เทคนิคการปลูก และดูแล โหระพาอิตาลี
เทคนิคการปลูก และดูแล โหระพาอิตาลี
คุณโอ๋ ธรรมศักดิ์ ลือภูวพิทักษ์กุล จบการศึกษา Retail Design and Management จาก University The Arts of London เจ้าของบริษัทออกแบบธุรกิจค้าปลีกและบริหารธุรกิจค้าปลีก เป็นช่างภาพจิวเวอร์รี่ นักร้องวง P2Warship เป็นเจ้าของสนามฟุตบอล แต่ไม่มีทักษะทางการเกษตรเลยแต่สนใจอยากค้นหาความสุขในชีวิตโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เดินตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 เขามีพื้นที่ 1 ไร่ครึ่งเคยเป็นสนามฟุตบอลเก่านำมาปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรผสมผสาน ในซอยลาดพร้าว 71 ในชื่อ Hip Incy Farmville ทำเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมืองและมีร้านอาหารเล็กๆภายในฟาร์ม
หลักศรษฐกิจเพอเพียง ทำกินให้อิ่มก่อน ถ้าเหลือก็แจก เหลือจากแจกถึงค่อยขาย สิ่งนี้เป็นของจริงคุณโอ๋ใช้หลักคิดนี้แจกจ่ายผลผลิตในพื้นที่ 1 ไร่ครึ่งให้คนรู้จัก อยู่มาวันหนึ่งมีคนให้
โหระพา อิตาลี คุณโอ๋นำมาทำเป็นเพรสโต้ซอสได้ 2 ขวดเก็บไว้กินเอง 1 ขวดอีก 1 ขวดแจกมีคนชอบและบอกต่ออยากได้อีกก็เลยเริ่มทำขาย ในพื้นที่ขนาดเล็กแบบนี้หลักคิด ?ทำน้อยต้องให้ได้มาก?ก็จะเข้ามาสู่การแปรรูปผลผลิตที่มีอยู่เพื่อเพิ่มมูลค่า หัวใจสำคัญของการทำเกษตรในพื้นที่ขนาดเล็กอยู่ที่ทำอย่างไรที่จะทำให้ผลผลิตที่มีอยู่จำกัดเกิดมูลค่าให้มากที่สุดการขายโหระพาอิตาลีเป็นกิโลกรัมคงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายด้วยความเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้วคุณโอ๋จึงนำโหระพาอิตาลีมาแปรรูปเป็นเพสโต้ซอส
โหระพาอิตาลี (Italian basil) เป็นพืชสมุนไพรมีกลิ่นคล้ายชะเอมกับกานพลู กลิ่นหอมไม่แรงเท่าโหระพาไทย ซึ่งโหระพาอิตาลีเป็นส่วนประกอบของอาหารอิตาลี โดยสามารถนำมาทำเป็นเพสโต้ซอสช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเมนูจานเด็ดอย่างสปาเก็ตตี้เป็นต้น โหระพาอิตาลีเป็นพืชที่ปลูกไม่ยากแต่ต้องได้รับการดูแลมากกว่าโหระพาไทยเริ่มจากการเพาะกล้าด้วยการเตรียมวัสดุเพาะกล้าเกลี่ยใส่ลงในถาดเพาะกล้าจากนั้นหยอดเมล็ดรสน้ำทุกวันรอจนขึ้นใบจริงจึงเตรียมนำลงปลูก
การเตรีมแปลงปลูก ควรไถพรวนดินให้ละเอียดลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตรตากแดดไว้ราว 7 วัน ยกแปลงให้สูงจากพื้นราว 15-20 เซนติเมตรแปลงกว้างราว 50 เซนติเมตรใส่ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีคลุกเคล้าให้ทั่วนำกล้าที่ได้ขนาดลงแปลงคลุมฟางรดน้ำให้ชุ่มควรปลูกในช่วงเย็น โหระพาอิตาลีต้องการความชื้นแต่ไม่ชอบน้ำแฉะหรือน้ำท่วมขังเพราะจะทำให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่าได้ จึงต้องระวังเรื่องการให้น้ำค่อนข้างมาก หลังจากลงแปลงปลูกแล้วดูแลไปอีกราว 40 วันก็สามารถเริ่มตัดจำหน่ายหรือจะนำไปแปรรูปเป็นเพสโต้ซอสได้
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.rakbankerd.com
โพสต์โดย : POK@