เปิดตำนานเรื่องลี้ลับ5 ดินแดนที่สาปสูญ
ในโลกใบนี้ยังมีสิ่งลึกลับมากมายที่รอการพิสูจน์ บางสิ่งเป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา บางบุคคลก็มีวีรกรรมมากมาที่กลายเป็นตำนาน และปัจจุบันนี้ก็ยังกล่าวถึงอยู่ บางสถานที่ก็หาความเป็นมาไม่ได้ บางสิ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมีปรากฏอยู่ในโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่ แต่ก็มีหลักฐานบางอย่างที่ยืนยันว่ามีสิ่งเหล่านี้อยู่จริง ยกตัวอย่างเช่น สถานที่ลึกลับ
แอตแลนติส (Atlantis)
- แอตแลนติส คืออาณาจักรโบราณ เป็นดินแดนที่สาบสูญ ช่วงเวลาที่แอตแลนติสล่มสลายไปประมาณ 9,000-12,000 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปลือกโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย
- เพลโต นักปราชญ์ชาวกรีกเขียนเรื่องนครแอตแลนติสที่หายสาบสูญไปแบบไร้ร่องรอย เอาไว้เมื่อราว 300 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งยุคของเพลโต ห่างจากยุคของแอตแลนติสราว 9,000 ปี
- มีข้อสันนิษฐานมากมายเกี่ยวกับนครแอตแลนติส: ดินแดนที่สาบสูญ ว่าอยู่ที่นั่นที่นี่ หายไปเพราะอย่างนั้นอย่างนี้
- นครแอตแลนติส และผู้คนในนครแห่งนี้ หายไปไหนกัน? ตอบ แอตแลนติส และผู้คนในนครแอตแลนติส หายไปอยู่ในกาลเวลาอื่น และไปในโลกอื่น(ของจักรวาลคู่ขนาน)
อาณาจักรมายา เรืองโรจน์สู่ร่วงโร ย
ความ รุ่งเรืองที่ไม่จีรังของอาณาจักรมายากำเนิดขึ้นในป่าฝนทาง ตอนใต้ ของ เม็กซิโกและอเมริกากลาง ณ ดินแดนแห่งนี้ อารยธรรมมายายุคคลาสสิกเจริญถึงขีดสุด เราจะเริ่มติดตามเรื่องอาณาจักรมายาเมื่อ 3000 ปีก่อน โดยมีการเยือนของจอมทัพผู้หนึ่งจากตอนกลางของเม็กซิโกเป็นการ เปิดศักราชแห่งความอลังการและศิลปวัตถุที่วิจิตรพิสดารยิ่ง เช่น หน้ากากมรณะ ของกษัตริย์ปาคาล ผู้ครองนครปาเลงเก หรือ วิหารอันงดงามจำนวนมากท่ามกลางป่าดงพงพฤกษ์ ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมอัน ล้ำเลิศของชาวมายา ทว่าอาณาจักรที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูกลับล่มสลายลง ดังที่เห็นได้จากสารคดีว่า มหันตภัยระลอกแล้วระลอกเล่า ทั้งจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ ส่งผลให้อารยธรรมมายายุคคลาสสิกถึงกาลอวสาน
จอมทัพ ผู้นั้นมาถึงในฤดูแล้ง เขาเดินเข้าสู่นครวากาของชาวมายาอย่างสง่างาม ขนาบข้างด้วยเหล่าขุนศึก ชาวเมือง ตื่น ตะลึง กับ แสนยานุภาพ ของกองทัพแต่ยังประทับใจกับ เครื่องแต่งกายอันอลังการ ของขุนศึกจากมหานครอันไกลโพ้น จารึกโบราณระบุว่า วันนั้นคือวันที่ 8 มกราคม ปี 378 และนามของชายผู้นั้นคือ อัคคีจุติ เขามาถึงนครมายา ในฐานะทูต จากอาณาจักรเรืองอำนาจแห่งที่ราบสูง เม็กซิโก หลายสิบปีต่อมา ชื่อของเขาปรากฏอยู่ในศิลาจารึกทั่วอาณาจักรของชาวมายาซึ่งเป็นอารยธรรมดงดิบแห่งเมโสอเมริกา
ชายผู้นี้ได้ทิ้งมรดกที่ทำให้มายาเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดนานถึงห้าศตวรรษ
ชาวมายา เป็น ชนเผ่าลึกลับ มาตลอด เมื่อหลายพันปีก่อน ความยิ่งใหญ่ของเหล่านครที่ล่มสลาย และอักษรภาพแกะสลักที่สวยงาม แต่ไม่มีใครอ่านออก ทำให้นักวิจัยไม่น้อยจินตนาการถึงสังคมสันติสุขที่เต็มไปด้วยนักบวชและอาลักษณ์ แต่ เมื่อนักอ่านจารึกเริ่มถอดอักษรภาพเหล่านั้นได้ภาพที่เห็นกลับโหดร้ายกว่าที่คิด มีทั้งการสู้รบของราชวงศ์ต่างๆ การแก่งแย่งชิงดีในราชสำนัก และการเผาทำลายพระราชวัง
