เทคนิคการปลูกมะม่วงด้วย การเสริมราก เพื่อให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
เทคนิคการปลูกมะม่วงด้วย การเสริมราก
เพื่อให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
การเสริมรากมะม่วง จะทำในลักษณะเช่นเดียวกับการต่อกิ่งเพื่อค้ำยัน ส่วนใหญ่จะทำเพื่อการเสริมรากเพื่อสร้างความแข็งแรงให้แก่ต้นมะม่วงที่ปลูกไปแล้วให้สามารถชอนไชหาอาหารได้ในวงกว้างขึ้น ในขณะเดียวกันจะช่วยป้องกันการโค่นล้ม ส่งผลให้ผลผลิตมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ขั้นตอนการเสริมราก
1. ทำการเพาะเมล็ดต้นตอบริเวณโคนต้นมะม่วงที่จะทำการเสริมราก ระยะห่างจากโคนต้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร
2. เมื่อต้นตอที่เพาะด้วยเมล็ดมีขนาดที่เหมาะสม หรือ หลังจากการเพาะประมาณ 8-12 เดือน สามารถทำการต่อกิ่งได้
3. ทำแผลบนต้นแม่ของมะม่วงพันธุ์ดีที่จะทำการเสริมราก โดยเฉือนเข้าเนื้อไม้เป็นมุมเอียงขึ้นประมาณ 20-30 องศา คล้ายกับวิธีการต่อกิ่งแบบเสียบข้าง
4. เฉือนปลายต้นตอที่ได้จากการเพาะเมล็ดแบบรูปลิ่ม โดยให้แผลด้านในยาวกว่าแผลด้านนอก
5. เสียบต้นตอเข้าในรอยแผลของต้นแม่ให้แนวเนื้อเยื่อสัมผัสกันให้มากที่สุดแล้วพันด้วยพลาสติกหุ้มรอยแผลให้แน่น
6. ทำการบำรุงรักษาต้นมะม่วงตามปกติ ทั้งการให้น้ำและการใส่ปุ๋ย ระยะเวลา 1 เดือน แผลที่ทาบติดกันจะสนิท จากนั้นก็เอาพลาสติกที่หุ้มแผลออก จะได้รากสมบูรณ์ของมะม่วงพันธุ์ดีเพิ่มขึ้นมากอีก 1 ราก ช่วยให้มะม่วงสามารถหาอาหารได้เพิ่มมากขึ้น ช่วยยึดต้นมะม่วงไม่ให้โค่นล้มได้ง่าย และมะม่วงมีอายุยืนมากขึ้น
มะม่วงที่ผ่านการเสริมรากจะช่วยเสริมความแข็งแรงของลำต้น ต้านทานการโค่นล้ม มีผลผลิตเพิ่มขึ้น
นายทอง สิงห์สุขุม ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกมะม่วง แบบชีวภาพโดยการใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมี ได้ใช้เทคนิคการเสริมรากให้กับมะม่วงที่มีอยู่ในสวนกว่า 1,600 ต้น อาทิ พรเศรษฐี น้ำดอกไม้เบอร์4 เขียวเสวย ฟ้าลั่น แก้วลืมลัง หนังกลางวัน และโชคอนันต์ สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 4-5 ครั้ง/ปี ให้ผลผลิตได้ทั้งในและนอกฤดูกาล ผลผลิตเฉลี่ย 60-70 กิโลกรัม/ต้น หรือ มากกว่าการปลูกโดยไม่เสริมรากเกือบเท่าตัว
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.rakbankerd.com
โพสต์โดย : POK@