Social :



พร้อมช่วยเหลือ! นายกฯคุยมหาธีร์ยันถกสันติสุขยึดรธน.ลุยพัฒนาชายแดน

25 ต.ค. 61 07:10
พร้อมช่วยเหลือ! นายกฯคุยมหาธีร์ยันถกสันติสุขยึดรธน.ลุยพัฒนาชายแดน

พร้อมช่วยเหลือ! นายกฯคุยมหาธีร์ยันถกสันติสุขยึดรธน.ลุยพัฒนาชายแดน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย นายมหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงข่าวร่วม ภายหลังหารือข้อราชการเต็มคณะ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทย ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับนายมหาธีร์ และภริยา ซึ่งถือเป็นรัฐบุรุษ และเป็นผู้นำอาวุโสของภูมิภาคและของโลก และมีผลงานและคุณูปการอมากมายในการพัฒนามาเลเซีย รวมถึงสร้างสัมพันธภาพระหว่างไทยกับมาเลเซีย ทั้งนี้ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางและประเด็นในการสร้าง “ทศวรรษใหม่แห่งความสัมพันธ์” ระหว่างกัน อีกทั้งในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ไทยและมาเลเซียต้องร่วมมือกันสร้างเสถียรภาพความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน พร้อมขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ร่วมมือกันผลักดันความร่วมมือในกรอบอาเซียน





นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้หารือกันค่อนข้างลงลึกใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ และความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยตนได้เล่าถึงนโยบายของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยฝ่ายไทยถือว่าจังหวัดชายแดนใต้เป็นปัญหาภายใน แต่ขณะเดียวกันความร่วมมือจากต่างประเทศก็จะทําให้การแก้ไขปัญหาทำได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันตนได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เกี่ยวกับกระบวนการพูดคุยที่ฝ่ายมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งการพูดคุยจะดำเนินการต่อไปโดยมีมาเลเซียเป็นผู้ประสานงานและทุกอย่างจะอยู่บนพื้นฐานและกรอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นอกจากนี้จะขยายความร่วมมือการเสริมสร้างความมั่นคงชายแดน การพัฒนาเศรษฐกิจและประเด็นความมั่นคงในภาพใหญ่ โดยเฉพาะการต่อต้านการก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่ง การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติยาเสพติดและการค้ามนุษย์





นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า 2. การพัฒนาเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงตามแนวชายแดน โดยตนได้เสนอให้ทั้งสองประเทศยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจขึ้นเป็น”หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่เข้มข้น” และ 3. ความร่วมมือในกรอบอาเซียน โดยเฉพาะในปีหน้าที่ไทยจะทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียนจึงมีเป้าหมาย ก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็งมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และประเทศสมาชิกก้าวไปพร้อมกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อย่างไรก็ตามไทยและมาเลเซียจะทำงานอย่างใกล้ชิดในทุกระดับ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศมีความสงบสุขมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมีฐานะที่มั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งมีการพัฒนาเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการมีเสถียรภาพความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

ด้าน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า ในการเยือนไทยเพราะอยากสร้างความคุ้นเคยกับอาเซียน หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องขอขอบคุณนายกฯและรัฐบาลไทยสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น และการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา
Lif
เราไม่มีปัญหาระหว่างกันและเรามีประวัติศาสตร์ความร่วมมือในอดีต ซึ่งมาเลเซียเคยมีปัญหาและไทยได้ให้การสนับสนุนเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว ก็ขอขอบคุณไทยในด้านนี้ ทั้งนี้ปัจจุบันไทยมีปัญหาชายแดนใต้ เราก็ยินดีที่จะช่วยไทยในทุกด้านเพื่อแก้ไขความรุนแรงและตนก็มั่นใจว่า ด้วยว่าความร่วมมือของสองประเทศจะทำให้สามารถแก้ไขและลดปัญหานี้ได้ และเห็นว่าการแสดงมิตรภาพไม่ใช่แค่การพูดคุยแต่ต้องเป็นการปฏิบัติอย่างแท้จริงในฐานะมิตรที่ใกล้ชิด นอกจากนี้ในส่วนของการค้าระหว่างไทย-มาเลเซียใน ปี 2018 มีมูลค่าสูงขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ มูลการค้า 14,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเราสามารถเพิ่มมูลค้าการค้าได้ เมื่อแก้ด่านศุลกากร ที่ปัจจุบัน มีจุดผ่านแดน 4 ด่าน ที่รัฐกลันตัน 2 ด่าน และรัฐเคดาห์ และรัฐเปอร์ลิส





นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า นอกจากนี้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างลังกาวีและสตูล มีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะสร้างความเจริญรุ่งเรืองของสองประเทศ เราควรพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกการไปมาหาสู่ของประชาชนทั้งสองฝ่าย เพื่อที่จะบรรลุตามเป้าหมายนี้ โดยเราจะเปิดด่านศุลกากร 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการขนส่งสินค้า และเราจะมีการสร้างสะพาน 2 สะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่เชื่อมกับรัฐกลันตัน อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีปัญหาเส้นทางถนน เชื่อว่าแก้ไขปัญหานี้ได้ และเราพร้อมที่จะสนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ที่มีอุปสรรค ในทุกทางที่เป็นไปได้ อย่างกรณีประชาชนถือสองสัญชาติ ต้องมีความพยายามแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดการค้ามนุษย์และการขนส่งสินค้าที่ผิดกฎหมาย


นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เราเห็นว่าประชาคมอาเซียนมีความแข็งแกร่ง มีประชากรกว่า 600 ล้านคน และด้วยความต้องการทางทรัพยากรต่างๆ อาเซียนควรเป็นตลาดภายในของทุกประเทศ โดยเราจะหารือประเด็นดังกล่าวในการพูดคุยอาเซียนครั้งต่อไป เชื่อว่าในความพยายามจะบรรลุเป้าหมาย ด้วยการที่ผู้นำควรร่วมกันหารือบ่อยครั้ง และในระดับผู้แทนควรจะหารือเพื่อแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆระหว่างกัน เชื่อว่าเราจะสามารถยกระดับกระบวนการต่างๆในการข้ามพรมแดน ทั้งนี้ส่วนตัวยินดีอย่างยิ่งที่จะสร้างมิตรภาพกับพล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าผู้นำที่มีความใกล้ชิดระหว่างกันจะช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างสำเร็จ




ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews.

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด