Social :



ใช้กฏหมายเด็ดขาด! นายกฯย้ำขจัดคนชั่วลุยแก้หนี้นอกระบบ

17 พ.ย. 61 07:11
ใช้กฏหมายเด็ดขาด! นายกฯย้ำขจัดคนชั่วลุยแก้หนี้นอกระบบ

ใช้กฏหมายเด็ดขาด! นายกฯย้ำขจัดคนชั่วลุยแก้หนี้นอกระบบ

นายกรัฐมนตรี ตอบคำถาม 5 ข้อ ย้ำตั้งใจตั้งแต่ต้นบังคับใช้กฏหมายเด็ดขาดขจัดคนชั่ว แก้หนี้นอกระบบ - สั่งพม.สอบโกงเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด

  



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ทางสถานีโทรทัศน์รายการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ตลอดทั้งสัปดาห์มีภารกิจสำคัญในต่างประเทศ เริ่มจากไปฝรั่งเศสตามคำเชิญของประธานาธิบดี นายเอมานูว์แอลมาครง เข้าร่วมในงานวันรำลึกการครบรอบ 100 ปีการยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 และประชุมสันติภาพปารีส เพื่อระดมสมองเพื่อหาข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม ด้านสันติภาพ ธรรมาภิบาล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้มอบหนังสือ ที่สะท้อนแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้กับห้องสมุดสันติภาพกรุงปารีส จำนวน 3 เล่ม ซึ่งเพื่อให้ชาวโลกได้ศึกษาและซึมซับพระอัจฉริยภาพของในหลวงของเรา จากนั้นเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 33 โดยนอกจากผู้นำอาเซียนแล้ว ยังมีผู้นำประเทศคู่เจรจาของอาเซียน ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน สาธารณรัฐเกาหลี รัสเซีย ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ รวมทั้งผู้นำจากภาคีภายนอก และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ ซึ่งได้เน้นย้ำความสำคัญของประเด็นการสร้างความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง,ส่งเสริมความยั่งยืนให้อาเซียนในทุกมิติ, การเสริมสร้างหุ้นส่วนที่มีกับประเทศคู่เจรจาและประชาคมโลก รวมถึงการลดอุปสรรคทางการค้า,การเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันภายในภูมิภาค และการเร่งรัดการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้แล้วเสร็จโดยเร็ว การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค และยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงด้านต่าง ๆ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โทรคมนาคมและการสื่อสาร กฎระเบียบและการเชื่อมโยงในระดับประชาชน เพื่อก้าวไปสู่อาเซียนที่ไร้รอยต่อ

ทั้งนี้ ในตอนท้ายการประชุม ก็ได้รับมอบตำแหน่งประธานอาเซียน อย่างเป็นทางการจากสิงคโปร์ พร้อมประกาศแนวคิดสำหรับการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 คือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ความยั่งยืน (Sustainability) ในทุกมิติ ทั้งความมั่นคง ความสงบสุขของประเทศ  รวมทั้ง ความยั่งยืนด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดังนั้นตลอดทั้งปี จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุมกว่า 170 การประชุม ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านต่าง ๆ ของอาเซียน จึงขอเชิญชวนประชาชนให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร และขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ ร่วมกันเป็น เจ้าบ้านที่ดี เพื่อเตรียมต้อนรับอาคันตุกะที่จะมาเยือน




MulticollaC
นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถาม 5 ประเด็นสำคัญ ที่ประชาชนอยากรู้ มากที่สุดประกอบด้วย เรื่อง การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน และมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ว่ารัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งมาตรการทางภาษี มาตรการอำนวยความยุติธรรม รวมทั้งผลักดันกฎหมายสำคัญๆที่ช่วยปลดล็อกสัญญาเอารัดเอาเปรียบ ของนายทุน ประนอมหนี้สิน อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาความยากจนให้ยั่งยืนนั้น ที่ต้องยึดแนวทาง “วิถีพอเพียง” ให้ปราศจากหนี้สิน  รวมทั้งรัฐบาลตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อปลูกฝังวินัยการออมด้วย

ส่วนเรื่องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด – เด็ดขาด เพื่อขจัดคนชั่ว ให้หมดไปจากบ้านเมือง ยืนยันเป็นความตั้งใจแรกเริ่มที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินแต่การปกครองบ้านเมืองนั้น ไม่อาจจะมองเพียงแต่การปราบปราบผู้กระทำผิดเท่านั้น ต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีคุณธรรม –จริยธรรมด้วย เช่นเดียวกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ก็ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ไม่ต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น

ขณะที่ เรื่องแก้ปัญหายาเสพติดมีกระบวนการขั้นตอนที่เด็ดขาดและเข้มงวด แล้ว แต่รากเหง้า ของปัญหา ก็คือ เรื่องปาก – ท้อง และความอบอุ่นในครอบครัวเพราะไม่มีใครที่กินอิ่ม นอนหลับ สมาชิกในครอบครัวจึง เผลอตัว ไปในเส้นทางเสื่อม ดังนั้น ต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหา ที่จะทำให้ทุกครัวเรือนของไทย อยู่ดี มีสุขรายได้พอเลี้ยงครอบครัว มีการศึกษาที่ดี  ซึ่งจะโยงกับคำถามข้อสุดท้ายพอดี  การปฏิรูปการศึกษา ก็เหมือนกับการปฏิรูปด้านอื่นๆ ที่ต้องมองตั้งแต่ต้นทาง – ไปจนถึงปลายทาง





นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปัญหาพืชผลทางการเกษตร มีสถานการณ์น่าเป็นห่วง เนื่องจากตลาดภายนอกประสบปัญหาสงครามทางการค้า ราคาน้ำมันผันผวน ทำให้ราคาส่งออกสินค้าเกษตร ของทุกประเทศที่ไปร่วมประชุมมามีปัญหาทั้งหมด ทั้ง ยาง,ปาล์ม โชคดีที่ข้าว ปีนี้ดีขึ้น ยืนยันรัฐบาลพยายามจะหามาตรการที่เหมาะสมแก้ไขให้ ขอให้เกษตรกร พ่อค้า เข้าใจ ช่วยกันแก้ปัญหาด้วย อย่ามัวแต่โทษกันไปมา

ทั้งนี้ นายกฯทิ้งท้ายว่า เรื่องร้องเรียนในโลกออนไลน์ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ได้มอบหมายให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปดำเนินการสอบสวนแล้ว หากพบมี การทุจริต ในระบบ ก็จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด

 
ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews.

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด