Social :



เทคนิคการปลูก และดูแล มะเขือม่วง

09 พ.ย. 61 11:11
เทคนิคการปลูก และดูแล มะเขือม่วง

เทคนิคการปลูก และดูแล มะเขือม่วง

เทคนิคการปลูก และดูแล  มะเขือม่วง


การปลูกมะเขือม่วง  (Eggplant)  แบบละเอียด เพื่อสร้างรายได้ เป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางที่น่าสนใจ เพราะมะเขือม่วงได้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับท้องตลาด ทำให้คนที่ปลูกสามารถขายได้ง่าย และกำไรงามดังนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคนมารู้จักกับขั้นตอนการปลูกมะเขือม่วงแบบละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาการปลูกมะเขือม่วงไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

มะเขือม่วง เป็นมะเขืออีกชนิดที่มีความกรอบ และมีรสหวาน คล้ายกับมะเขือเปราะ แต่ต่างที่ผลมีผลเป็นสีม่วง และพันธุ์ที่ปลูกส่วนมากมีลักษณะเรียวยาว นิยมทั้งรับประทานสด และนำไปประกอบอาหาร โดยเฉพาะในทวีปอเมริกา และยุโรปที่นิยมรับประทานอย่างมาก

ส่วนในเอเชียประเทศที่นิยมรับประทาน และไทยส่งออกให้มากที่สุด คือ ญี่ปุ่น ส่วนประเทศไทยยังไม่เป็นที่นิยม อาจเพราะคนไทยยังนิยมในมะเขือเปราะที่มีสีเขียวมากกว่า แต่ก็มีการรับประทาน เพราะให้รสสัมผัสคล้ายกับสีเขียว


การปลูกมะเขือม่วง (Eggplant) ด้วยวิธีเพาะกล้า
การเพาะกล้ามะเขือม่วง อาจทำได้ในแปลงเพาะหรือเพาะในกระบะเพาะชำ การเพาะในแปลงเพาะ ให้ไถพรวนแปลง กว้างประมาณ 1 เมตร ยาวตามปริมาณที่ต้องการเพาะ จากนั้น โรยรองพื้นด้วยปุ๋ยคอก และปุ๋ยยูเรีย ก่อนคลุกผสมดินให้เข้ากัน จากนั้น หว่านเมล็ด และคราดเกลี่ยหน้าดินกลบเล็กน้อย แล้วรดน้ำให้ชุ่ม

ส่วนการเพาะในกระบะเพาะ ให้ผสมดินด่วนร่วมกับปุ๋ยคอก อัตราส่วน 1:3 หรือใช้วัสดุอินทรีย์อื่นผสมร่วม เช่น แกลบดำ และขุ๋ยมะพร้าว จากนั้น หยอดเมล็ดลงหลุมกระบะ 2 เมล็ด/หลุม เกลี่ยดินกลบเล็กน้อย ก่อนรดน้ำให้ชุ่ม เมื่ออายุกล้าได้ประมาณ 10-15 วัน หรือมีใบจริงแล้ว 3-5 ใบ ค่อยถอนกล้าย้ายลงปลูกในแปลง


การเตรียมแปลงปลูกมะเขือม่วง
แปลงปลูกควรเตรียมแปลงด้วยการไถพรวนดิน 2 รอบ พร้อมกำจัดวัชพืชออกให้หมด ทั้งนี้ ก่อนไถรอบที่ 2 ให้หว่านรองพื้นด้วยปุ๋ยคอก อัตรา 3-4 ตัน/ไร่ จากนั้น ไถยกร่อง ระยะห่างของร่องประมาณ 80-100เซนติเมตร ทั้งนี้ อาจไม่จำเป็นต้องไถยกร่องก็ได้ตามความสะดวก

การย้ายกล้า และการปลูกมะเขือม่วง
การปลูกมะเขือม่วง นิยมปลูกในต้นฝนจนถึงก่อนถึงปลายฝน แต่พื้นที่ชลประทานปลูกได้ตลอดฤดู การย้ายกล้าปลูก ให้รดน้ำจนชุ่มก่อน และลงปลูกหลังย้ายทันที ก่อนย้ายกล้าให้ขุดหลุมปลูก ลึกประมาณ 8-15 เซนติเมตร

ระยะห่างระหว่างแถวสำหรับไถยกร่องหรือไม่ยกร่อง ประมาณ 80-100 เซนติเมตร
Lif
ระยะห่างระหว่างหลุมหรือต้น ประมาณ 80-100 เซนติเมตร เช่นกัน พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 1,100-1,300 ต้น จากนั้น นำกล้ามะเขือลงปลูก กลบโคนต้น และรดน้ำให้ชุ่ม


การให้น้ำ
หลังการปลูก 10-15 วันแรก ควรให้น้ำทุกวัน จนต้นตั้งตัวได้ จากนั้น ลดเหลือ 3-4 ครั้ง/อาทิตย์

การใส่ปุ๋ย
ให้ใส่ปุ๋ย 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกหลังปลูก 20-25 วัน ให้ใส่ปุ๋ยคอก 2 กำมือ/ต้น ร่วมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1-2 หยิบมือ/ต้น ส่วนครั้งที่ 2 ใส่เมื่ออายได้ประมาณ 45-50 วัน ด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 12-12-24 ในอัตราเดียวกัน

การกำจัดวัชพืช
การกำจัดวัชพืชของมะเขือม่วงให้กำจัดวัชพืชของมะเขือม่วงอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง จนต้นมีอายุได้ ประมาณ 3 เดือน จึงปล่อยตามธรรมชาติ เพื่อได้ผลผลิตที่ดีตามความต้องการ และผลที่สวยงาม

การเก็บผลผลิต
มะเขือม่วงมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 45-60 วัน หลังปลูก และเก็บผลได้ต่อเนื่องนาน 4-5 เดือน ทั้งนี้ ควรใช้กรรไกรตัดขั้วผลแทนมือเด็ด เพื่อป้องกันยอดเสียหาย และลำต้นถอน


โรคมะเขือม่วงที่สำคัญ
โรคด่างเหลือง
โรคด่างเหลือง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสในจีนัส Begomovirus ซึ่งเกิดได้ทั้งในมะเขือชนิดอื่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และมะเขือเทศ อาการที่พบ คือ เกิดอาการด่างเป็นสีเหลืองบนใบ ทำให้ใบหงิกงอ และผิดรูป ส่งผลต่อลำต้นแคระ การเติบโตชะงัก ผลมีขนาดเล็ก สั้น และผลมีรูปผิดปกติ ทำให้ขายไม่ได้ และทำให้ขาดทุน


ข้อมูลอ้างอิง  :  https://www.modernlessons.com

โพสต์โดย : POK@