Social :



ทำความรู้จักกับ ดอกมะลิ ไม้มงคล ประจำวันแม่แห่งชาติ

11 ส.ค. 61 10:08
ทำความรู้จักกับ ดอกมะลิ ไม้มงคล ประจำวันแม่แห่งชาติ

ทำความรู้จักกับ ดอกมะลิ ไม้มงคล ประจำวันแม่แห่งชาติ

ทำความรู้จักกับ  ดอกมะลิ  ไม้มงคล ประจำวันแม่แห่งชาติ

"มะลิ"   ไม้มงคลยอดนิยม  ที่คนไทยนำมาใช้เป็นเครื่องสักการะบูชาพระ  ด้วยกลิ่นหอมสดชื่น  สีขาวสะอาดบริสุทธิ์  จึงมีความเชื่อกันว่าหากปลูกไว้ในบริเวณบ้านจะทำให้คนในบ้านได้รับความปรารถนาดีจากผู้อื่น  เป็นที่รักของคนรอบข้าง  มะลิยังถือเป็นไม้ดอกเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมาก  ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่รู้จักมานานและนิยมกันอย่างแพร่หลาย  กลิ่นหอมของดอกมะลิแตกต่างจากดอกไม้ชนิดอื่นๆ  เมื่อได้กลิ่นแล้วจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ



ปัจจุบันมะลิกลายเป็นไม้ดอกที่ปลูกเพื่อการค้า  สามารถทำรายได้ให้กับผู้ปลูกได้เป็นอย่างดี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวดอกมะลิจะมีราคาแพงมาก  รวมถึงช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ ในบางปีราคาพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ  2,500 - 2,800  บาทเลยทีเดียว   "มะลิ"   เป็นไม้ดอกที่ปลูกง่าย  ทนทาน  ทำรายได้ดีกว่าไม้ดอกชนิดอื่นๆ  อีกหลากหลายชนิด  ในปัจจุบันมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายเนื่องจากมะลิเป็นที่ต้องการของตลาดตลอดทั้งปี  เราจะเห็นว่ามีเกษตรกรหลายท่านหันมาปลูกดอกมะลิแบบปลอดสารพิษกันมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าการดูแลจะดูแลยากกว่า  แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่า  เพราะนอกจากจะเพิ่มช่องทางการขายได้แล้ว  ยังช่วยดูแลรักษาสุขภาพทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

หากพูดถึงเรื่องของสายพันธุ์มะลิ  หลายคนคงพอจะทราบว่า  มะลิ มีมากกว่า  200  ชนิด  และมีอยู่ในประเทศไทยประมาณ 45 ชนิด แต่จะมีอยู่เพียง 14 ชนิดเท่านั้นที่เป็นที่นิยมค่อนข้างมาก อันได้แก่

1.มะลิลา   เป็นไม้รอเลื้อย  กิ่งอ่อนและกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อนมีขน  ใบเป็นใบเดียวออกเป็นคู่ตรงกันข้ามกัน  ใบเป็นรูปไข่ขอบเรียบ ดอกออกเป็นช่อ  มี  3  ดอก  ดอกกลางบานก่อน  กลีบดอกชั้นเดียว  ปลายกลีบมน  ดอกสีขาว มะลิชนิดนี้ จะใช้ในการเด็ดดอกขาย

2.มะลิลาซ้อน   ลักษณะต้น  ใบ  อื่น ๆ  คล้ายมะลิลา  แต่ใบใหญ่กว่า ดอกออกเป็นช่อ  มี  3  ดอก  และดอกกลางบานก่อน  เช่นกัน  แต่มีดอกซ้อน  3-4  ชั้น  ปลายกลีบมน

3.มะลิถอด   ลักษณะโดยทั่วๆ  ไป  ทั้งต้น  ใบ  การจัดเรียงของใบ  รูปแบบของใบคล้ายมะลิลาซ้อน  แต่ใบเป็นคลื่น  ดอกเป็นช่อมี  3  ดอก  ดอกซ้อนมากชั้นกว่า คือ 3-6 ชั้น ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมมาก ขนาดดอก  2.5-3.5  ซม.

4.มะลิซ้อน   ลักษณะทั่วๆ  ไปคล้ายมะลิถอด  และมะลิลาซ้อน  แต่ใบมีลักษณะแคบกว่า ดอกออกเป็นช่อมี 3 ดอกเช่นกัน กลีบดอกซ้อน แต่ซ้อนกว่า  5  ชั้น แต่ละชั้นมีกลีบดอก  10  กลีบ  ขึ้นไป  ขนาดดอก  3-4  ซม. ดอกสีขาว  กลิ่นหอมมาก

5.มะลิพิกุลหรือมะลิฉัตร   ลักษณะต่างๆ  คล้ายกับ  4  ชนิดแรก  ใบคล้ายมะลิซ้อนและมีคลื่นเล็กน้อย  ดอกเป็นช่อ  3  ดอก  ดอกซ้อนเป็นชั้นๆ  เห็นได้ชัด (คล้ายฉัตร) และดอกมีขนาดเล็กพอๆ  กับดอกพิกุล ขนาดดอก  1-1.4  ซม.  ดอกสีขาว กลิ่นหอม

6.มะลิทะเล   เป็นไม้รอเลื้อย  ดอกเป็นกระจุก ๆ หนึ่ง มี  5-6  ดอก  กลิ่นหอมฉุน
Lif

