หมดเคราะห์สิ้นปี กับวิธีลอยกระทง แบบคนโบราณ

หมดเคราะห์สิ้นปี กับวิธีลอยกระทง ฉบับคนโบราณ

ทุกปีวันเพ็ญขึ้นสิบห้าค่ำเดือนสิบสอง คนไทยสมัยโบราณจะทำพิธีลอยกระทง เพราะเชื่อว่าจะลอยเคราะห์ลอยความโศกเศร้า คนรุ่นใหม่อยากทราบไหมว่าประเพณีลอยกระทงที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ที่จะลอยเคราะห์ลอยโศกที่ว่าไปพ้น ๆ จากตัวเองทำอย่างไรบทความนี้ Horoscope thaiza จะแนะนำ 

     อุบายแฝงความเชื่อคนโบราณ ประสงค์เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา เพราะชาวไทยในสมัยก่อนคนไทยโบราณจะดำเนินชีวิตบนแม่น้ำลำคลอง ไม่ว่าจะการคมนาคมเดินทางไปไหนต่อไหน การค้าขาย และการอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ต้องพึ่งพาอาศัยแม่น้ำทั้งสิ้น นานวันน้ำในลำคลองย่อมมีการเน่าเสีย การลอยกระทงจึงเปรียบเสมือนเป็นการขอขมาพระแม่คงคา ที่ลูกหลานใช้น้ำ ได้ดื่มกินน้ำ บางคนเผลอการทิ้งสิ่งปฏิกูลกัน ฉะนั้นวันเพ็ญขึ้นสิบห้าค่ำเดือนสิบสองตามปฏิทินจันทรคติไทย คนโบราณจะนำกระทงที่ประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุธรรมชาติที่ลอยน้ำได้ที่มีลักษณะคล้ายกับกระทงแล้ว การตัดเล็บ ตัดผม และเศษเสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่ลงไปในกระทง จุดดอกไม้ธูปเทียน ตั้งจิตอธิษฐานขอให้เคราะห์ร้ายหายไป ให้ชีวิตมีแต่ความสุขตลอดไป แล้วลอยไป ความเชื่อคนโบราณเชื่อว่าเป็นการตัดเคราะห์ตัดโศกสะเดาะให้พ้นเคราะห์พ้นโศกให้หลุดลอยไปในกระทง 

     ไม่นานมีธรรมเนียมการนำสตางค์เหรียญหรือธนบัตรมูลค่าไม่มาก ใส่ลงไปในกระทง เพราะเชื่อว่าจะเป็นการนำมาซึ่งความมั่งคั่ง ความพร้อมทั้งทรัพย์สินสฤงคาร เงินทองไหลมาเทมาตลอดทั้งปี ไม่นานคนสมัยใหม่ชอบความสะดวกสบายจะนำกระทงที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์มาลอยแทนกระทงธรรมชาติ ประเพณีลอยกระทงปฏิบัติกันมานานบริเวณดินแดนอุษาอาคเนย์ โดยมีความเชื่อว่ามาจากศาสนาพราหมณ์ ว่าลอยเพื่อบูชาพระนารายณ์บรรทมสินธุในมหาสมุทร ชาวฮินดูเชื่อว่าพระแม่คงคาคือผู้ที่ดูแลสายน้ำคงคา ไหลมาจากสรรค์ การบูชาจะศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นควรใส่ดอกไม้สีส้มอย่างดอกดาวเรือง ดอกมะลิ ดอกบัวโกมุท ดอกกุหลาบ ดอกรัก ในกระทงที่ลอยและไม่ควรใช้กระทงที่ทำจากโฟม วัสดุสังเคราะห์ ควรเลือกกระทงที่ทำจากธรรมชาติ และสิ่งที่ย่อยสลายได้ในลำคลอง

ขอบคุณข้อมูลจาก:horoscope.thaiza