Social :



วิธีการปลูก และดูแล แอปเปิ้ล

18 ม.ค. 62 11:01
วิธีการปลูก และดูแล แอปเปิ้ล

วิธีการปลูก และดูแล แอปเปิ้ล

วิธีการปลูก  และดูแล  แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล   เป็นไม้ผลเมืองหนาวประเภทผลัดใบ  ซึ่งมีแหล่งกำเนิดทางยุโรป  แหล่งปลูกที่สำคัญ ๆ ของโลกคือทวีปอเมริกา  ยุโรปทางแถบเอเซียก็มี  เช่น  โซเวียต  จีน  ญี่ปุ่นรวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ด้วย สำหรับประเทศไทยนั้นเพิ่งจะถูกนำเข้ามาปลูกไม่กี่ปีนี้เอง  ลักษณะต้นและใบ เป็นไม้เนื้อแข็ง รูปร่างของยอดที่เจริญเต็มวัยจะแตกต่างไปตามชนิดและตามพันธุ์  โดยทั่วไปต้นแอปเปิ้ลมีรูปร่างเกือบเป็นทรงกลม  แต่บางพันธุ์ก็มีลักษณะสูงชลูด  บางพันธุ์ก็มีลักษณะเป็นพุ่มแจ้ ใบเป็นใบเดี่ยวเขียวสลับกันและขอบเป็นหยัก  ผลคล้ายชมพู่มีรอยเป็นปุ๋มทางด้านขั้นและก้นผล  แต่ไม่ลึกนักมีสีผิวต่างกันตั้งแต่สีเหลืองคล่ำจนถึงน้ำตาลแดงเข้ม  เนื้อมักจะมีสีขาวหรือขาวนวลซึ่งมีลักษณะหยาบ  แอปเปิ่ลเป็นพืชในสกุล  Rosaceae  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Malus  domestica


สภาพดินฟ้าอากาศ
แอปเปิ้ลเป็นไม้ผลเมืองหนาวที่ต้องการอากาศหนาวเย็นอันยาวนาน  โดยจะทำให้ระยะพักตัวยุติลง  โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ  60-85  องศาฟาเรนไฮต์ ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า  20  องศาฟาเรนไฮต์ จะเป็นอันตรายต่อระบบรากอย่างรุนแรง  สำหรับดินที่เหมาะสมกับการปลูกแอปเปิลควรเป็นดินร่วนปนทรายมีความเป็นกรด-ด่างประมาณ  5.0-6.8  แต่แอปเปิลไม่ชอบดินที่มีน้ำขังบริเวณราก

พันธุ์แอปเปิ้ลมีประมาณ  2,000  พันธุ์  แต่ที่ดีและนิยมปลูกมีเพียง  4  พันธุ์ คือ
1. พันธุ์แอนนา   เป็นพันธุ์ที่ผสมขึ้นมาในประเทศอิสราเอลเมื่อผลแก่จัดจะมีสีเหลืองสดขนาดใหญ่ปานกลาง รูปผลค่อนข้างยาว
2. พันธุ์  เอน  เชเมอ   ผลค่อนข้างกลมขนาดเล็กว่า  แอนนา  เล็กน้อย  สีเหนืองจัด  ทั้ง  2  พันธุ์นี้ปลูกที่ดอยอ่างขางเริ่มจะให้ผลแล้ว
3. พันธุ์  โรม  บิวตี้   เป็นพันธุ์ที่ปล่อยละอองเรณูหลังจากที่ออกช่อดอกเร็วที่จะสามารถรับเชื้อได้  ดังนั้น  พันธุ์นี้จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้เป็นตัวถ่ายละอองเรณูแก่พันธุ์อื่น ๆ  ได้
4. พันธุ์  แกลนด์  อเลกเซนเตอร์


การขยายพันธุ์
การขยายพันธุ์แอปเปิ้ลทำได้หลายวิธี  เช่น  การติดตา  ตัดกิ่ง  วิธีการทำก็เริ่มจากเตรียมต้นตอ  ซึ่งอาจจะได้มาจากการตอนหรือปักชำ  แต่มีวิธีการเตรียมต้นตอ  ซึ่งจะได้จำนวนมากและระยะเวลารวดเร็วก็คือ  ทำโดยปลูกแอปเปิ้ลลงไปก่อน แล้วตัดต้นแอปเปิ้ลให้เหลือแต่ตอ  ตอจะแตกกิ่งก้านสาขาออกมามากมาย  เราจึงใช้ดินกลบโคนต้น  กิ่งเหล่านั้นก็จะแตกรากออกมา  เมื่อรากออกดีแล้วก็ทำการขุดย้ายเอาไปปลูกต่อไป ต้นตอที่ใช้ในประเทศไทยคือพันธุ์  เอ็ม  เอ็ม  106  ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ค่อนข้างแคระและสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ก็ยังมีไม้ป่าที่ใช้เป็นต้นตอได้ดี  เช่น  มะขี้หนู  กล้วยฤาษี  ก่อ  เป็นต้น

การปลูกและการปฏิบัตดูแลรักษา
การปลูกแอปเปิ้ล มีระบบการปลูกเป็น  2  แบบ  คือ
1. ระบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า
2. ระบบแนวระดับ

ในระบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะปลูกต้นไม้เป็นมุมฉากต่อกันอยู่แต่ละมุมของสี่เหลี่ยมผืนผ้า  เหมาะสำหรับปลูกไม้แซมทำให้พรวนดินได้  2  ทาง  สะดวกในการดูแลรักษา  และต้นแอปเปิลจะได้รับแสงแดดมากที่สุด

