แท็กซี่เสยรถพ่วง 18 ล้อ ไฟลุกท่วม คลอกคนขับดับสลด

เมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. พ.ต.ท.ณัทปกรณ์ ปัญญาดี รอง ผกก.(สอบสวน) ส.ทล.2(อินทรา)กก.8 บก.ทล. รับแจ้งเหตุรถแท็กซี่ชนรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เกิดไฟลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนสะพานข้ามคลองประเวศ ถนนกาญจนาพิเศษ มุ่งหน้าถนนบางนา-ตราด แขวงและเขตประเวศ กทม.

จึงไปตรวจสอบพร้อมตำรวจ สทล.2(อินทรา)กก.8บก.ทล. เจ้าหน้าที่กู้ชีพการทางพิเศษ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมรถดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กรุงเทพมหานคร 4 คัน และรถน้ำดับเพลิงการทางพิเศษ 2 คัน

ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานข้ามถนนอ่อนนุช ในช่องทางขวาพบ รถแท็กซี่ส่วนบุคคล โตโยต้า อินโนวา สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ 5734 กรุงเทพมหานคร มีไฟกำลังลุกไหม้และมีเสียงระเบิดดังเป็นระยะๆ จนไฟลุกลามไปทั่วทั้งคัน

สภาพด้านหน้าฝากระโปรง ชนอัดมุดเข้าไปที่ด้านท้ายของ รถพ่วง 18 ล้อ หัวพ่วง นิสสัน สีน้ำเงิน มีสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถระบุ บริษัท เอ็นแอนด์ดี เทรลเลอร์ จำกัด ทะเบียน 61-4043 กรุงเทพมหานคร ท้ายพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 40 ฟุต

ภายในบรรจุลวดทองแดง โดยไฟได้โหมลุกลามไปท้ายรถ ตลอดจนล้อรถคันดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลากว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงได้

จากการตรวจสอบภายในรถแท็กซี่คันดังกล่าว พบศพอยู่ที่เบาะหน้าฝั่งคนขับ สภาพถูกไฟไหม้ดำ จนไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นใคร ทางเจ้าหน้าที่ต้องนำเครื่องมือตัดถ่างมาทำการตัดประตูรถ เพื่อเคลื่อนย้ายศพส่งไปชันสูตร ที่ สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ และเคลื่อนย้ายรถไปเก็บไว้ที่ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 บก.ทล.

 พ.ต.ท.ณัทปกรณ์กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนขับรถพ่วงกำลังจะนำลวดทองแดงที่บรรทุกมา ไปส่งที่ย่านถนนศรีนครินทร์ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดเสียไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงจอดรถในช่องทางขวาสุด พร้อมเปิดไฟฉุกเฉินไว้ จากนั้นก็มีรถแท็กซี่วิ่งมาชนเข้าที่ส่วนท้ายพ่วงอย่างจัง จนทำให้เกิดไฟไหม้ลุกท่วมรถทันที และมีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ในรถ

ซึ่งจะต้องนำร่างชายนิรนามรายนี้ไปทำการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไปว่าเป็นใคร ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 45 วัน พร้อมประสานเจ้าของบริษัทรถบรรทุกเข้ามาให้การ เนื่องจากทางตำรวจ ไม่พบผู้ขับรถบรรทุกคันนี้อยู่ในที่เกิดเหตุ และรอผลพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

หากพบว่าผู้ขับรายนี้กระทำความผิด จะถูกแจ้งข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” เนื่องจากตามหลักกฎหมายแล้วหากรถจอดเสียข้างทางต้องมีสัญญาณไฟเตือนอย่างชัดเจน แต่รายนี้ไม่ได้มีการนำมาตั้งวางแต่อย่างใด

คลิ๊กอ่านที่มา