แนะนำความรู้เกี่ยวกับ การผสมพันธุ์วัว
แนะนำความรู้เกี่ยวกับ การผสมพันธุ์วัว
แม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีในการปรับปรุงพันธุ์สัตว์จะมีการพัฒนาไปถึงขั้นโคลนนิ่ง เพื่อให้ได้สัตว์ต้นแบบที่ต้องการแล้วก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจกล่าวได้ว่าเทคนิคการผสมเทียม เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีที่สุด รวดเร็ว และประหยัด โดยเฉพาะสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ แต่ที่เป็นปัญหาหนักอกหนักใจสำหรับเกษตรกรมือใหม่ คือ การผสมไม่ติด ทำให้เสียเงินเสียทองเสียเวลา
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอันดับแรก คืออายุของแม่โคที่พร้อมจะผสมพันธุ์ครั้งแรกควรเฉลี่ยประมาณ 15 เดือน เพื่อที่จะได้คลอดลูกตอนประมาณอายุ 24 เดือน ซึ่งจะทำให้มีอายุการให้ผลผลิตนานกว่าโคสาวที่มีอายุแก่เดือน นอกจากนั้นขนาดของตัวสัตว์ก็มีความสำคัญเช่นกัน
ขนาดของตัวสัตว์ขณะผสมจะมีผลต่อขนาดของตัวสัตว์ที่ตั้งท้องด้วยในเรื่องของ การคลอดยาก เช่น ในเพศเมียที่ตัวเล็กกว่าปกติ ดังนั้นการเลี้ยงต้องมีการจัดการที่ดีตั้งแต่ต้นเพื่อให้โคมีน้ำหนักที่เหมาะสมเมื่ออายุพร้อมที่จะผสมพันธุ์ครั้งแรก
การคำนวณระยะเวลาที่เหมาะสมในการผสมเทียม หรือที่เรียกว่า นาทีทองของการผสมเทียม ถือเป็นเทคนิคสำคัญที่จะทำให้โคของเกษตรกรผสมติดหรือไม่เกษตรกรผู้เลี้ยงจึงควรที่จะศึกษาและสังเกตการแสดงอาการเป็นสัดของโคให้เป็นเพื่อที่จะได้กำหนดระยะเวลาการผสมเทียมให้ได้ผล เช่น โคเพศเมียที่แสดงอาการเป็นสัดควรจะได้รับการผสมเทียมในระยะเวลาช่วงกลางของการเป็นสัดหรือใกล้ระยะที่จะหมดการเป็นสัด (อาจจะหมดการเป็นสัดไปแล้วประมาณ 6 ชั่วโมงก็ได้ หรือเมื่อโคเพศเมียตัวนั้นยืนนิ่งให้ตัวอื่นขึ้นขี่ ซึ่งใช้เป็นหลักในการผสมพันธุ์) โดยทั่ว ๆ ไปโคเพศเมียจะมีระยะเป็นสัดประมาณ 18 ชม. แล้วต่อมาอีก 14 ชม. จึงมีไข่ตกเพื่อรอรับการผสมพันธุ์กับน้ำเชื้อพ่อโค จึงควรเลือกเวลาที่เหมาะสมในการดำเนินการผสมเทียม
ปฏิบัติงานผสมเทียม คือ
1. เมื่อโคเพศเมียตัวใดแสดงอาการเป็นสัดในตอนรุ่งเช้าของวันใดวันหนึ่ง ควรที่จะได้รับการผสมเทียมในวันเวลาเดียวกัน (ก่อน 16.30 น.)ฉะนั้นพอรุ่งเข้าของแต่ละวันเจ้าของสัตว์ควรที่จะได้ไปแจ้งและบอกเวลา (ประมาณ)ที่ท่านได้เห็นสัตว์ของท่านแสดงอาการเป็นสัด
2. ถ้าโคเพศเมียตัวใดแสดงอาการเป็นสัดในตอนบ่ายของวันใดวันหนึ่ง ควรที่จะได้รับการผสมเทียมตอนเช้าหรือก่อนเที่ยงของวันรุ่งขึ้น ฉะนั้นเจ้าของสัตว์เมื่อพบว่าสัตว์แสดงอาการเป็นสัดในตอนบ่ายหรือตอนเย็น ท่านควรจะไปแจ้งและบอกเวลาของการเป็นสัด (ประมาณ) ในวันรุ่งของวันต่อไปก็ได้
จะรู้ได้อย่างไรว่าโคตั้งท้องหรือไม่?
