รับคุย คสช.นายกฯโยนกห.ดูโผทหาร-พรรคเดินสายต้องขอคสช.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการจัดทำบัญชีปรับย้ายนายทหารประจำปี 2561 ว่า ส่วนตัวได้เคยบอกไปแล้ว ว่าเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม โดยมีพระราชบัญญัติของกระทรวงกลาโหม และการแต่งตั้งขึ้นมา โดยคณะกรรมการซึ่งมาจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ และปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ต้องมีความเห็นชอบร่วมกัน ในการแต่ตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพคนใหม่ รวมถึงการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารยศชั้นนายพลด้วย โดยดูเรื่องของความอาวุโสและความเหมาะสม ไม่ใช่ดูว่าเป็นคนของใคร สนิทกับใคร จึงขอให้หยุดพูดในเรื่องนี้ได้แล้ว และขอให้ติดตามดูว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ติดตามในเรื่องนี้อยู่เช่นเดียวกัน ว่าการทำงาน ขีดความสามารถ ความรู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนไม่เก่งหากโตมาก็ใช้ได้ทั้งหมด แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมและเหมาะสม เพราะทหารเป็นหลักในการทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงอยู่ได้ตามหลักการหน้าที่ภารกิจของกระทรวงกลาโหม

ส่วนที่มีหลายฝ่ายระบุว่าไม่ต้องเกณฑ์ทหารนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ขออย่าลืมว่าวันนี้ทหารทำงานอะไรบ้าง หากไม่มีทหารก็จะไม่มีคนมาช่วยในยามวิกฤต เพราะทุกกระทรวงและหน่วยงานจะไม่มีกำลังพลทั้งสิ้น ทั้งหมดเป็นเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการจ้างคนเพิ่ม ซึ่งทหารจ้างเพียงครั้งเดียวเพราะทหารทำงาน กิน นอนอยู่ในค่าย เรียกครั้งเดียวก็พร้อมไปในทุกพื้นที่ได้เร็วกว่าหน่วยราชการอื่นๆ เมื่อถึงเวลาช่วยเหลือประชาชนในระยะแรกแล้วก็ไปในพื้นที่อื่นต่อไปและมอบให้หน่วยงานท้องถิ่นรับผิดชอบต่อ

อย่างไรก็ตาม หลายประเทศยังมีการเกณฑ์ทหารอยู่ และมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 300 บาทต่อวันเพราะได้มีการปรับไปแล้ว อาหารการกินก็ต้องดีขึ้นเพราะหักค่าประกอบเลี้ยงมากขึ้นจากเบี้ยเลี้ยงที่มีอยู่ และมีเงินเดือนแยกต่างหาก จะเห็นว่าในบางพื้นที่มีคนมาสมัครมากกว่าที่ต้องการ โดยไม่ต้องจับฉลาก จึงขออย่าไปบิดเบือน และขอให้ตอบคำถามด้วยว่าหากไม่มีทหารแล้วจะทำอย่างไร อย่านำจุดบกพร่องเล็กน้อยมาติติงจนทำให้ระบบเสียหาย และขออย่าทำเพื่อคะแนนเสียงเพราะประเทศชาติจะเกิดอันตราย

 

นายกฯแจงคุย คสช.หารือปลดล็อกแล้ว ย้ำไม่ลำเอียง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า ที่ประชุม คสช. ได้มีการหารือเรื่องการเตรียมการปลดล็อกต่างๆ เพื่อไปสู่แนวทางและมาตรการที่เหมาะสม ส่วนการเตรียมจัดขบวน คาราวานเดินสายปราศรัยของ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เพื่อรวบรวมสมาชิกและประชุมสมัชชาใหญ่ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ส่วนตัวไม่อยากตอบ ในภาพรวมที่จะเกิดผลกระทบกับใคร ซึ่งในช่วงนี้การทำอะไรก็ตามทุกคนจะต้องขออนุญาต คสช. พิจารณาก่อน โดย คสช. จะมองเรื่องความสงบสุขและสันติสุขเป็นหลัก เพราะขณะนี้ทุกคนจะไปไหนมาไหนตามปกติยังไม่ได้ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการผ่อนผันไปมากแล้ว ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะเห็นว่าทุกกลุ่มก็มีการเคลื่อนไหวกันหมด แต่ยืนยันว่าไม่ต้องการให้สร้างผลกระทบกับการจราจรหรือการสร้างความวุ่นวายต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการผ่อนผันในเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง ต้องรอให้กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งประกาศใช้ก่อน คสช.ถึงจะคลายล็อกต่างๆให้ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ จึงขอให้รอก่อน ดังนั้นการทำงานทางการเมืองวันนี้ใครจะพูดอะไรก็พูดไปแต่อย่าบิดเบือนและต้องดูกติกาของ คสช. ด้วย การเดินสายอะไรต่างๆ ตอนนี้ คสช. ดูอยู่แล้วไม่ต้องห่วง หากมีอะไรไม่ดีขึ้นมา และไม่ใช่เอื้อประโยชน์กับใคร

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวอะไรที่ผิดปกติหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี เพราะหากมีส่วนตัวคงพูดไปแล้วและขออย่าบอกว่าส่วนตัวเข้าข้างใคร เพราะกำลังดูในภาพรวมอยู่ และย้ำเรื่องการเดินสายทางการเมืองว่าต้องขออนุญาต ส่วนกรณีที่มีบางฝ่ายเริ่มเดินสายไปแล้วนั้น ต้องดูว่าเดินสายอย่างไร เดินบนถนนหรือไม่ ถ้าไปพูดจาในที่รโหฐานก็ว่าไป เมื่อนักข่าวไปถามเขาก็ตอบมา จึงขออย่าไปให้ความสำคัญตรงนี้

นายกฯเมิน”อภิสิทธิ์”มอง คสช.เป็นอีกกลุ่มการเมือง 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า คสช. เป็นอีกกลุ่มการเมืองหนึ่ง ว่า ต้องไปถามนายอภิสิทธิ์ แต่ยืนยันไม่เกี่ยวกับ คสช. เพราะส่วนตัวก็เป็นหัวหน้าคสช. ยังไม่เกี่ยวอะไรกับใครสักคน ดังนั้น จะมองอย่างไรก็มองได้ แต่ขอให้มองด้วยความเป็นธรรม มองอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ว่าการเมืองไทยจะไปอย่างไร การเลือกตั้ง ส.ส. และรัฐบาลจะได้มาอย่างไร ประชาชนเข้าใจการเลือกตั้งดีพอหรือไม่ ไม่ใช่เพียงรณรงค์ว่าอยากเลือกตั้งแล้ววันหน้าได้อะไรกลับมาใครรับผิดชอบก็กลับมาโทษ คสช. อีก

ขอบคุณข้อมูลจาก:innnews