ทำวุ่นทั้งอำเภอ "ปืนใหญ่" หน้าเสาธงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หาย

ทำวุ่นทั้งอำเภอ "ปืนใหญ่" หน้าเสาธงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หาย

25 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สตูล ว่า ปืนใหญ่โบราณสมัยโลกสงครามครั้งที่ 2 ที่วางอยู่บริเวณหน้าเสาธงหน้า สภ.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ได้หายไป ทั้งนี้ ชาวบ้านใน อ.ทุ่งหว้า ผู้หวังดีมีการโพสต์แชร์ในสังคมออนไลน์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมของโบราณที่อยู่คู่ชาวอำเภอทุ่งหว้ามานานหลายสิบปี และอยู่ที่หน้า สภ.ทุ่งหว้า และมีบ้านพักนายตำรวจอยู่รายล้อมกลับหายไปได้อย่างไร ขอให้ช่วยกันตามหาเอานำกลับมาคืนชาวทุ่งหว้าด้วย 

ต่อมา นายพีระเดช สิทธิโกศล กรรมการอาวุโสกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนตำบลทุ่งหว้า พร้อมนายสุทรรศน์ จุนณศักดิ์ศรี ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทุ่งหว้า นำรายชื่อชาวบ้านในพื้นที่อำเภอทุ่งหว้า ร่วม 500 คนที่ลงรายชื่อร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งหว้า และทางจังหวัดสตูล วอนช่วยกันตามหาปืนใหญ่โบราณ 2 กระบอก ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นปืนโบราณอายุเป็น 100 ปี ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 

นายพีระเดช กล่าวว่า ปืนใหญ่โบราณอยู่คู่พื้นที่อำเภอทุ่งหว้ามานานหลายสิบปี ตั้งแต่โรงพักหลังเก่า และสร้างโรงพักขึ้นมาใหม่อีกครั้งเป็นสถานีโรงพักไม้สีเขียว จนกระทั่งทำการรื้อโรงพักไม้สีเขียวอีกครั้ง หลังมีการรื้อโรงพักไปสร้าง สภ.ทุ่งหว้า ห่างไปจากจุดเดิม จึงได้ทำการรื้อถอน แต่ผ่านมาไม่กี่วัน พบว่า ปืนใหญ่โบราณที่อยู่เคียงคู่โรงพักมานานหลายรุ่นตำรวจ อยู่ดีๆก็หายไปทั้ง 2 กระบอก เมื่อสอบถามใครก็ไม่มีใครรู้ใครเห็น เกรงว่าปืนใหญ่อาจจะถูกลักขโมยไป หรือใครนำไปเก็บไว้ที่ไหน

ส่วนนายสุทรรศน์ กล่าวว่า ปืนใหญ่โบราณ 2 กระบอก มีคุณค่าทางใจแก่ชาวอำเภอทุ่งหว้าอย่างมาก  เพราะเป็นของโบราณที่ชาวบ้านยังคงต้องการอนุรักษ์ของเก่าไว้ ในเมื่ออยู่ๆปืนใหญ่หายไปจากแท่นที่ตั้งปืนใหญ่  และไม่มีใครบอกได้ว่าไปไหน ชาวบ้านก็เกรงว่าจะหายไปหรืออาจถูกขโมยลักไปขายเป็นเศษวัสดุของเก่าจึงช่วยกันตามหา และได้สอบถามไปยังสถานีตำรวจบางคนตอบไม่ได้ บอกผู้ใหญ่นำไปเก็บไว้ และตนเองในฐานะผู้ใหญ่ในพื้นที่วอนขอให้ผู้ที่เอาไปนำมาคืน หรือตั้งไว้ในพื้นที่ทุ่งหว้าเหมือนเดิมด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.สมศักดิ์ สังข์น้อย ผกก.สภ.ทุ่งหว้า กล่าวว่า ปืนใหญ่ไม่ได้หายไปไหน ยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี แม้ว่าสถานีตำรวจหลังใหม่สร้างเสร็จแล้ว แต่ไม่ได้นำย้ายมา เพราะจุดที่ตั้งยังไม่ได้

“ปืนใหญ่นั้นทางสำนักงานกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล  ดูแล เพราะเป็นของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำการเก็บไว้ แต่อยู่ๆมีข่าวลือตามกระแสโลกโซเชียลว่าปืนใหญ่ในพื้นที่อำเภอทุ่งหว้าหายไป ผมขอยืนยันว่ายังอยู่ในความดูแลของตำรวจ และรอว่าจะนำมาตั้งไว้จุดใด ส่วนชาวบ้านที่ต้องการเอาปืนใหญ่กลับมาตั้งไว้ในพื้นที่อำเภอทุ่งหว้า ก็ทำเรื่องหรือเข้าไปพบพูดคุยกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ในการขอปืนใหญ่โบราณกลับมาตั้งไว้ที่เดิมได้” ผกก.สภ.ทุ่งหว้า กล่าว

สำหรับปืนใหญ่โบราณ 2 กระบอกดังกล่าว เป็นปืนที่ใช้ในการรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีขนาดกลางและยาว หากยกแบกหามต้องใช้คนถึง 6 คน และปืนใหญ่โบราณนี้ตั้งอยู่ที่ สภ.ทุ่งหว้า (หลังเก่า) มานานหลายปี จนมีคุณค่าทางใจแก่ประชาชนชาวบ้านในละแวกและอำเภอทุ่งหว้า เพราะถือว่าอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูลถือได้ว่าเป็นเมืองเก่าเช่นกัน ทั้งตัวอาคารบ้านเรือน จึงไม่แปลกที่ประชาชนต่างผูกพันกับของเก่าโบราณที่มีประวัติมาช้านาน

cr/naewna(แนวหน้า)