Social :



“อภิสิทธิ์”ปัดค้านแบ่งเขตหวังเลื่อนลต.

01 ธ.ค. 61 06:12
“อภิสิทธิ์”ปัดค้านแบ่งเขตหวังเลื่อนลต.

“อภิสิทธิ์”ปัดค้านแบ่งเขตหวังเลื่อนลต.

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองการแบ่งเขตเลือกตั้งบั่นทอนความน่าเชื่อถือกกต. ยัน ผู้สมัคร ปชป.พร้อมสู้ทุกเขต แม้จะเสียเปรียบ ย้ำค้านแบ่งเขตไม่หวังเลื่อนเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นถึงกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า มีหลายจังหวัดที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสุโขทัยที่เห็นได้ชัดว่า เขตเลือกตั้งเดิมที่เคยใช้มาแล้ว และไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งเมื่อพิจารณาจากแผนที่จากด้านเหนือลงมาด้านใต้ ก็เป็นเรื่องปกติมากในการแบ่งเขตครั้งที่ผ่านมา แต่ในครั้งนี้ มีข่าวมาตลอดว่ามีคนพยายามจะเปลี่ยนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งการแบ่งเขตที่ กกต. จังหวัดเสนอมาก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่หลังจากที่มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ที่ 16/2561 ออกมา ก็เป็นไปอย่างที่มีการพูดกันในวงใน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากแผนที่ก็ไม่มีเหตุผลว่า จะมีการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างที่ออกมา เพราะฉะนั้นตรงนี้จะเป็นตัวบั่นทอนความน่าเชื่อถือในการทำงานของ กกต. ว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการถูกแทรกแซงการเมืองอย่างต่อเนื่อง

 


นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังระบุว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งที่จังหวัดสุโขทัยเเละกาญจนบุรีนั้น อดีต ส.ส. ก็พร้อมที่จะสู้ พรรคประชาธิปัตย์เสียเปรียบมาหมายครั้งในการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการแบ่งเขตเป็นการตอกย้ำว่า ไม่มีความพยายามพัฒนาการเมืองและยกระดับการเมือง ยังอยู่ในกรอบความคิดเดิมๆ ที่อาศัยอำนาจในการช่วงชิงความได้เปรียบและขาดธรรมาภิบาลอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า สาเหตุที่ออกมาคัดค้านการแบ่งเขตในครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการอยากเลื่อนการเลือกตั้ง แต่ต้องการให้การเลือกตั้งเกิดความเป็นธรรม

 


พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากจะเทียบการใช้อำนาจรัฐในปัจจุบันกับเมื่อปี 2548 มองว่า ไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง ใครที่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองก็ต้องรับผิดชอบ เพราะมีบทเรียนในอดีตให้เห็นจากการต้องโทษจำคุกของ กกต. ที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ยุคนี้เห็นว่า มีมาตรา 44 คุ้มครองอยู่ จึงอาจทำให้ กกต. เกิดความคิดว่า ทำได้ ซึ่งอยากเรียกร้องให้
MulticollaC
กกต. เป็นหลักในการเลือกตั้งไม่กระทำอย่างในอดีต ไม่เช่นนั้นการเมืองไทยก็จะวนกลับไปสู่ภาวะวิกฤติอย่างที่เคยเป็นมา โดยมองว่าคนที่ทำพฤติกรรมเพื่อให้เกิดการแบ่งเขตในลักษณะนี้ไม่ควรพูดเรื่องธรรมาภิบาลและประชาธิปไตย

สำหรับในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น มองว่า มีมาตรา 44 คุ้มครองการแบ่งเขตของ กกต. การจะดำเนินการเพื่อร้องเรียนคงทำได้ยาก ยกเว้นแต่ว่าจากการให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่ระบุว่า สามารถร้องศาลปกครองได้ จึงอยากฝากสื่อมวลชนให้ช่วยถามนายวิษณุว่า จะสามารถมาเป็นพยานในศาลให้ได้หรือไม่ และหากศาลบอกว่าไม่รับคำร้องเนื่องจากติดมาตรา 44 นายวิษณุจะรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งเท่าที่พิจารณาขณะนี้มองว่า ช่องทางที่จะร้องนั้นแทบจะไม่มี ส่วนการร้องผ่านศาลรัฐธรรมนูญนั้นฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าสามารถร้องได้หรือไม่ ซึ่งส่วนตัวมองว่า หากไม่มีมาตรา 44 การแบ่งเขตลักษณะนี้ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะมาตรา 44 ระบุว่า การแบ่งเขตของ กกต.ให้ถือเป็นการสิ้นสุดและชอบธรรม จึงเป็นปัญหาและมีข้อสงสัยตั้งแต่แรกว่า นี่คือเหตุผลที่ออกมาตรา 44 หรือไม่ เพราะไม่มีมาตรา 44 ก็แบ่งเขตได้

 


นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มี 4 รัฐมนตรี สังกัดอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ และสมควรแก่เวลาที่จะลาออกนั้น เท่าที่ทราบ น่าจะให้ถึงเวลาที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีผลบังคับใช้ หรือการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง จึงจะมีความชัดเจนเรื่องการลาออก ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ส่งสัญญาณว่า มีความพร้อมที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองแล้ว จะกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่น่ากลัวของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น อยู่ที่ประชาชนว่าจะตัดสินใจเลือกหรือไม่ แต่ส่วนตัวพร้อมที่จะแข่งขันอยู่แล้ว สำหรับกระแสพลังดูดภายหลังจากพ้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 มาแล้วนั้น ภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเบาลง แต่ยังไม่หมด


ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews.

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด