อย่าตีงู!! โบราณว่าเจองูลักษณะแบบนี้ ห้ามตีเด็ดขาด

อย่าตีงู!! โบราณว่าเจองูลักษณะแบบนี้ ห้ามตีเด็ดขาด เป็นงูอาภัพ บาปจะติดตัว

ฤดูฝนบางบ้านเจอปัญหางูมาอาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัย สร้างความโกลาหลให้สมาชิก บางคนไม่กลัวตีงู ทราบไหมว่า คนโบราณมีความเชื่อและห้ามเพราะอะไร งูคือสัตว์โลกที่ไม่เคยกระพริบตา อสรพิษร้ายที่ประวัติศาสตร์โลกเคยจารึกความโหดร้ายไว้ เพราะมีพิษร้ายฆ่าคน โดยเฉพาะ งูแสงอาทิตย์ ความเชื่อคนโบราณสอนลูกหลานไว้อย่างไรเวลาเจอและงูแสงอาทิตย์ที่ว่ามีลักษณะอย่างไร บทความนี้ Horoscope thaiza จะอธิบาย

     ความเชื่อคนโบราณว่าห้ามตีงูและที่สำคัญงูแสงอาทิตย์พิเศษกว่างูชนิดอื่น คนโบราณว่าห้ามตีเด็ดขาดเพราะเป็นงูที่อาภัพ โดนใส่ร้ายจากความเชื่อกลุ่มคนที่ไม่มีความรู้ว่า โดนงูแสงอาทิตย์กัดเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจะตายทันที อาจเพราะลักษณะเกล็ดวาวๆ ที่ผิวหนังงู สะท้อนแสงสีรุ้งเมื่อมีแสงแดดกระทบ ทำให้มีความรู้สึกสะพรึงกลัวในกลุ่มคนที่มีความกลัวงูอยู่แล้ว ความจริงงูที่ว่าไม่มีพิษ นักสิ่งแวดล้อมแนะนำว่าเป็นงูที่ควบคุมสิ่งแวดล้อมมิให้ปริมาณประชากรงูพิษทั้งหลาย ปริมาณมากเกินไป งูแสงอาทิตย์จะกินลูกงูเห่า กบ เขียด หนูเป็นอาหาร ธรรมชาติจะควบคุมธรรมชาติกันเอง ความเชื่อคนโบราณส่วนใหญ่ว่าห้ามตีเพราะธรรมชาติงูแสงอาทิตย์จะไม่กัดคน ควรนำไปปล่อยในแหล่งธรรมชาติ ห้ามนำมาเลี้ยงเพราะเป็นสัตว์ป่าสงวนมีความผิดทางกฎหมาย

     

คนชนบทสมัยโบราณจะเลี้ยงห่านที่บ้านไว้กันงู ห่านเลี้ยงง่ายได้ทุกที่ที่มีที่กันแดดกันฝนห่านมีโอกาสมีชีวิตรอดได้มาก เพราะใช้หญ้าอย่างเดียว ห่านมีการดำรงชีวิตที่เรียบง่ายกว่าสัตว์ชนิดอื่น รักที่อยู่อาศัย และที่สำคัญมูลห่านมีสารบางชนิดที่แสลงกับงู ป้องกันงูได้อย่างดี กล่าวคือการโรยมูลห่านไว้ คราใดที่งูเลื้อยผ่าน มูลห่านจะทำปฏิกิริยากับตัวงู ทำให้งูดิ้นทุรนทุรายระคายเคืองอย่างอัศจรรย์ เพราะมูลห่านมีสารเคมีที่ทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะทำให้งูไม่กล้าเลื้อยผ่าน งูไม่ใช่สัตว์ที่น่ากลัวอะไรมากนักเพราะผู้เชี่ยวชาญด้านสัตวศาสตร์กล่าวว่า งูกลัวคน ไม่ได้ทำร้ายคน ทุกครั้งที่เข้าป่าหรือไปในที่รกควรนำไม้เขี่ยพื้นก่อนเป็นไล่งู และที่พบเป็นข่าวว่ามีคนโดนงูกัด งูอาจป้องกันตัวเอง ไม่ใช่จะคิดทำร้ายคน

ขอบคุณข้อมูลจาก:horoscope.thaiza