" หยุด ! ทุกปัญหา ดราม่าในที่ทำงาน "

1.รับมือคนชอบนินทา 

   ธรรมชาติของมนุษย์เราแล้ว   โดยส่วนใหญ่มีนิสัยสนใจเรื่องชาวบ้านและขี้นินทากันเป็นปกติอยู่แล้ว  เพราะฉะนั้นอย่าได้ใส่ใจกับเสียงนกเสียงกามากเลย ยกเว้นเสียแต่ว่า  ถ้าเรื่องที่คุณโดนเมาท์นั้นร้ายแรง ถึงขนาดส่งผลต่อสภาพจิตใจของคุณอย่างรุนแรง ส่งผลให้คุณเสียพลังงานในการทำงาน และส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของคุณ คุณต้องเริ่มถามตัวเองในขั้นต่อไปว่า เรื่องที่ถูกเมาท์เป็นเรื่องจริงหรือใกล้เคียงกับความจริงไม่  ถ้าหากไม่ใช่เรื่องจริง คุณต้องกล้าพิสูจน์และชี้แจงเรื่องนี้ให้ทุกๆ คนรู้  อย่าปล่อยเลยตามเลย  แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องชี้แจงด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ ไม่ว่ากล่าวหรือเสียดสีใครเด็ดขาด แต่ถ้าสิ่งที่คุณโดนเมาท์นั้นเป็นเรื่องจริง คุณก็ต้องยอมรับมัน โดยไม่ต้องโวยวายหรือโต้ตอบแบบรุนแรง เพราะจะยิ่งทำให้คุณดูแย่ในสายตาคนอื่นๆ และตกเป็นหัวข้อนินทาหนักขึ้นไปอีก ทางที่ดีคือไม่ต้องใส่ใจ แค่เพียงเก็บไว้เป็นบทเรียนว่า วันข้างหน้าจะไม่ทำอะไรพลาดให้คนอื่นเก็บไปเมาท์ได้อีก

2. กำราบพวกชอบแย่งผลงาน

    เมื่อไหร่ที่คุณผุดไอเดียปิ๊งอะไรขึ้นมา อย่าเพิ่งเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังว่า “ฉันจะทำ…” แต่จงเก็บความคิดเหล่านั้นไปปล่อยให้เต็มที่ในที่ประชุม ให้ทุกๆ คนรู้พร้อมๆ กันไปเลยว่า ไอเดียนี้คุณคิดขึ้นได้ก่อน   เพื่อป้องกันไม่ให้มีแมวมาขโมยผลงานของคุณทีหลัง แต่สำหรับใครที่โดนแย่งผลงานไปแล้ว อย่าเพิ่งเสียใจและยอมแพ้ คุณต้องพยายามพัฒนาไอเดียนั้นให้เกิดขึ้นจริง และต่อยอดมันให้ดีกว่าไอเดียตั้งต้น (ที่แมวขโมยเสนอไป) ให้ได้ เชื่อไหมว่า ถ้าคุณทำได้ สุดท้ายแล้ว หัวหน้าจะลืมคนที่นำไอเดียไปเสนอเป็นคนแรกไปเลย

3. จัดการพวกชอบใส่ร้าย แทงข้างหลัง

     เราจะไม่มาแนะนำให้คุณอยู่นิ่งๆ ทำใจวางเฉยเป็นอันขาด เพราะบางครั้งสิ่งที่คุณโดนกระทำนั้นก็ส่งผลต่อความหน้าเชื่อถือในหน้าที่การงานของคุณอย่างโหดร้าย สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดในเวลานี้

 คือการปกป้องตัวเองให้ได้ งัดหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือพยานบุคคลทั้งหมดที่คุณมีออกมาซะ เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่า คุณไม่ได้เป็นอย่างที่เพื่อนร่วมงานตัวแสบใส่ร้ายหรือโยนความผิดมาให้

 เมื่อคุณมีหลักฐานมาประกอบคำชี้แจงของตัวเอง คราวนี้คำพูดของคุณก็จะมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น ไม่ดูเหมือนเป็นการแก้ตัวลอยๆ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด และอย่าลืม สิ่งสำคัญที่สุด คือ คุณต้องทำรายงานการประชุม ส่งให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง ระบุไปให้ชัดๆ เลยว่า ใครเสนออะไร ใครพูดอะไรไว้ เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกใส่ร้ายป้ายสีอีกในครั้งต่อไป

4. เอาตัวรอดจากพวกอารมณ์ร้าย

    คนบางคนแม้จะอายุมาก หรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง แต่กลับควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ ชอบแสดงอารมณ์โมโหร้าย เกรี้ยวกราดให้คนอื่นเห็นเสมอ  วิธีรับมือกับคนพวกนี้อย่างง่ายที่สุด

 คือ  อย่าไปง้อ  อย่าไปนอยด์   อย่าอารมณ์ขึ้นตาม  อย่าไปเสียเวลาเถียงกับเขา  และที่สำคัญอย่าพยายามอธิบายอะไรทั้งสิ้น แม้จะเป็นเหตุเป็นผลแค่ไหนก็ตาม คุณแค่ต้องเงียบ ปล่อยเบลอ ทำเป็นไม่สนใจ เพราะต่อให้คุณพูดอะไรไปเวลานี้ เขาก็ไม่ยอมรับฟังคุณอยู่ดี จากนั้นค่อยหาจังหวะที่เขาอารมณ์ดีขึ้น แล้วค่อยๆ เข้าไปพูดคุยด้วยทีหลังจะดีกว่า

5. ถอยห่างจากพวกชอบดราม่า

    ทุกที่ทำงานมักจะมีเพื่อนร่วมงานจอมดราม่า ที่วันๆ เอาแต่นั่งบ่นว่า งานไม่ดี เงินน้อย เจ้านายใจดำ เพื่อนร่วมงานไม่น่ารัก และปิดท้ายด้วยประโยคเด็ดว่า อยากลาออก (รอบที่ล้าน) รู้ไหมว่าการอยู่กับคนประเภทนี้บ่อยๆ  อาจจะทำให้คุณกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายได้โดยไม่รู้ตัว ทางที่ดี อย่าเก็บเรื่องที่เขาบ่นมาใส่ใจ คิดซะว่า ถ้าคนประเภทนี้พูดอะไรให้เอา 10 หาร เพราะสิ่งที่เขาพูดมักจะผสมความดราม่าเข้าไปอีก และทางที่ดี ถอยห่างดีกว่า ถ้าไม่อยากให้พลังลบเหล่านั้นกลืนกินความสุขคุณจนไม่เหลือ

**เพียงเท่านี้   ชีวิตในการทำงานของคุณก็จะมีแต่เรื่องแฮปปี้**

ข้อมูล  :  goodlifeupdate