กลศึก..รวมกันแพ้แยกกันชนะ?
น่าสนใจ…ในกลศึกซ้อน ที่ถูกจัดวาง ในจังหวะเปิดไต๋ จับทางการเมือง ระหว่าง “สองขั้วสามข้างการเมือง” ที่เปิดศึกสัปยุทธ ชิงอำนาจกันมาตลอดกว่า 10 ปี จนมาถึงบรรทัด พ.ศ. นี้ ที่ฝ่ายคุมสภาพอำนาจรัฐ “คสช.” กำลังคลายตัวหลัง “กุมสภาพ ”มา 4 ปี…
น่าสนใจว่า การค้นพบสูตร “สมการ” ที่ “ถูกออกแบบ” โดย “มีชัย ฤชุพันธุ์” ให้ซับซ้อน ซึ่งการได้มาซึ่ง ส.ส. 500 ในรัฐธรรมนูญ 60 …ที่ห้วงสัปดาห์นี้ที่บรรดา “พรรคการเมืองใหม่” ทั้งสายพันธุ์ “เพื่อ” และ “พลัง” พากันปรากฏตน และกลายเป็นประเด็นครหา ตามมาด้วยข้อกังขาในแผน “ตามน้ำ” ในช่องทางรัฐธรรมนูญ (อ่าน : “จัดสรรปันส่วนผสม” ปม ขยายพันธุ์พรรคสำรอง?)
เป็นแผน “ตามน้ำ” ที่ผู้คนมองไปที่ พรรคใหญ่ 2 ขั้วข้าง อย่าง “พรรคพลังประชารัฐ” อันผนึกรวม “กลุ่มสามมิตร” ที่ชัดเจนใน “เป้าหมาย” ชัดเจนใน ตัวละคร 4 รัฐมนตรี รวมถึงผู้คนในรัฐบาล “ลุงตู่” ที่อยู่ในกรรมการบริหารพรรค ขณะอีกพรรคการใหญ่ อย่าง “พรรคเพื่อไทย” ที่ก็ชัดเจนในเป้าหมายและ “ตัวละคร” กับการตั้ง “พรรคสำรอง” มากมายเช่นกัน
โดยฝ่ายหนึ่ง “พลังประชารัฐ” เจตนาประหนึ่งเพื่อ “เอาชัวร์” การจัดตั้งรัฐบาลให้ “ลุงตู่” ตีตั๋วนายกฯต่อ แบบวางไกลถึงการรักษาฐานที่มั่นในสภาหลังเลือกตั้ง ขณะฝ่ายหนึ่ง “เพื่อไทย” เจตนาไว้เผื่อ “หนีตาย” หากถูกยุบพรรค ไปจนถึงเพื่อ “เก็บแต้ม” ที่ตกหล่นของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ (อ่าน : เพื่อไทยแตกหน่อหนีตาย-รวมกันแพ้แยกกันชนะ?)
ขณะที่เมื่อหันมาดูอีกข้างหนึ่งฝ่ายเดียวกัน อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” ที่กำลังอยู่ในโหมดเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ ถูกวางเป็น “พรรคอะไหล่” ที่ความหมายอาจต่างจาก “พรรคภูมิใจไทย” ซึ่งถูกวางในจุด “พรรคตัวแปร” ที่พร้อมต่อเชื่อมได้ทั้งสองขั้ว ที่ก็ย่อมต่างใน “พรรคอะไหล่” ตามความหมายของ “พรรคเพื่อไทย” และเหล่า “พรรคเพื่อฯ” ที่สัปดาห์นี้เจ้าของพรรคตัวจริงมาบัญชาเกมแถวฮ่องกง ซึ่งหมายไปถึง “พรรคสำรอง” ที่ย่อมต่างใน “เจตนา” และ “เป้าประสงค์” การใช้ (อ่าน : พรรคอะไหล่-กรรมชี้เจตนา?)
กระนั้นหากดูนัยยะแฝงผ่านบริบทการออกแบบ “รัฐธรรมนูญ” ที่ “ตู่ จตุพร” บอกว่าถูกออกแบบให้พร้อมเกิดวิกฤติได้ตลอดเวลา เป็นการทำให้ เกิดสภาพ “รวมกันแพ้ แต่แยกกันแล้วชนะ” ก็น่าสนใจพิจารณาเช่นกันว่า หรือ เอาเข้าจริง หมากนี้ จะเป็นกลศึก อันแฝงเร้นด้วยการรวมยุทธศาสตร์การเมือง การทหาร ในการ “ได้มา” หรือ “รักษาอำนาจ” โดยการแยกอำนาจรวมศูนย์ที่ใหญ่กว่าออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่แต่ละส่วนมีอำนาจน้อยกว่าผู้ที่กำลังใช้ยุทธศาสตร์ ที่ตามสูตร คือ การสร้างหรือกระตุ้นให้เกิดการแบ่งแยกในหมู่ผู้คนในบังคับเพื่อป้องกันพันธมิตรซึ่งอาจท้าทายองค์อธิปัตย์ และให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนแก่ผู้ที่เจตนาให้ความร่วมมือแก่องค์อธิปัตย์ และส่งเสริมความระแวงและความเป็นปรปักษ์ระหว่างผู้ปกครองท้องถิ่น ที่เรียกยุทธศาสตร์นี้กันว่า “แบ่งแยกแล้วปกครอง” หรือไม่..?
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:innnews.
โพสต์โดย : monnyboy