ส่วนระบบแนวระดับจะปลูกตามแนวระดับทางเดียวและมักจะคดเคี้ยวไปตามระยะทางห่างกันอีกด้านเป็นระยะจำกัด  ระบบนี้ช่วยลดการสึกกร่อนของดินเหมาะกับพื้นที่ที่เป็นเนินเขาหรือที่ลาดชัน

การเตรียมดิน  ก็เหมือนกับการปลูกไม้ผลทั่วไป  โดยขุดหลุมขนาด  1x1x1  เมตร  กองดินดินบนไว้กองหนึ่ง และดินชั้นล่างไว้อีกกองหนึ่ง  นำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า ๆ  เทใส่ลงไปขนาดพอ
Lif
ๆ  กับกองดินบน ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นจึงค่อยเอาดินล่างกลบลงไปให้มีระยะสูงกว่าปากหลุมเล็กน้อย  นำต้นตกลงปลูกได้แล้วกลบดินบริเวณโคนต้นให้แน่นพอควร  ระยะปลูกที่เหมาะสม  3x3  เมตร  หรือ  4x4  เมตร ในพื้นที่  1  ไร่  จะได้ประมาณ  100-177  ต้น

ฤดูกาลที่ปลูก   ควรทำในขณะที่อยู่ในช่วงพักตัว  คือช่วงฤดูหนาว  ซึ่งในช่วงนี้ต้นพืชจะได้รับการกระทบกระเทือนจากการขุดย้ายน้อยที่สุด


จะให้ประมาณ  2  ครั้งต่อปี  โดยในช่วงเริ่มออกดอกจะให้สูตร  13-13-21  และในช่วงหลังเก็บเกี่ยวและตัดแต่งจะให้สูตร  15-15-15  ส่วนอัตราที่ใช้ก็แล้วแต่ขนาดและอายุของการเจริญเติบโต วิธีการให้ปุ๋ยก็ทำโดยพรวนดินบริเวณรอบทรงพุ่มแล้วโรยปุ๋ยลงบนบริเวณที่พรวน จากนั้นก็ให้น้ำตามลงไป

สำหรับวิธีการต่าง ๆ  ที่จะช่วยให้แอปเปิ้ลมีดอกและผลก็มีการศึกษาทดลองกันมากมาย  เช่น  ในประเทศอินโดนีเซียใช้การโน้มกิ่งและปลิดใบเพื่อบังคับให้ตาแตก  จากวิธีนี้จะทำให้แอปเปิลออกผลได้  2  ครั้งต่อปี

การตัดแต่งกิ่งจะนิยมทำกันในช่วงที่ต้นแอปเปิลพักตัวคือในฤดูหนาว  ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่แอปเปิ้ลทิ้งใบจะสะดวกในการตัดแต่งกิ่งมาก

การปลิดผล
เมื่อแอปเปิ้ลติดผลมากเกินไปก็จะทำให้ได้ขนาดผลที่เล็กและอาจเป็นอันตรายแก่ต้นได้  เพราะใช้อาหารจากต้นมาก  ดังนั้น จึงต้องมีการปลิดผลออกบ้าง  โดยคำนึงถึงความแข็งแรงของต้น กิ่งและใบ โดยปกติแล้วใบที่จะปลุงอาหารมาเลี้ยงผลไม่ควรต่ำกว่า  40  ใบต่อ  1  ผล

การห่อผล
แอปเปิลที่ปลูกอยู่เราใช้กระดาษห่อผลตั้งแต่เมื่อผลยังมีขนาดเล็กอยู่ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันแมลงที่อาจจะมาเจาะผลทำลายและการห่อผลยังช่วยให้สีผลแอปเปิลสวยสดกว่าด้วย

ในการทำสวนแอปเปิ้ลมีความจำเป็นต้องทำในที่ที่มีอากาศเย็นหรือสภาพภูเขาสูง สิ่งที่จำเป็นคือพืชคลุมดิน  โดยจะช่วยลดการชะล้างหน้าดินและยังช่วยเก็บความชุ่มชื่นของดินให้อยู่ได้นานทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นด้วย  พืชที่ใช้ได้ดีบนดอยอ่างขางคือ  เดสโมเดียมเป็นพืชตระกูลถั่วสามารถเจริญเติบโตได้ดี

โรคและแมลง
การปลูกแอปเปิ้ลในเมืองไทยขณะนี้มีศัตรูที่สำคัญ  คือ  นก  ซึ่งจะจิกผลแอปเปิ้ลให้เกิดตำหนิเสียหาย  ส่วนศัตรูอื่น ๆ  เช่นโรคและแมลงก็มีบ้างแต่ยังไม่ทำความเสียหายมากนัก


การเก็บเกี่ยว
แอปเปิ้ลที่ปลูกในประเทศไทยคือที่ดอยอ่างขาง  จะเริ่มออกดอกประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์  และจะเริ่มเก็บผลได้ประมาณต้นเดือนมิถุนายน การเก็บต้องระมัดระวังให้มีการกระทบกระเทือนน้อยที่สุด  เพื่อป้องกันการชอกช้ำเสียหายอันจะทำให้ราคาต่ำได้ หลังจากเก็บแล้วก็นำบรรจุหีบเพื่อส่งตลาดต่อไป

ประโยชน์
แอปเปิลเป็นไม้ผลที่นิยมรับประทานผลสด  ราคาจำหน่ายก็สูงประมาณ  12-15  บาท  นอกจากนี้ยังสามารถเอาไปทำ  ไซเดอร์  และบางพันธุ์ยังนำไปทำอาหารคาวหวานได้หลายชนิด เช่น  ไพน์  แยม  เป็นต้น


ข้อมูลอ้างอิง  :  https://www.baanjomyut.com

โพสต์โดย : POK@