วิธีการปลูก ยางพารา สร้างรายได้แบบมืออาชีพ
วิธีการปลูก ยางพารา สร้างรายได้แบบมืออาชีพ
ยางพารา นั้น เป็นไม้ยืนต้น ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำแอมะซอน ในประเทศบราซิล และประเทศเปรู ทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งชาวพื้นเมืองนั้นได้มีชื่อเรียกยางพารานี้ว่า “เกาชู” (cao tchu) แปลว่า ต้นไม้ร้องไห้ นั่นเอง อาจจะเพราะน้ำยางที่ไหลออกมาจึงกลายเป็นชื่อเรียกของต้นไม้นี้ก็ได้
จนมาถึงปี พ.ศ. 2313 หรือ ค.ศ. 1770 นาย โจเซฟ พรีสต์ลีย์ ได้ทำการพบว่ายางพารานั้นสามารถนำมาลบรอยดำของดินสอได้ เขานั้นจึงได้ทำการเรียกยางพาราว่า ย างลบ หรือตัวลบ rubber นี่คือชื่อของที่มา ของชื่อยางลบ ที่เรา ๆ นั้นใช้เรียกกันในปัจจุบันนั่นเอง
ซึ่งเป็นศัพท์ใช้ในประเทศอังกฤษ และเป็นภาษาของประเทศเนเธอร์แลนด์เท่านั้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเพาะปลูก และทำการซื้อขายยางพารา ในอเมริกาใต้ ตั้งแต่ดั้งเดิมใน รัฐปารา (Pará) ของประเทศบราซิล และยางชนิดนี้เรียกว่า ยางพารา
สายพันธุ์ของยางพารา
พันธุ์ของยางพาราที่นิยมนำมาปลูกมากที่สุด ได้แก่
– 251 (RRIT 251)
– สงขลา 36
– BPM 24
– PM 255
– PB 260
– PR 255
– RRIC 110
– RRIM 600
การเลือกใช้พันธุ์ของยางพารา
การปลูกยางพารา เพื่อให้ได้น้ำยางพารา หรือเนื้อไม้พาราที่ดีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้ง 3 นั่นก็คือ สภาพแวดล้อม สายพันธุ์ และการปรับตัวเข้าหาสภาพแวดล้อมของต้นยางพาราที่เรานั้นทำการปลูก
ซึ่งสำหรับการตัดสินใจในการเลือกพันธุ์ที่นำมาปลูกในสวนของเราในครั้งนี้จะต้องเลือกให้ดี ควรยึดเอาหลักต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ เช่น จะต้องเลือกต้นสายพันธุืที่ให้ผลผลิตที่ดีแบบสูงสุด มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เราจะทำการปลูก เข้ากับพื้นที่สภาพสวนของเรา จะมีการพิจารณาในการปลูกทั้งหมด ดังนี้
– ทำการพิจารณาว่าพื้นที่ที่เรามีนั้น จะทำการปลูกจะต้องมีสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสม หรือเป็นข้อจำกัดที่รุนแรงมากน้อยเพียงใด สามารถทำการแก้ไขได้หรือไม่ และมีการส่งผลกระทบต่อการให้ผลผลิตมากน้อยเพียงใด เช่น เป็นพื้นที่ ที่มีการระบาดของโรงที่เสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อมาสู่แปลงของเรา พื้นที่ที่มีลมแรงจัด หรือพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง มีหน้าดินที่ตื้น
– พิจารณาในรูปลักษณะประจำสายพันธุ์ของแต่ละสายพันธุ์ จากเอกสารคำแนะนำสายพันธุืต่าง ๆ ที่หาได้ตามสถาบันวิจัยยางต่าง ๆ โดยเฉพาะในลักษณะที่อ่อนแอต่อสภาพแวดล้อม หรือมีข้อจำกัดในการปลูกมาก ก็ควรเลือกให้ต้นสายพันธุ์นั้นมีความเหมาะสมต่อพื้นที่ ที่เราจะทำกรปลูกนั่นเอง
– พิจารณาลำดับของสายพันธุ์ที่สามารถให้ผลผลิตที่สูง จากเอกสารคำแนะนำสายพันธุ์ที่เรามี จากนั้นเลือกสายพันธุืที่ให้ผลผลิตที่ดี ให้ผลผลิตที่สูง ถือว่าเป็นพันธุ์ที่เหมาะต่อการปลูก และต้องเลือกที่มีสภาพอากาศในการปลูกเหมาะกับพื้นที่ของเราด้วย
การเตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกยางพารา
เราจะทำการปรับเตรียมพื้นที่สำหรับการทำการปลูกโดยที่เรานั้นจะทำการโดยการไถพลิก และทำการไถพรวน อย่างน้อย ๆ ก็ทำ 2 ครั้ง พร้อมกับทำการเก็บเอาตอไม้ เศษไม้ และเศษวัชพืชอื่น ๆ ที่อยู่ภายในแปลงออกให้หมด
จากนั้นเพื่อเป็นการปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาะสมต่อการทำการปลูกยางพารา ไม่ว่าจะเป็นในด้านการปฏิบัติงาน การอนุรักษ์ดิน และการอนุรักษ์น้ำ เพื่อความสะดวกในการเข้าไปดูแล
และทำการบำรุงรักษา ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตน้ำยางได้อย่างสะดวกสบาย
วางแนวสำหรับการปลูกต้นยางพารา
