ทำความรู้จักกับหญ้าข้าวนก หนึ่งในศัตรูตัวสำคัญในนาข้าว
ทำความรู้จักกับหญ้าข้าวนก
หนึ่งในศัตรูตัวสำคัญในนาข้าว
หญ้าข้าวนก หรือ หญ้าพุ่มพวง (Bamyard grass) จัดเป็น
วัขพืช ที่สำคัญใน
นาข้าว เป็นวัชพืชที่คล้ายต้นข้าวมาก ทำให้ยากต่อการกำจัดด้วยมือ เพราะแยกแยะยาก พบได้ทั่วไปตามพื้นที่ชื้นแฉะ มีน้ำขังในช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะในนาข้าวที่เติบโตพร้อมกับต้นข้าว แพร่กระจายได้เร็ว ทนต่อดินเค็ม ดินเปรี้ยวได้สูง
การแพร่กระจาย
หญ้าข้าวนก ไม่มีหลักฐานที่ระบุถิ่นกำเนิดที่แน่นอน บ้างก็สันนิษฐานว่าเป็นพืชท้องถิ่นในเอเชียกลางหรือเอเชียตะวันออก บ้างก็ระบุว่ามีแหล่งกำเนิดในยุโรปตะวันออก แล้วแพร่กระจายมาสู่ประเทศเขตร้อนชื้น และเขตหนาว
ข้อแตกต่างหญ้าข้าวนกกับต้นข้าว
1. ระยะแรกจะแยกยาก แต่แยกได้ด้วยเยื่อกั้นน้ำบริเวณรอยต่อระหว่างใบกับกาบใบ โดยหญ้าข้าวนกจะไม่มีเยื่อนี้ ส่วนต้นข้าวจะมีเยื่อกั้นน้ำ และหากฉีกกาบหุ้มดูลำต้นภายในจะพบว่า หญ้าข้าวนกจะเป็นข้อปล้องห่าง ปล้องทรงกลม เหนียว ตัดเด็ดยาก ส่วนต้นข้าวจะมีข้อสั้นๆ ลำต้นอ่อน หักเด็ดง่าย
2. หญ้าข้าวนกที่โตเต็มที่ บริเวณโคนกาบหุ้ม และโคนข้อจะมีสีม่วงแต้ม ขณะที่ต้นข้าวไม่มี
3. เมื่ออยู่ในระยะออกดอก หญ้าข้าวนกจะมีลำต้นสูงกว่าต้นข้าว ซึ่งจะชูช่อดอกสูงเด่นชัดเจนกว่าต้นข้าว และจะออกดอกก่อนต้นข้าวเสมอ
4. ใบหญ้าข้าวนกที่โตเต็มที่จะสอบแคบ และเรียวยาวมากกว่าใบต้นข้าว
ประโยชน์หญ้าข้าวนก/หญ้าพุ่มพวง
หญ้าข้าวนก มีลำต้นสูง ใบใหญ่ คล้ายต้นข้าว เมล็ดนำมาหว่านในแปลง ก่อนเก็บเกี่ยวเป็นหญ้าเลี้ยงสัตว์ ทั้งโค กระบือ แพะ และแกะ
ข้อเสียหญ้าข้าวนก/หญ้าพุ่มพวง
1. หญ้าข้าวนก มีลักษณะลำต้น และใบคล้ายกับต้นข้าว หากดูผิวเผินจะแยกแยะออกจากต้นข้าวยาก ต้องจับดูลำปล้องเปรียบเทียบกันจึงจะแยกแยะได้ ทำให้การกำจัดด้วยมือลำบาก จนเติบโต และแย่งอาหารจากต้นข้าว ทำให้ข้าวมีลำต้น และรวงข้าวเล็ก
2. หญ้าข้าวนกจะเติบโตพร้อมกับต้นข้าว แต่ลำต้นจะแก่ และเมล็ดจะร่วงลงดินก่อนเก็บเกี่ยวข้าว (ข้าวนาปี) เมล็ดที่ร่วงมีความทนต่อความแห้งแล้งได้ดีมาก และจะงอกใหม่ในฤดูปลูกข้าวต่อไป และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย หากไม่กำจัด
การป้องกัน และกำจัดก่อนปลูกพืช
การไถตากหน้าดิน ไม่สามารถทำลายเมล็ดหญ้าหรือวัชพืชได้ แต่สามารถทำลายกล้าอ่อนได้ โดยปล่อยน้ำเข้าแปลงนาหรือขังน้ำจากน้ำฝนในแปลง 5-7 วัน จากนั้นปล่อยน้ำออก ให้เหลือน้ำเพียงผิวแปลงแล้วทิ้งไว้ 14-20 วัน วัชพืชชนิดต่างๆจะงอกขึ้นมาพร้อมกับต้นกล้าของหญ้าข้าวนกด้วย จากนั้น ทำการไถกลบแปลงให้ลึก เพื่อทำลายกล้าหญ้า หลังจากนั้น ทำการหว่านข้าวหรือปลูกพืชตามปกติ
การกำจัดด้วยสารกำจัดวัชพืช
ระยะก่อนงอก ได้แก่ พาราควอต และคอนเท็คซ์ (โคลมาโซล)
ระยะหลังงอก ได้แก่ ไกลโฟเซต และเลกาซี
การปลูก หญ้าข้าวนก/หญ้าพุ่มพวง (หญ้าอาหารสัตว์) หญ้าข้าวนกแพร่กระจายตามธรรมชาติด้วยเมล็ด หากต้องการปลูกจะใช้วิธี
หว่านเมล็ด เป็นหลัก เมล็ดสามารถงอกได้ดีในความชื้นประมาณ 75-95% จะมีอัตราการงอกที่ 80% หากมีความชื้น 50% เมล็ดจะงอก 75%
หญ้าข้าวนกในประเทศญี่ปุ่นจะงอกไดดีในช่วงอุณหภูมิ 30-35 °C ส่วนเยอรมัน และสหรัฐอเมริกา จะงอกได้ดีที่อุณหภูมิ 20-30 °C ทั้งนี้ ความเป็นกรดด่างของดินที่เหมาะสมในการงอก 6.8-7.0 นอกจากนั้น ค่า Eh ยังมีส่วนในการงอกของหญ้าข้าวนกเช่นกัน เช่น เมื่อดินมี ammonium nitrate จะช่วยให้เมล็ดมีอัตราการงอกสูงถึง 52%
ส่วนแสงสว่าง ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการงอกเมล็ด และปัจจัยของออกซิเจน หากมีออกซิเจนรอบเมล็ด 20% จะช่วยให้อัตราการงอกได้สูงถึง 99% แต่หากออกซิเจนตำว่า 1% เมล็ดจะไม่งอก ทั้งนี้ เมล็ดหญ้าข้าวนกจะงอกได้น้อยเมื่อเมล็ดอยู่ลึกมาก เพราะจะขาดออกซิเจน และมีอัตราการงอกสูงสุดที่ความลึกประมาณ 3.75 เซนติเมตร
ข้อมูลอ้างอิง : https://puechkaset.com
โพสต์โดย : POK@