Social :



เปิดใจพี่ชายบูม กรณีถูกออกหมายจับโกงเงินบิทคอยน์ เจ้าตัวยืนยันทำธุรกิจถูกต้อง ไม่ได้ฟอกเงิน (คลิป)

17 ส.ค. 61 11:08
เปิดใจพี่ชายบูม กรณีถูกออกหมายจับโกงเงินบิทคอยน์ เจ้าตัวยืนยันทำธุรกิจถูกต้อง ไม่ได้ฟอกเงิน (คลิป)

เปิดใจพี่ชายบูม กรณีถูกออกหมายจับโกงเงินบิทคอยน์ เจ้าตัวยืนยันทำธุรกิจถูกต้อง ไม่ได้ฟอกเงิน (คลิป)

เปิดใจพี่ชายบูม กรณีถูกออกหมายจับโกงเงินบิทคอยน์ เจ้าตัวยืนยันทำธุรกิจถูกต้อง ไม่ได้ฟอกเงิน (คลิป)


จากกรณีกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) บุกจับกุมตัว บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต อายุ 27 ปี นักแสดงหนุ่ม ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หลังพบหลอกนักธุรกิจหนุ่มชาวฟินแลนด์ให้ลงทุนในธุรกิจเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี่ สกุลบิทคอยน์ มูลค่าเกือบ 800 ล้านบาท

ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับทั้งหมด 3 คน เป็นพี่น้องกัน ประกอบด้วย นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูม (ได้ประกันแล้ว ยืนยันไม่รู้เรื่อง) น.ส.สุพิชย์ฌา พี่สาว (เข้ามอบตัว และได้ประกันแล้ว ปฏิเสธไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน) และนายปริญญา พี่ชาย (หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ)


ล่าสุด พี่ชายคือคุณปริญญา ได้ติดต่อรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เพื่อขอพื้นที่ชี้แจง โดยยืนยันว่า ไม่ได้หลบหนี ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอเอกสารทางคดี ซึ่งตำรวจก็รับรู้ว่าติดต่อไป ยืนยันว่าจะกลับมาสู้คดีแน่นอน ส่วนพ่อแม่ บูม และพี่สาวไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ในครอบครัวมีเพียง ตัวนายปริญญา ชและน้องชายอีกคนชื่อ ธนสิทธิ์ ที่รู้เรื่องทั้งหมด

โดยจุดเริ่มต้นมาจากการที่ นายอานี่ ชาวฟินแลนด์ติดต่อมาเอง เพื่อจะขอแลกเงินดิจิตอลบิทคอยน์ ออกมาเป็นเงินสด การที่นายอานี่ไม่ไปแลกในตลาดเงินดิจิตอล เช่น BX ที่นิยมในบ้านเรา เพราะการแลกเงินบิทคอยน์จำนวนมาก ก็เหมือนการทุบหุ้น มีข้อจำกัดเรื่องเพดานการซื้อขาย และจะทำให้คนสงสัยว่า นายอานี่เป็นใคร ได้บิทคอยน์มาจากไหนเยอะแยะ จึงมาทำการซื้อขายนอกตลาด และทางนายปริญญาก็จะได้รับค่าแลกเปลี่ยน 25% กลับมาเป็นผลกำไร และมีการทำสัญญา ซึ่งยืนยันว่าทำตามสัญญาทุกอย่าง ไม่ได้ฉ้อโกงแต่อย่างใด

MulticollaC

นอกจากซื้อขายเงินบิทคอยน์กันแล้ว นายปริญญายังมีบริษัท ชื่อ XPlay ซึ่งนายอานี่ ติดต่อเพื่อนนายปริญญาอีกคน เพื่อขอซื้อหุ้นบริษัท จุดประสงค์เพื่อจะได้เป็นเจ้าของบริษัท ไปขอ work permit ทำงานในประเทศไทยได้ ซึ่งก็ตกลงซื้อขายกันถูกต้อง

ส่วนที่บอกว่า จะเปลี่ยนบิทคอยน์เป็นสกุลเงินดราก้อน ส่วนนี้เป็นเรื่องของผู้กว้างขวางในวงการตลาดหลักทรัพย์ แต่นายปริญญาก็ชี้แจงแทนให้ว่า จริงๆเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว แต่ตัวนายอานี่เอง ที่ไม่ยอมแจ้งเปิดกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิคเพื่อรับสกุลเงินดราก้อนเองต่างหาก

ส่วนหุ้นของอีกบริษัท ซึ่งก็คือ DNA ก็ไม่เกี่ยวกับนายปริญญา แต่ก็ยืนยันได้ว่า มีการดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยนายอานี่ ได้มีการไปฟ้องศาลแขวงดุสิต ในข้อหาฉ้อโกง กับนายปริญญาและครอบครัว ซึ่งคดีอยู่ในชั้นสอบพยาน ขณะนี้นายปริญญาก็สู้คดีอยู่

ส่วนเรื่องการกระจายเงินไปให้ครอบครัวนั้น น้องชายที่ชื่อนายธนะสิทธิ์ เป็นคนดำเนินการทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดซื้อขายเงินดิจิตอล มีการกำหนดเพดาน แลกเงินออกทำให้ต้องกระจายบัญชี แต่ก็สามารถเรียกดูการโอนย้อนหลังได้หมด มีหลักฐานปรากฏชัดเจน


ครอบครัวไม่ทราบเพราะปกติครอบครัวเป็นกงสี มีธุรกิจซื้อขายฝาก ต้องโอนเงินสดกันเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ และทนายได้เสริมว่า ธุรกรรมทั้งหมดที่นายปริญญาทำกับอานี่ จ่ายเป็นบิทคอยน์ก็ต้องแปลงเป็นเงินบาท ทำถูกต้องทุกอย่าง มีหลักฐานการโอนเงินทุกขั้นตอน ตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการฟอกเงินได้อย่างไร เมื่อไม่ได้มีการฉ้อโกง หรือทำผิดสัญญาใดๆ

โดยหลังเกิดเรื่องได้คุยกับครอบครัว ทางนายปริญญาก็เป็นห่วงและคิดถึงพ่อแม่ ยืนยันแทนบูมน้องชายที่เป็นดาราว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น



cr/เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

โพสต์โดย : Ao