เราจะต้องทำการกำหนดแถว สำหรับหลักของต้นยางพารา โดยจะทำการวางทางการไหลของน้ำเอาไว้ เพื่อลดการชะล้างหน้าดิน และการพังทลายของดิน ให้แถวหลังของต้นยางพารานั้น ห่างจากเขตสวนเก่า ไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร พร้อมกับทำการชุดตามแนวเขตสวน เพื่อทำเป็นแนว เพื่อป้องกันโรครากยางพารา และการแย่งธาตุอาหารของต้นยางพารา
จากนั้นก็ทำการวางแนวสำหรับการปลูกตามแนวระดับ และทำเป็นแบบขั้นบันได เราควรจะทำให้เสร็จทั้งหมด ก่อนจะเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งนั่นก็คือระยะเวลาของเดือนมีนาคม-เดือนต้นเมษายน
ระยะสำหรับการปลูกต้นยางพารา
ถ้าหากพื้นที่ของเรานั้นเป็นพื้นที่ราบ เราจะต้องทำการปลูกยางพาราเก่าในภาคใต้ เราจะใช้ระยะในการปลูก 2.5x 8 เมตร หรือจะเป็น 3×7 เมตร ซึ่งนั่นจะทำให้เรานั้นสามารถทำการปลูกยางได้ 80 ต้น หรือ 76 ต้นต่อ 1 ไร่ ตามลำดับ
ส่วนในพื้นที่ราบในเขตปลูกยางใหม่นั้น เราจะระยะในการปลูก 2.5×7 เมตร หรือจะเป็น 3×6 เมตร หรือจะเป็น 3×7 เมตรก็ได้ ซึ่งนั่นจะทำให้เรานั้นสามารถทำการปลูกยางพาราได้มากถึง 91 ต้น หรือ 88 ต้นหรือ 76 ต้น ต่อ 1 ไร่
ขนาดของหลุมปลูกยางพารา
สำหรับขนาดของหลุมปลูกยางพารา เราจะทำการขุดหลุมให้มีขนาด 50x50x50 เซนติเมตร โดยที่จะทำการขุดดินในด้านใดด้านหนึ่งของไม้ชะมบ ซึ่งจะมีการปลูกไปในทางเดียวกัน เราจะไม่ทำการถอนไม้ออก เราจะแยกดินเอาไว้เป็นส่วนบน และส่วนล่าง ไว้คนละกองกัน จากนั้นเราจะทำการผึ่งแดดเอาไว้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยประมาณ
พอดินนั้นเริ่มแห้ง เราก็จะต้องทำการย่อยให้ดินนั้นละเอียด นำดินส่วนบนใส่ลงไปในก้นหลุม ส่วนดินชั้นล่างนั้น จะทำการผสมกับปุ๋ยหินฟอสเฟต ในอัตราส่วน 170 กรัม จะทำการคลุกเคล้าร่วมกันกับปุ๋ยอินทรีย์ ในอัตราส่วน 3-5 กิโลกรัม โดยประมาณ ต่อ 1 หลุม เราจะทำกรใส่ไว้ที่ด้านบน
การดูแลรักษายางพารา
การดูแลรักษายางพารานั้น เราจะทำการฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำ จากสารเร่ง พด.2 ให้เรานั้นทำการให้ปุ๋ยพืชสดทุก 7 วัน ในอัตราส่วน 2 ลิตรต่อ 1 ไร่ นำมาทำการเจือจาง 1:1,000 เพื่อเป็นการเร่งการเจริญเติบโต ของพืชปุ๋ยสดนั่นเอง
และหลังจากที่เรานั้นทำการปลูกต้นยางพาราไปแล้วเป็นเวลา 15 วัน เราจะทำการฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำ ให้กับยางพาราทางใบ หรือจะทำการราดรดลงดินก็ได้ในทุก ๆ 1 เดือน จากนั้นทำการฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำกับพืชตระกูลถั่ว ที่ทำการปลุกเอาไว้คลุมดินด้วย
เวลาสำหรับทำการกรีดยางพารา
– ช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมสำหรับการกรีดยางพารามากที่สุดนั้นก็คือ ช่วงเวลา 6.00-8.00 น. เนื่องจากจะเป็นช่วงเวลาที่สามารถมองเห็นต้นยางพาราได้อย่างชัดเจน และยังเป็นระยะเวลาที่จะได้ปริมาณน้ำยางที่มีความใกล้เคียงกับการกรีดยางพาราในระยะเวลาเช้ามืดอีกด้วย
แต่สำหรับการกรีดน้ำยางพาราในช่วงระยะเวลา 1.00-4.00 น. ก็จะได้ปริมาณยางที่มากกว่าการกรีดยางในตอนเช้า ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ให้น้ำยางมากที่สุดอีกด้วย แต่การกรีดยางในตอนเช้ามืดนั้นจะมีข้อเสียอยู่บ้าง นั่นก็คือ ง่ายต่อการกรีดยางบาดเยื่อเจริญเติบโตของต้น นั่นจะทำให้เกิดโรคหน้ายางพารา ทั้งยังเป็นการสิ้นเปลือง ไม่มีความปลอดภัยจากสัตว์ร้าย หรือโจรอีกด้วย
การกรีดยางพารา
สำหรับการกรีดยางพารา เพื่อให้สะดวกต่อการกรีด และจะต้องทำการรักษาความสะอาดของถ้วยรองน้ำยางพารานั้นด้วย เราจะต้องคำนึงถึงระดับความเอียงของรอยกรีด และความคมของมีดที่ใช้กรีดด้วย จะต้องมีความคมอยู่เสมอ
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.modernlessons.com/
โพสต์โดย : POK@