประมาณ 25-30 เซนติเมตร และในการย่อยดินควรใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วลงไปด้วยโดยใช้อัตรา 2-4 ตัน / ไร่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ดินนั้นร่วนซุยและทำให้ดินสามารถระบายน้ำได้ดี อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักบางส่วนควรนำมาใส่รองก้นหลุมตอนปลูก และถ้าหากดินนั้นเคยใช้เพาะปลูกมานานควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพความเป็นกรดด้วย

การปลูกนั้นนิยมปลูกแบบหยอดเมล็ดเป็นหลุมลงในแปลงปลูกเลย โดยหยอดหลุมละ 3-5 เมล็ด ลึงลงในดินประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร แล้วกลบด้วยปุ๋ยคอก รดน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยฟาง เพื่อรักษาความชื้นของผิวหน้าดิน เมื่อต้นฟังทองงอกมีใบจริงแล้ว 2-3 ใบ ให้ทำการถอนต้นที่อ่อนแอทั้งไปให้เหลือหลุมละ 1 ต้นเท่านั้น
Lif

ส่วนระยะห่างระหว่างต้นในการปลูกนั้น ควรพิจารณาว่าเป็นฟักทองประเภทใด หากเป็นพวกเถาเลื้อยจะใช้ระยะห่างประมาณ 1.5 เมตร โดยอาจปลูกบนร่องเป็นร่องละแถว หรือร่องละ 2 แถวก็ได้ ในพวกลำต้นเป็นพุ่ม ใช้ระยะห่างประมาณ 0.75-1.5 เมตร ปลูกร่องละ 2 แถว หรือแถวเดียวก็ได้เช่นกัน

การดูแลรักษาฟักทอง

การให้ปุ๋ย ควรให้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในการเตรียมดินในอัตราที่สูง ในระยะแรกงของการเจริญเติบโตควรให้ปุ๋ยไนโตรเจน เช่น ปุ๋ยยูเรีย หรือแอมโมเนียมไนเตรด ในอัตราประมาณ 10-15 กิโลกรัม / ไร่ โดยจะใส่เมื่อต้นฟักทองอายุ 10-14 วันหลังจากงอก ปุ๋ยผสมสูตร 14-14-21 ใส่ในแปลงปลูกในอัตรา 100-150 กิโลกรัม / ไร่ ควรแบ่งปุ๋ยผสมนี้ใส่ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกใส่เป็นปุ๋ยรองพื้นครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือให้ใส่ตอนที่ฟังทองมีอายุได้ 21-25 วัน โดยใส่ด้วยการโรยข้างแถวแล้วพรวนดินกลบ รดน้ำให้ชุ่ม

การให้น้ำ ฟักทองเป็นผักที่ไม่ชอบดินที่ขังน้ำแฉะ ดังนั้นควรให้น้ำแต่พอสมควร ในระยะออกดอกและติดผลต้องระวังมิให้ขาดน้ำได้ ระบบการให้น้ำที่ดีคือ ให้น้ำเข้าร่อง (Furrow system) เพราะใบฟักทองจะไม่เปียกน้ำ และไม่ควรใช้ระบบพ่นน้ำฝอย เพราะจะทำให้ใบเป็นโรคเน่าได้ง่าย

การพรวนดินและการจำกัดวัชพืชนั้น ให้ทำในตอนที่ยังต้นเล็กอยู่และควรทำอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อฟังทองเริ่มเลื้อยคลุมดินแล้วจะไม่มีวัชพืชขึ้น ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องพรวนดินอีกต่อไป


การเก็บเกี่ยวฟักทอง

การเก็บเกี่ยวนั้นสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุได้ 45-60 วัน ซึ่งมักจะเป็นพวกพันธุ์พุ่ม สำหรับพวกพันธุ์เลื้อยมักจะเก็บเกี่ยวเมื่ออายุได้ 120-180 วัน ในการเก็บนั้นถ้าต้องการเก็บแบบเป็นผลอ่อน สามารถทำการเก็บได้โดยการสังเกตว่าผลมีเปลือกนิ่มหรือแข็ง ถ้าอ่อนผิวจะนิ่ม เนื้อภายในจะนุ่มๆ ผิวของผลจะเป็นสีเขียว ส่วนถ้าเก็บแบบผลแก่ ต้องเก็บในตอนที่ผลแก่จัดเต็มที่ ซึ่งผลที่แก่จัดจะมีเปลือกที่แข็ง การเก็บผลแก่นั้นจะเก็บแบบให้เหลือเถาของผลติดมาด้วย โดยเหลือเถาให้ยาว 7-10 เซนติเมตร ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผลที่แก่อยู่ได้นานนั้นเอง



ที่มา:.plookphak

โพสต์โดย : Ao