Social :



" 7 ที่เที่ยวหน้าฝน ผจญภัย ให้ หาย เหงา "

03 ส.ค. 61 16:08
" 7 ที่เที่ยวหน้าฝน ผจญภัย ให้ หาย เหงา "

" 7 ที่เที่ยวหน้าฝน ผจญภัย ให้ หาย เหงา "

" 7 ที่เที่ยวหน้าฝน   ผจญภัย ให้ หาย เหงา "



การได้ ท่องเที่ยวในฤดูฝน นับเป็น ช่วงเวลาดีดี กับผู้ที่รักในการท่องเที่ยว  ที่จะออกไป สัมผัสธรรมชาติ หน้าฝน อีกทั้งได้เที่ยวชุ่มช่ำ มีเ ม็ดฝนตกโปรยปราย ลงมา สร้างบรรยากาศไปอีกแบบ  วันนี้เรามีที่ให้คุณเช็คอินเก๋ๆกับ  " 7 ที่เที่ยวหน้าฝน  ผจญภัยให้ หาย เหงา"   นำพาทุกคนไปเติมพลังความสุขกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราได้นำมาเสนอในวันนี้ ... อย่ารอช้า!  ตามไปดูเลยดีกว่าคะ ว่ามีที่ไหนบ้าง


1.) สะพานบุญโขกู้โส่ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน
     ตั้งอยู่ที่บ้านแพมบก ตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย เป็นสะพานไม้ไผ่ยาวท่ามกลางทุ่งนาสีเขียวและภูเขาน้อยใหญ่ สัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม พร้อมชมวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน โดยสร้างเชื่อมระหว่างหมู่บ้านแพมบกและวัดห้วยคายคีรี มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อให้พระสงฆ์ข้ามมาบิณฑบาตในตอนเช้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องเหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน  และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิล ท่ามกลางวิวสวย ๆ ของป่าเขาและทุ่งนาอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถที่จะมานอนพักแบบสบาย ๆ ได้ที่โฮมสเตย์ของชาวบ้านภายในหมู่บ้านด้วย





2.) ภูห้วยอีสัน : จังหวัดหนองคาย
     ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม  เป็นยอดเขาสูงริมแม่น้ำโขงที่สามารถมองเห็นได้ทั้งวิวของทะเลหมอกสุดปัง และพระอาทิตย์ขึ้นสวยงามจับตา  โดยจุดเด่นของภูห้วยอีสันอยู่ที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน ดังนั้นคุณจึงมีเวลาตักตวงความสุขจากธรรมชาติได้แบบเต็มที่ นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปยังภูห้วยอีสัน จะต้องนั่งรถของชาวบ้านขึ้นไป โดยผ่านการประสานงานและอำนวยความสะดวกจาก อบต.บ้านม่วง อำเภอสังคม ใครอยากหาจุดชมทะเลหมอกวิวสวย คนไม่เยอะ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง





3.) ทุ่งดอกหงอนนาค : จังหวัดปราจีนบุรี
     หน้าฝนนี้ชวนชมทุ่งดอกหงอนนาคบานสะพรั่ง  ณ  สวนศักดิ์สุภา รีสอร์ท แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจะบานในช่วงเดือนสิงหาคมถึงประมาณเดือนธันวาคม ซึ่งการเข้าเที่ยวชมทุ่งดอกหงอนนาคสามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน  ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมจะอยู่ที่เวลาประมาณ 06.00-14.00 น.โดยจะมีค่าธรรมเนียมค่าเข้าชมท่านละ 20 บาท เพื่อนำไปบำรุงรักษาพื้นที่ ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยว ไม่เด็ด ไม่ดึงดอกไม้ รวมทั้งไม่เดินเข้าไปเหยียบย่ำในแปลง และขุด/ถอนต้นหงอนนาค 





4.) น้ำพุร้อนไทรงาม : แม่ฮ่องสอน
     แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ในเขตความรับผิดชอบของ อบต.แม่นาเติง 
Lif
 บริเวณป่าอนุรักษ์ไทรงาม  ตำบลแม่นาเติง  โดยเป็นบ่อน้ำผุดขึ้นตามธรรมชาติ มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำกว้างใส  ล้อมรอบด้วยธรรมชาติต้นไม้น้อยใหญ่ที่คอยให้ร่มเงา นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าการได้มาแช่ตัวที่น้ำพุร้อนแห่งนี้ยังช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ อย่างอาการของโรคเหน็บชาหรือไขข้ออักเสบ นั้นเองคะ





5.) น้ำตกปิตุ๊โกร : จังหวัดตาก
     ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยสามหมื่น อำเภออุ้มผาง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูงประมาณ 500 เมตร ถือเป็นน้ำตกแห่งความสวยงาม และเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยลักษณะของน้ำตกจะเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านหน้าผาหินขนาดใหญ่  โดยชั้นน้ำตกที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือชั้นน้ำตกที่ไหลมารวมกันจากด้านซ้ายและขวาเป็นรูปตัววีขนาดใหญ่ จนเกิดม่านสีขาวมองดูคล้ายรูปหัวใจ





6.) ทุ่มดอกเปราะภูสีขาว : จังหวัดพิาณุโลก
      ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โดยดอกเปราะภูสีขาวนี้จะบานสะพรั่งแทรกแซมอยู่ตามร่องหินในบริเวณลานหินปุ่ม ซึ่งเจ้าดอกเปราะภูสีขาวนี้สามารถพบเห็นได้ยากมาก เพราะฉะนั้นใครยังไม่มีแผนไปเที่ยวที่ไหนในช่วงหน้าฝน  ก็จัดไปเที่ยวที่นี่กันได้เลย  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทรศัพท์ 08 1596 5977





7.) ดินแดนหิงห้อย : จังหวัดปราจีนบุรี
     ตั้งอยู่ภายในกรมทหารปืนใหญ่ที่  2 รั กษาพระองค์  เลขที่ 1 หมู่ 5  ค่ายพรหมโยธี ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมือง ซึ่งการชมหิ่งห้อยธรรมชาติจะรังสรรค์ให้เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงหน้าฝนเท่านั้น สามารถติดต่อขอเข้าชมได้ที่บริเวณด้านหน้าค่าย เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมหิ่งห้อยจะอยู่ในช่วงระหว่างเวลา 18.00-20.00 น. 



















ข้อมูล :  kapook





โพสต์โดย : FILM1205