7.มะลิพวง   ลำต้นเป็นไม้พุ่ม  กิ่งอ่อนและกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน  มีขนเห็นเด่นชัดเช่นกัน ใบและรูปแบบตลอดจนการจัดเรียง คล้ายมะลิอื่น ๆ  แต่ใบมีขนเห็นเด่นชัด  ดอกออกเป็นช่อแน่น สีขาวกลีบดอกชั้นเดียว  กลีบเล็กยาว  ปลายแหลม ขนาดดอก  3-4.5  ซม.  มีกลิ่นหอมมาก

8. มะลิเลื้อย   ลำต้นเลื้อยไปตามพื้นดินยาวประมาณ  1 ฟุต ใบเล็กกว่าพันธุ์อื่นมาก

9. มะลิวัลย์หรือมะลิป่า  เป็นไม้เถาเลื้อย  พาดต้นไม้อื่นหรือขึ้นร้าน ใบเล็กกว่าและยาวกว่ามะลิอื่นๆ  กลีบดอกเล็กยาว สีขาว กลิ่นหอมเย็นชืด

10.พุทธิชาติ   เป็นไม้รอเลื้อย  ใบเป็นใบเดี่ยวแต่ใบด้านล่างลดขนาดลงมากจนมีลักษณะคล้ายหูใบ  ดอกเป็นช่อ  ออกที่ปลายกิ่ง  และข้างกิ่ง  ดอกสีขาว  ปลายกลีบมน  ก้านดอกยาว

11.ปันหยี  ต้นเป็นไม้เลื้อยเช่นเดียวกับมะลิวัลย์  ใบเดี่ยว  การออกของใบเช่นเดียวกันแต่ใบมีขนาดใหญ่กว่า ใบเป็นมันสีเขียวเข้ม หนาและแข็ง ดอกเป็นดอกช่อ สีขาวกลีบดอกใหญ่กว่ามะลิวัลย์  กลีบดอกกว้างและมน ดอกชั้นเดียว  ขนาดดอก  4-4.5  ซม. กลิ่นไม่หอม

12.เครือไส้ไก่   เป็นไม้รอเลื้อย  กิ่งอ่อนและกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อนมีขน  ใบเดี่ยว  ปลายใบแหลม  สีเขียวเข้มเป็นมัน  ดอกออกเป็นช่อดอกกลางบานก่อน กลีบดอกขาว  ชั้นเดียวปลายกลีบแหลม

13.อ้อยแสนสวย   เป็นไม้เลื้อย  กิ่งอ่อนสีม่วงแดง  ไม่มีขน กิ่งแก่สีน้ำตาล  ใบเดี่ยว  ขนาดใหญ่ก้านใบสีม่วง ดอกออกเป็นช่อมี  8  ดอก  ดอกกลางบานก่อน  ก้านดอกยาว  กลีบดอกขาว  ชั้นเดียวปลายกลีบมน

14.มะลิเขี้ยวงู   (มะลิก้านยาว)  เป็นไม้เลื้อย  แตกกิ่งก้านมาก  ไม่มีขน  ใบออกเป็นช่อคล้ายใบแก้ว  แต่บางกว่า ดอกออกเป็นช่อมี  3  ดอก  ก้านดอกเป็นหลอดสีแดงอมม่วง กลีบดอกขาว  กลิ่นหอมจัด  นอกจากนี้ยังมีมะลิอื่น ๆ  อีกเช่น  มะลิฝรั่ง,  มะลิเถื่อน  ฯลฯ  แต่มะลิที่นิยมปลูกเป็นการค้าในปัจจุบัน  ได้แก่  มะลิลา  มีชื่อวิทยาศาสตร์  Jasminum  sambac  และที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเรื่องของมะลิลา 



ดอกมะลิใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ  เป็นส่วนผสมในการทำน้ำลอยดอกไม้สำหรับแต่งกลิ่นหรืออบกลิ่นขนมให้หอม ใช้อบผ้า  และแต่งกลิ่นใบชา ดอกมะลิสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยทำหัวน้ำหอม  ใช้ปรุงแต่งในเครื่องสำอางรูปแบบต่างๆ  ในตำรายาไทยน้ำแช่ดอกมะลิสดใช้ดื่มเพื่อบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น  และสามารถนำดอกมะลิแห้ง ต้มน้ำหรือชงน้ำร้อนดื่มเป็นชาดอกมะลิได้ จะช่วยคลายเครียด หลับสบาย ตื่นมาสดชื่น ใบสดของต้นมะลิ  นำมาตำกับกากมะพร้าว  พอกหรือทาแผลพุพอง  แก้พิษเรื้อรัง  แก้พิษฝีดาษได้  ยอดใบสดนำมาตำพอกบริเวณรอยแผลเป็นจะช่วยทำให้รอยแผลเป็นจางลงได้  และเชื่อกันว่าการล้างหน้าด้วยน้ำลอยดอกมะลิจะทำให้ตาสว่าง ดอกมะลินอกจากให้ประโยชน์ทางยาแล้ว ยังนำไปร้อยเป็นพวงมาลัย ซึ่งถือเป็นศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่และเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย และมะลิยังเป็นสัญลักษ์แทนความรักความผูกพันอันบริสุทธิ์ระหว่างแม่และลูกอีกด้วย  และปัจจุบันทางราชการได้กำหนดให้ดอกมะลิเป็นสัญลักษณ์ประจำวันแม่แห่งชาติ  เพื่อเป็นตัวแทนแสดงความรักความห่วงใยของลูกที่มีต่อแม่  ซึ่งเปรียบเสมือนความรักอันบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับสีขาวของดอกมะลินั่นเอง


ข้อมูลอ้างอิง  :   https://www.rakbankerd.com

โพสต์โดย : POK@