ชี้ ปมนายกฯ แนะ...ปชป.จี้กกต.เป็นกลางปมบัตรลต.ห่วงไร้โลโก้ทำสับสน

ปชป. ชี้ ปมนายกฯ แนะ กกต.ไม่ให้ใส่โลโก้พรรคประชาชนอาจสับสน ทำคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยบั่นทอนพรรคการเมืองอาจขัด รธน. บอกรัฐบาลปฏิรูปประเทศล้มเหลว

นาย ธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเป็นกังวลมาตลอดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ควรเข้าร่วมประชุมแม่น้ำ 5 สาย เพราะมีสถานะเป็นทั้งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รวมทั้งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเมื่อเข้าประชุมจึงมีปัญหาตามมา อีกทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็มีท่าทีสอดรับในเรื่องการกำหนดให้ไม่มีชื่อผู้สมัคร หรือชื่อพรรค และโลโก้พรรคด้วย โดยขณะนี้ทีมกฎหมายของพรรคกำลังพิจารณาเรื่องนี้ว่าขัดต่อกฎหมายหรือไม่

ทั้งนี้ ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคใหญ่กับพรรคเล็ก แต่มองว่าอาจจะทำให้คนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยลง เพราะการกาบัตรมีความยุ่งยาก และสับสนในการลงคะแนน ซึ่งถือว่าเป็นการบั่นทอนพรรคการเมืองอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ ยังมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีความเป็นธรรมและสร้างความสับสนให้กับประชาชนอีกหลายเรื่อง เช่น การโฆษณาหาเสียงที่ไม่รู้ว่าจะทำได้เพียงใด, การแบ่งเขตเลือกตั้ง จึงเรียกร้องให้กกต.ทำหน้าที่เป็นกลางและบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อไม่ให้ 4 ปีที่ผ่านมาสูญเปล่า

ส่วนการปฏิรูปประเทศที่ผ่านมาของรัฐบาลมองว่าล้มเหลวทั้งในการปฏิรูปตำรวจ, กฎหมาย, การเมือง และโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่นอกจากจะไม่ได้ปฏิรูปแล้วยังมีโครงการประชานิยมออกมาในช่วงใกล้เลือกตั้งหลายโครงการ ซึ่งทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

นายธนา ได้เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้ ว่า พรรคได้ดำเนินการจัดตั้งตัวแทนประจำจังหวัดและจัดตั้งสาขาพรรคครบตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว โดยในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เวลา 13.00 น. จะเชิญอดีต ส.ส. พรรค และผู้สมัครส.ส. เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการเลือกตั้งและรับฟังนโยบายหาเสียงของพรรคที่จัดทำเสร็จแล้ว โดยการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคจะมีทั้งนโยบายใหญ่และนโยบายย่อยระดับภาคด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติแต่งตั้งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค 6 คน อาทิ นาย องอาจ คล้ามไพบูลย์ ให้เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคด้านสื่อสารสาธารณะและสื่อสารมวลชน, นาย กนก วงศ์ตระหง่าน ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคด้านนโยบายสาธารณะ เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews.