Social :



วิธีการปลูก และดูแล กะหล่ำดาว

16 พ.ย. 61 10:11
วิธีการปลูก และดูแล กะหล่ำดาว

วิธีการปลูก และดูแล กะหล่ำดาว

วิธีการปลูก  และดูแล  กะหล่ำดาว


กะหล่ำดาว  จัดอยู่ในกลุ่มพืชเมืองหนาว  อยู่ในตระกูลกะหล่ำ การเจริญเติบโตเป็นพืชสองฤดู ต้องการสภาพปลูกที่มีอุณหภูมิต่ำและความชื้นสูง ส่วนที่ใช้บริโภคคือ  หัวขนาดเล็ก  เข้าปลีแน่น คล้ายกะหล่ำปลี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  1.0-1.5  เซนติเมตรในยุโรป และ  2.4-4.8  เซนติเมตร ในสหรัฐอเมริกา เจริญจากข้อระหว่างต้นและกาบใบ  และเจริญต่อเนื่องจนกระทั่งต้นชะงักการเจริญเติบโต ลำต้นสูงแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มคือ ลำต้นสูง  60-100  เซนติเมตร หรือสูงกว่า  และพันธุ์ลำต้นเตี้ย  60  เซนติเมตร  ให้ผลผลิตประมาณ  100  หัวต่อต้น  กะหล่ำดาวสายพันธุ์ที่เก็บเกี่ยวเร็ว จะให้ผลผลิตเร็ว  และผลผลิตต่ำกว่ากะหล่ำดาวสายพันธุ์หนักที่มีอายุการเก็บเกี่ยวนาน


สภาพดินและการเตรียมดิน   กะหล่ำดาว  เจริญได้ดีในดินที่ร่วนซุย มีอินทรียวัตถุและไนโตรเจนสูง  ระบายน้ำได้ดี  pH 6.0-6.8  การเตรียมดินควรหว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก่อนเตรียมดิน  ในบางพื้นที่เป็นดินเหนียวหรือดินลูกรัง  ควรเจาะร่องปลูกและผสมวัสดุปลูกลงในร่องปลูก

การใส่ปุ๋ยเคมี   กะหล่ำดาว  ควรใส่ตามผลการวิเคราะห์ดินและพืช  เนื่องจากเป็นพืชที่ต้องการธาตุอาหารสูง  จึงจำเป็นต้องมีธาตุอาหารพอเพียง  สำหรับการเจริญให้ผลผลิตและคุณภาพสูง

การเพาะเมล็ด   กะหล่ำดาว  จำนวนเมล็ด  1  กรัมมีประมาณ  350  เมล็ด  ทดสอบความงอกก่อนเพาะเมล็ด ก่อนเพาะเมล็ดควรแช่เมล็ดในน้ำอุ่น  50  องศาเซลเซียส  เป็นเวลา  25-30  นาที  นำออกมาผึ่งให้แห้ง  อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการงอกของเมล็ด  20-30  องศาเซลเซียส  หยอดเมล็ดในถาดเพาะ  วัสดุเพาะ  ดินร่วน + ปุ๋ยหมัก/ปุ๋ยคอก  + 12-24-12


การย้ายปลูก   กะหล่ำดาว  ย้ายปลูกหลังหยอดเมล็ด  15-20  วัน  ระยะปลูก  30-50 x 75-100  เซนติเมตรขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

MulticollaC
การดูแลรักษา  กะหล่ำดาว  ในแบ่งแห่งนิยมปลิดยอด  เพื่อให้เก็บเกี่ยวเร็ว ขนาดสม่ำเสมอ ผลผลิตและคุณภาพสูง  โดยปลิดเมื่อต้นเจริญเต็มที่และปลีข้างล่างมีขนาด  0.5-0.75  นิ้ว  ในบางแห่งจะทยอยปลิดใบล่างออก  เพื่อให้ได้รับแสงแดดและช่วยในการสร้างอาหาร

การให้น้ำ   กะหล่ำดาว (Brussels Sprouts) กะหล่ำดาวเป็นพืชที่ต้องการน้ำสูง  และระยะเวลาในการปลูก  เก็บเกี่ยวนาน เพื่อให้ปลีขนาดใหญ่  ผลผลิตและคุณภาพสูง  ควรให้ความชื้นพอเพียงและสม่ำเสมอ  หรือ  1-1.5  นิ้วต่ออาทิตย์  หรือ  15-20  นิ้วต่อฤดูปลูก



การเก็บเกี่ยว   กะหล่ำดาว  80-100  วันหลังหยอดเมล็ด  หรือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  1.0-4.0  เซนติเมตร  หัวแน่น  ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง  โดยเริ่มเก็บเกี่ยวจากโคนต้นหลังจากเก็บเกี่ยวและปลิดใบล่าง  ต้นเจริญสูงขึ้น  ทำให้มีใบและปลีเพิ่มขึ้น  การเด็ดยอดให้ปลีขนาดใหญ่และสม่ำเสมอ ผลผลิตประมาณ  1  กิโลกรัมต่อต้น หลังเก็บเกี่ยวควรลดอุณหภูมิเฉียบพลันลงถึง  2  องศาเซลเซียส  ขนส่งโดยการใส่น้ำแข็งในภาชนะบรรจุ

การบรรจุในถุงพลาสติกที่ระบายอากาศได้  จะช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำในพืช  เนื่องจากกะหล่ำดาวมีอัตราการหายใจสูง  นอกจากนี้การละสมคาร์บอนไดออกไซด์ในภาชนะบรรจุสูงกว่า  20%  ทำให้มีกลิ่นและรสชาติเปลี่ยนไป  คุณภาพต่ำ  ไม่สามารถขายได้

การเก็บรักษา  กะหล่ำดาว 
เก็บรักษา  30  วัน  ในอุณหภูมิ  0  องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 90-95% อุณหภูมิสูงกว่า  10  องศาเซลเซียส ปลีจะเหลืองภายในเวลา  1  อาทิตย์  การเก็บรักษานานจะทำให้ใบเปลี่ยนเป็นสีดำอัตราการเสื่อมของเนื้อเยื่อในอุณหภูมิ  4.4  องศาเซลเซียส  จะสูงเป็นสองเท่าของอุณหภูมิ   –1  องศาเซลเซียส  

การเก็บรักษาในภาชนะบรรจุประกอบด้วย  ออกซิเจน  2.5-5%  และคาร์บอนไดออกไซด์  5-7.5%  เก็บรักษาในอุณหภูมิ  4.4  องศาเซลเซียส  สามารถยืดอายุการเก็บรักษา  1  อาทิตย์


ข้อมูลอ้างอิง  :  https://vegetweb.com

โพสต์โดย : POK@