“อภิสิทธิ์”ฉะ”ทักษิณ”อย่าทำลต.ขัดแย้งยันหาผู้สมัครจบธ.ค.

"อภิสิทธิ์" เห็นด้วย แก้ รธน. บางมาตรา ติง "ทักษิณ" อย่านำมาเป็นประเด็นหาเสียง หวั่นขัดแย้ง ยัน ปชป. หาผู้สมัคร สส. แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนธันวาคม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประขาธิปัตย์ กล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศเชิญชวนประชาชนแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยควรจะมีการแก้รัฐธรรมนูญหลายมาตรา ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ควรนำประเด็นเหล่านี้มาสร้างความขัดแย้งทางการเมือง หรือทำให้เกิดการเผชิญหน้ากัน ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญ จะต้องได้รับฉันทามติจากประชาชนด้วย และได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว. ที่ คสช. แต่งตั้งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดจึงเป็นเรื่องยาก และจะต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น ซึ่งจะต้องไม่ใช่ลดทอนการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจนักการเมืองด้วย เพราะยังมีเรื่องที่ประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งอื่น ๆ อยู่

เช่นเดียวกับความเหมาะสมของ 4 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ควรลาออกหรือไม่ว่า แม้เรื่องดังกล่าวจะไม่บัญญัติในกฎหมาย แต่จะต้องอธิบายให้ชัดว่า ความแตกต่างของรัฐบาลชุดนี้ ไม่เหมือนรัฐบาลอื่น เพราะมีอำนาจมากกว่ารัฐบาลในอดีตในช่วงการเลือกตั้ง ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องประกาศท่าทีให้ชัดเจนหรือไม่นั้น ก็คงเป็นไปตามกฎหมายเช่นกัน ขณะที่ท่าทีของ คสช. โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้า คสช. ที่ต้องการพูคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร่วมงานการเมืองกันในอนาคตนั้น ยืนยันว่า ไม่มีอะไร และ พล.อ.ประวิตร ยืนยันแล้วจะไม่เล่นการเมือง

ยันหาผู้สมัครส.ส.ทันก่อนสิ้นเดือนธันวาคม 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึง คสช. ออกคำสั่งปลดล็อกพรรคการเมืองว่า ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าสิ่งใดทำได้ ทำไม่ได้ แต่ได้กำชับสมาชิกพรรคไปแล้วว่าหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งทั้วไปแล้ว จะต้องระมัดระวังไม่ทำสิ่งใดที่ขัดต่อกฎหมาย ส่วนการจัดหาบุคคลเพื่อลงสมัคร ส.ส.ของพรรค คาดว่า จะแล้วภายในสิ้นเดือนนี้ เช่นเดียวกับการจัดทำนโยบายของพรรค จะเดินหน้าเต็มที่ในการยกระดับการกระจายอำนาจ เพื่อให้ท้องถิ่นมีอิสระในการพัฒนาตนเอง และพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า หากไม่แก้ปัญหาท้องถิ่นในวันนี้ อนาคตจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำยาก โดยกรรมการบริหารพรรค จะมีการประชุม เพื่อบรรจุนโยบายพรรค ลงในข้อบังคับพรรค และแจ้งให้ กกต. ทราบด้วยว่า งบประมาณในการจัดทำนโยบายจะใช้จากส่วนใด พร้อมยืนยัน นโยบายพรรคสามารถจับต้องได้

ส่วนปัญหาการจัดทำบัตรเลือกตั้งที่ กกต. แนะพรรคการเมือง ไปหารือกันเพื่อแก้ปัญหา โดยใช้พรรคเดียวเบอร์เดียว นั้นเห็นว่า เป็นเรื่องยาก เพราะบางพรรคไม่ได้ส่งผู้สมัครครบทุกเขต แต่หากทำได้จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะสะดวกต่อประชาชน แต่ประเด็นของบัตรเลือกตั้ง เกิดจากการเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง ที่อดีตใช้บัตร 2 ใบ และผู้สมัครใช้หมายเลขเดียวกับพรรคและมีโลโก้พรรคให้เห็น จึงสะดวกต่อประชาชน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ต่างจากอดีต จึงควรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เพื่อป้องกันความสับสน และไม่เห็นข้อเสียใดๆ จึงน่าจะดำเนินการให้ประชาชนสะดวก และส่วนตัวก็อยากให้มีทั้งชื่อคน และชื่อพรรค ซึ่งเคยเสนอ กกต. ไปแล้ว และไม่ใช่เรื่องยากที่ กกต. จะตัดสินใจ

ขอบคุณข้อมูลจาก:innnews