Social :



ทำความรู้จักกับหญ้าข้าวนก หนึ่งในศัตรูตัวสำคัญในนาข้าว

10 ธ.ค. 61 13:12
ทำความรู้จักกับหญ้าข้าวนก หนึ่งในศัตรูตัวสำคัญในนาข้าว

ทำความรู้จักกับหญ้าข้าวนก หนึ่งในศัตรูตัวสำคัญในนาข้าว

ทำความรู้จักกับหญ้าข้าวนก
หนึ่งในศัตรูตัวสำคัญในนาข้าว

หญ้าข้าวนก  หรือ  หญ้าพุ่มพวง  (Bamyard  grass)  จัดเป็น วัขพืช ที่สำคัญใน นาข้าว  เป็นวัชพืชที่คล้ายต้นข้าวมาก  ทำให้ยากต่อการกำจัดด้วยมือ  เพราะแยกแยะยาก พบได้ทั่วไปตามพื้นที่ชื้นแฉะ มีน้ำขังในช่วงหน้าฝน  โดยเฉพาะในนาข้าวที่เติบโตพร้อมกับต้นข้าว แพร่กระจายได้เร็ว ทนต่อดินเค็ม ดินเปรี้ยวได้สูง


การแพร่กระจาย
หญ้าข้าวนก  ไม่มีหลักฐานที่ระบุถิ่นกำเนิดที่แน่นอน  บ้างก็สันนิษฐานว่าเป็นพืชท้องถิ่นในเอเชียกลางหรือเอเชียตะวันออก  บ้างก็ระบุว่ามีแหล่งกำเนิดในยุโรปตะวันออก  แล้วแพร่กระจายมาสู่ประเทศเขตร้อนชื้น  และเขตหนาว

ข้อแตกต่างหญ้าข้าวนกกับต้นข้าว
1. ระยะแรกจะแยกยาก  แต่แยกได้ด้วยเยื่อกั้นน้ำบริเวณรอยต่อระหว่างใบกับกาบใบ  โดยหญ้าข้าวนกจะไม่มีเยื่อนี้ ส่วนต้นข้าวจะมีเยื่อกั้นน้ำ  และหากฉีกกาบหุ้มดูลำต้นภายในจะพบว่า หญ้าข้าวนกจะเป็นข้อปล้องห่าง  ปล้องทรงกลม  เหนียว  ตัดเด็ดยาก  ส่วนต้นข้าวจะมีข้อสั้นๆ  ลำต้นอ่อน หักเด็ดง่าย
2. หญ้าข้าวนกที่โตเต็มที่ บริเวณโคนกาบหุ้ม และโคนข้อจะมีสีม่วงแต้ม ขณะที่ต้นข้าวไม่มี
3. เมื่ออยู่ในระยะออกดอก หญ้าข้าวนกจะมีลำต้นสูงกว่าต้นข้าว  ซึ่งจะชูช่อดอกสูงเด่นชัดเจนกว่าต้นข้าว  และจะออกดอกก่อนต้นข้าวเสมอ
4. ใบหญ้าข้าวนกที่โตเต็มที่จะสอบแคบ  และเรียวยาวมากกว่าใบต้นข้าว

ประโยชน์หญ้าข้าวนก/หญ้าพุ่มพวง
หญ้าข้าวนก  มีลำต้นสูง  ใบใหญ่  คล้ายต้นข้าว เมล็ดนำมาหว่านในแปลง ก่อนเก็บเกี่ยวเป็นหญ้าเลี้ยงสัตว์  ทั้งโค  กระบือ  แพะ  และแกะ


ข้อเสียหญ้าข้าวนก/หญ้าพุ่มพวง
1. หญ้าข้าวนก  มีลักษณะลำต้น และใบคล้ายกับต้นข้าว  หากดูผิวเผินจะแยกแยะออกจากต้นข้าวยาก  ต้องจับดูลำปล้องเปรียบเทียบกันจึงจะแยกแยะได้  ทำให้การกำจัดด้วยมือลำบาก  จนเติบโต และแย่งอาหารจากต้นข้าว  ทำให้ข้าวมีลำต้น  และรวงข้าวเล็ก
2. หญ้าข้าวนกจะเติบโตพร้อมกับต้นข้าว  แต่ลำต้นจะแก่ และเมล็ดจะร่วงลงดินก่อนเก็บเกี่ยวข้าว  (ข้าวนาปี)  เมล็ดที่ร่วงมีความทนต่อความแห้งแล้งได้ดีมาก  และจะงอกใหม่ในฤดูปลูกข้าวต่อไป และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย หากไม่กำจัด

การป้องกัน และกำจัดก่อนปลูกพืช
MulticollaC
การไถตากหน้าดิน ไม่สามารถทำลายเมล็ดหญ้าหรือวัชพืชได้  แต่สามารถทำลายกล้าอ่อนได้ โดยปล่อยน้ำเข้าแปลงนาหรือขังน้ำจากน้ำฝนในแปลง  5-7  วัน  จากนั้นปล่อยน้ำออก ให้เหลือน้ำเพียงผิวแปลงแล้วทิ้งไว้  14-20  วัน  วัชพืชชนิดต่างๆจะงอกขึ้นมาพร้อมกับต้นกล้าของหญ้าข้าวนกด้วย  จากนั้น  ทำการไถกลบแปลงให้ลึก  เพื่อทำลายกล้าหญ้า หลังจากนั้น ทำการหว่านข้าวหรือปลูกพืชตามปกติ


การกำจัดด้วยสารกำจัดวัชพืช
ระยะก่อนงอก  ได้แก่  พาราควอต  และคอนเท็คซ์  (โคลมาโซล)
ระยะหลังงอก  ได้แก่  ไกลโฟเซต  และเลกาซี

การปลูก หญ้าข้าวนก/หญ้าพุ่มพวง (หญ้าอาหารสัตว์)
หญ้าข้าวนกแพร่กระจายตามธรรมชาติด้วยเมล็ด  หากต้องการปลูกจะใช้วิธี หว่านเมล็ด เป็นหลัก  เมล็ดสามารถงอกได้ดีในความชื้นประมาณ  75-95%  จะมีอัตราการงอกที่  80%  หากมีความชื้น  50%  เมล็ดจะงอก  75%

หญ้าข้าวนกในประเทศญี่ปุ่นจะงอกไดดีในช่วงอุณหภูมิ  30-35 °C  ส่วนเยอรมัน  และสหรัฐอเมริกา  จะงอกได้ดีที่อุณหภูมิ  20-30 °C  ทั้งนี้  ความเป็นกรดด่างของดินที่เหมาะสมในการงอก  6.8-7.0   นอกจากนั้น  ค่า  Eh  ยังมีส่วนในการงอกของหญ้าข้าวนกเช่นกัน  เช่น  เมื่อดินมี  ammonium  nitrate  จะช่วยให้เมล็ดมีอัตราการงอกสูงถึง  52%

ส่วนแสงสว่าง ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการงอกเมล็ด และปัจจัยของออกซิเจน หากมีออกซิเจนรอบเมล็ด 20% จะช่วยให้อัตราการงอกได้สูงถึง 99% แต่หากออกซิเจนตำว่า 1% เมล็ดจะไม่งอก ทั้งนี้ เมล็ดหญ้าข้าวนกจะงอกได้น้อยเมื่อเมล็ดอยู่ลึกมาก เพราะจะขาดออกซิเจน และมีอัตราการงอกสูงสุดที่ความลึกประมาณ  3.75  เซนติเมตร

ข้อมูลอ้างอิง :  https://puechkaset.com


โพสต์โดย : POK@