เมื่อแม่โคได้รับการผสมไปแล้วประมาณ 21 วัน หากแม่โคไม่กลับมาแสดงอาการเป็นสัดอีกก็อาจคาดได้ว่าผสมติด หรือโคตัวนั้นเริ่มตั้งท้องแล้ว เพื่อให้รู้แน่ชัดยิ่งขึ้น ภายหลังจากการผสมแม่โคแล้ว 50 วันขึ้นไป อาจติดต่อสัตวแพทย์หรือบุคคลผู้มีความชำนาญในการตรวจท้องแม่โค (โดยวิธีล้วงเข้าไปคลำลูกโคทางทวารของแม่โค) มาทำการตรวจท้องแม่โคก็จะทราบแน่ชัดยิ่งขึ้น
ข้อสังเกต
ในกรณีโคสาว จะสังเกตได้จาการเจริญเติบโตที่เร็วขึ้น กินจุขึ้น ความจุของลำตัวโดยเฉพาะส่วนท้อง ซี่โครงจะกางออกกว้างขึ้น ขนเป็นมัน และไม่เป็นสัดอีก
การคลอดลูก
โดยทั่วไปแม่โคจะตั้งท้องประมาณ 283 วัน หรือประมาณ 9 เดือนเศษ ในช่วงนี้แม่โคต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เรื่องความเป็นอยู่และอาหารเป็นพิเศษ เพราะลูกในท้องเจริญขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นไปอย่างรวดเร็ว ในระยะก่อนคลอดประมาณ 45 - 80 วัน ควรเพิ่มอาหารผสมให้แก่แม่โคท้อง เพื่อแม่โคจะได้นำไปเสริมสร้างร่างกายส่วนที่สึกหรอ และนำไปเลี้ยงลูก หรือนำไปสร้างความเจริญเติบโตสำหรับอวัยวะบางอย่างที่ยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มากที่สุดและเพื่อไม่ให้แม่โคซูบผอม สำหรับแม่โคที่กำลังให้นมเมื่อตั้งท้องลูกตัวต่อไปควรจะหยุดรีดนมก่อนคลอด 45 - 60 วันสำหรับ แม่โคท้องแรกหรือท้องสาว หรือแม่โคที่ยังไม่เจริญเต็มที่ (อายุไม่ถึง 5 ปี) แม้จะให้ลูกมาแล้ว 1 หรือ 2 ตัวก็ตาม ก่อนคลอดลูกตัวต่อไปควรจะหยุดพักการรีดนมเร็วกว่าแม่โคที่โตเต็มที่แล้ว อย่างน้อยก่อนคลอดประมาณ 45 -60 วัน เพื่อให้แม่โคได้มีเวลาเตรียมตัว ได้พักผ่อนร่างกายและอวัยวะต่างๆ บ้าง มิฉะนั้นแม่โคอาจจะได้รับผลกระทบกระเทือน นั่นหมายถึงผลเสียหายที่จะตามมาภายหลังได้ เช่น ร่างกายจะชะงักการเจริญเติบโตเพราะอาหารไม่พอ ร่างกายไม่สมบูรณ์ เมื่อคลอดลูกออกมาลูกโคอ่อนแอ มีช่วงระยะการให้นมในปีต่อไปสั้นลง ผสมติดยาก ทิ้งช่วงการเป็นสัดนานและอื่น ๆ เป็นต้น
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.rakbankerd.com
โพสต์โดย : POK@