5 อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ที่จะมาแรงในปีหน้า
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เผย 5 อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ในไทยที่จะมาแรงในปีหน้า
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ชี้ 5 อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปมาแรงปี 62 พ่วงเทรนด์รักสุขภาพ-สูงอายุ ยืนหนึ่งบนมาร์เก็ต พร้อมแนะจุดเปลี่ยนสำคัญเพื่อเอสเอ็มอีเกษตรไทย เตรียมอัดงบกว่า 85 ล้าน ดัน 16 โครงการ หนุน ผปก. เกษตรไทย เน้นยังต้องเดินด้วยเทคโนฯ - นวัตกรรม
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเกษตรต้องปรับกระบวนการไปสู่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับที่เข้มข้นขึ้น เพื่อให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมการบริโภคที่คาดว่าจะเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมในการยืดอายุของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมในการลดต้นทุน ระบบออโตเมชั่นลดระยะเวลาการทำงานในกระบวนการต่าง ๆ การใช้บิ๊กดาต้าเพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ มาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ 5 อุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและเกษตรแปรรูปที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีและเป็นที่ต้องการของตลาดในปี 2562 ได้แก่
1. อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่เน้นเทรนด์การรักสุขภาพ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดมาจากความตื่นตัวและใส่ใจในสุขภาพของคนในสังคม โดยเฉพาะพืชผลเกษตรที่ให้คุณค่าทดแทนแป้งและน้ำตาล หรือ กลุ่มอาหารที่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคของผู้สูงอายุ อาทิ เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ โดยตัวอย่างของผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปในกลุ่มนี้ เช่น ธัญพืชอัดแท่ง น้ำนมข้าวกล้อง เครื่องปรุงรสอาหารที่เน้นการลดโซเดียมหรือสารอาหารที่เกินความจำเป็น
2. อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่ผลิตมาจากผลไม้เมืองร้อน เนื่องด้วยความนิยมในการเลือกบริโภคของชาวไทยและชาวต่างชาติที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายในการส่งเสริมผลิตผลทางการเกษตรประเภทดังกล่าวของรัฐบาล ที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำ - ปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้สด เช่น ทุเรียน มังคุด สับปะรด รวมทั้ง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้อบแห้ง เครื่องดื่มหรือขนมขบเคี้ยวที่มีผลไม้เมืองร้อนเป็นส่วนผสม ซึ่งการเติบโตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นยังมีอานิสงส์ มาจากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีน ญี่ปุ่น ยุโรป และกลุ่มอาเซียนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
3. อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปเพื่อสุขภาพที่ไม่ใช่อาหาร ซึ่งจะเป็นการเพิ่มคุณค่าในด้านของใช้ประจำวัน โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลร่างกาย ซึ่งปัจจัยที่จะเพิ่มมูลค่าให้การทำธุรกิจด้านนี้ได้นั้น จะต้องคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคและความนิยมของตลาดเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารสกัด ส่วนผสมที่หลากหลายที่มีผลต่อจิตวิทยาในความเชื่อด้านคุณประโยชน์ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับกลิ่นที่ช่วยในเรื่องการบำบัดและความหอม
4. ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเกษตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังมาแรง โดยมีปีปัจจัยหนุนมาจากสังคมพื้นฐานของประเทศไทยที่ส่วนใหญ่เป็นสังคมเกษตรกรรม ทั้งนี้ โอกาสที่จะเติบโตของกลุ่มสตาร์ทอัพได้นั้นจะต้องเน้นการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร เช่น การแบ่งปันเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือที่เหมาะสมกับเกษตรกรรมแต่ละประเภท การระดมทุนจากธุรกิจรายใหญ่เพื่อจัดซื้อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ การพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ตลอดจนการพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ๆ ที่จะเป็นโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ขึ้น
5. ชุมชนท่องเที่ยวทางการเกษตร จากรูปแบบการท่องเที่ยวที่หลากหลายในปัจจุบันเป็นผลให้การท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันหลาย ๆ หน่วยงานรวมทั้งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมก็ได้มีนโยบายในการพัฒนาชุมชนดังกล่าวให้เติบโตได้ด้วยการนำความโดดเด่นของพื้นที่มาพัฒนาเป็นบริการทางการท่องเที่ยว เช่น บริการโฮมสเตย์ท่ามกลางธรรมชาติการทดลองเก็บเกี่ยวพืชผลการทำกิจกรรมร่วมกับวิสาหกิจชุมชนทั้งนี้ นอกจากจะพัฒนาบริการท่องเที่ยวแล้วยังสามารถนำผลผลิตที่ได้จากการเกษตรมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของฝากได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามในปี 2562 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้จัดเตรียมงบประมาณเพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูปไว้กว่า 85 ล้านบาท โดยมีกิจกรรมส่งเสริมหลากหลายรูปแบบภายใต้ 16 โครงการ อาทิ การพัฒนาระบบมาตรฐานสากลหรือผลิตภาพในสถานประกอบการ การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยการนำความรู้ทางเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนำไปสู่ การผลิตเชิงพาณิชย์ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพด้วยมาตรฐานสารสกัด ซึ่งได้ตั้งเป้าให้ผู้ประกอบการเกิดการพัฒนา ในด้านต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 800 กิจการ จำนวน 650 คน
ข้อมูลอ้างอิง : https://mgronline.com
โพสต์โดย : POK@