กระนั้นก็ยังมี ปริศนาลี้ลับอีกหลายประการ เช่น อะไรที่ส่งผลให้ชาวมายาก้าว
กระโดดขึ้นสู่จุดสูงสุด ในช่วงที่อัคคีจุติเริ่มมีชื่อเสียง คลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงได้กระจายไปทั่วอาณาจักรมายาแล้ว กลุ่มนครรัฐที่ไม่นิยมสุงสิงกับโลกภายนอก ได้ขยายความสัมพันธ์กับนครข้างเคียงและวัฒนธรรมอื่นๆ และสร้างงานศิลปะที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนถือว่าเป็นวัฒนธรรมมายายุคคลาสสิก
ชัมบาลา ( SHAMBALA), ดินแดนที่ขอบฟ้าไม่ปรากฏ ( Lost Horizon)
มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับ อาณาจักรที่ต้นตอแห่งศิลปศาสตร์และอารยธรรมของสังคมเอเชียปัจจุบัน ตามตำนานเล่าว่า อาณาจักรแห่งนี้เป็นสถานที่แห่งสันติสุขและความรุ่งเรือง ซึ่งปกครองโดยผู้ปกครองทรงสติปัญญาและการุณ ทั้งอาณาประชาราษฎร์ก็ล้วนรอบรู้และเมตตาปราณี ดังนั้นเองอาณาจักรนี้จึงเป็นสังคมในอุดมคติ สถานที่นี้ถูกขนานนามว่า ซัมบาลา แต่ว่าตามตำนานอื่นๆ กลับกล่าวว่า อาณาจักรซัมบาลานี้ได้สาปสูญไปจากโลกหลายร้อยปีแล้ว เมื่อทั้งราชอาณาจักรได้บรรลุถึงการตรัสรู้ จึงได้สูญสลายไปดำรงอยู่ในมิติอื่น ตามตำนาน กล่าวว่า กษัตริย์ริกเดนแห่งซัมบาลายังคงเฝ้าดูมวลของมุนษย์โลกอยู่ แล้วสักวันหนึ่ง จะลงมาช่วยมนุษย์ชาติให้รอดพ้นหายนะ ยังมีชาวธิเบตอีกไม่น้อยที่เชื่อว่าราชันนักรบผู้ยิ่งใหญ่ กษัตริย์เกซาร์ ทรงได้รับแรงบันดาลใจและได้รับการชี้นำจากกษัตริย์ริกเดน และมีความเชื่อที่ว่าอาณาจักรซัมบาลาดำรงอยู่ในมิติอื่น เพราะ เชื่อกันว่าเกซาร์ก็ไม่เคยเดินทางไปซัมบาลา ดังนั้นสายสัมพันธ์แห่งซัมบาลาจึงเป็นเรื่องของ การเชื่อมโยงทางภาวะธรรม ราชันเกซาร์มีชีวิตอยู่ประมาณศตวรรษที่สิบเอ็ด และได้ปกครอง แว่นแค้วนหลิง จากรัชสมัยนี้เอง จึงอุบัติเรื่องราวมากมาย เล่าขานกันไปทั้งธิเบต กลายเป็น มหากาพย์อันยิ่งใหญ่ของวรรณกรรมธิเบต
พระคัมภีร์และ Hittites ฮิตไทต์อาณาจักรที่สาบสูญกว่าสามพันปี
หลังจากที่อาณาาจักรฮิตไทต์ได้ล่มสลายและสาบสูญไปกว่าสามพันปี
และพงษ์กษัตริย์แล้วไม่มีใครได้ยินชื่อนี้อีกเลย
จนเมื่อเร็ว ๆ นี้มีนักโบราณคดีชาวฝรัางเศษขุดพบ พระราชวงศ์
และข้าบริพารอาศัยอยู่ในเนินเขาแถบประเทศตุรกี
การเจรจาสงบศึกกับอียิปต์ในสมัยของฟาห์โรห์ราเมเสสที่สอง
ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ราเมเสสเองก็ได้บันทึกชัยชนะของกองทัพตนไว้เช่นเดียวกัน
คาโนปัส อาณาจักรที่สาบสูญ
20 ปีก่อนคริสตกาล ณ กรุงเฮเครียน บริเวณปากแม่น้ำไนล์ ชายฝั่งของอียิปต์ดินแดนแห่งความรุ่งเรืองและลี้ลับ ดินแดนอันเกี่ยวเนื่องกับชะตาของเฮเลนแห่งทรอย เฮอคิวลิส และที่ขาดไม่ได้ก็คือ พระนางคลีโอพัตรา ฟาโรห์องค์สุดท้ายแห่งอียิปต์ อาณาจักรแห่งความมั่งคั่งรุ่งเรืองนี้อยู่ใต้การปกครองของฟาโรห์ ปโตโลมีกษัตริย์ชาวกรีก นับจากนั้นเป็นเวลาสามศตวรรษ จากการเดินทางมาของโรมดินแดนอันน่ารื่นรมย์แห่งนี้ก็ได้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ระหว่าง 2 อารยธรรมซึ่งเพราะการปะทะกันครั้งนี้นี่เองที่เป็นเหตุให้คาโนปัสต้องล่มสลาย และพระนางคลีโอพัตรา เป็นผู้กุมชะตาแห่งความพ่ายแพ้ ความปราชัยของพระนางนี้เองที่เป็นเหตุให้พระนางต้องสังเวยพระชนม์ชีพ และเป็นที่มาของการล่มสลายของอาณาจักรที่หายสาบสูญไปใต้ท้องบาดาล การค้นหาดินแดนลึดลับนี้ไม่ไช่เรื่องง่าย กุญแจสำคัญของประวัติศาสตร์ครั้งนี้มีเพียงตำนานเท่านั้น....
โพสต์โดย : nampuengeiei9760