ยึดตามกฎหมาย...กกต.แจงทูตขั้นตอนลต.คาดปมบัตรเสร็จทัน19ธ.ค.

ประธาน กกต. แจงคณะทูต องค์กรระหว่างประเทศ ขั้นตอนการเลือกตั้งไทย คาดปมบัตรเสร็จทัน 19 ธ.ค.นี้ ยัน สภาเลือกนายกฯยึดกฎหมาย

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และ พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เป็นผู้บรรยายสรุปในเรื่องขั้นตอน และแผนการดำเนินการเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ที่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ให้กับคณะทูตานุทูตประจำประเทศไทย องค์การระหว่างประเทศ ประจำประเทศไทย ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้นานาประเทศรับทราบความคืบหน้าและการดำเนินการของ กกต. ที่ถูกต้อง รวมถึง ภายหลังจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปแล้ว กกต. จะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่พำนักอาศัยอยู่ต่างประเทศ ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเลือกตั้ง และเรื่องการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรต่อไป

ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุมบรรยาย ให้กับคณะทูตานุทูตประจำประเทศไทย องค์การระหว่างประเทศ ประจำประเทศไทย ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เรื่อง หลักๆในวันนี้คือการเลือกส.ว.ที่กำลังจะมีขึ้น เพื่อให้ชัดเจนว่ากระบวนการเลือกส.ว.ในกฎหมายปัจจุบันมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปที่มีการชี้แจงขั้นตอนและแผนงานเกี่ยวกับการเลือกตั้งประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งภายหลังการปลดล็อกทางการเมืองก็จะมีการชี้แจงให้กับพรรคการเมืองว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ส่วนวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก็จะต้องรอพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งทั่วไปประกาศใช้ก่อน ในฐานะของกกต.ก็อยากให้ต่างประเทศได้ทราบเพื่อนำไปเผยเพร่ในประเทศของตนเอง

นอกจากนี้ ทางผู้แทนจากต่างประเทศได้สอบถามถึงการส่งผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง โดยทางกกต.ได้ชี้แจงว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว ก็ยินดีต้อนรับจากทุกประเทศเพียงแค่แสดงความจำนงค์เข้ามาเพียงแค่ปฏิบัติตามกฎที่ทางกกต.ได้แจ้งไว้ ส่วนกรณีเรื่องบัตรเลือกตั้งที่เป็นประเด็นอยู่ขณะ นี้ ได้ชี้แจงไปว่าที่ผ่านมาเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ครั้งนี้เป็นบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว โดยทางกกต. ยืนยันว่า การใช้บัตรใบเดียวเป็นไปตามกฎหมายที่รัฐธรรมกำหนดและขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ที่จะมีการประชุมร่วมกับพรรคเมืองในการชี้แจงข้อกำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงและสื่ออิเล็กทรอนิกส์

 

นอกจากนี้ ทางคณะทูตานุทูตได้มีการตั้งคำถามถึงวิธีการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยสภา โดยกกต.ได้ชี้แจงว่า เป็นไปตามกฎหมายที่จะให้พรรคการเมืองมีสิทธิ์เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 5% ซึ่งไม่ทราบว่าจะมีกี่คน ซึ่งก่อนจะเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีจาก 2 สภา ซึ่งต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 376 เสียง

ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews