แจงสาเหตุ! “จตุพร”ย้ำจำเป็นต้องแยกหลายพรรคการเมือง
ประชาชนนับหมื่น ร่วมฟังปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อชาติ “จตุพร” ย้ำความจำเป็นต้องแยกหลายพรรคการเมือง
ที่ จ.สุรินทร์ พรรคเพื่อชาติ นำโดย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ได้เดินทางมาภาคอีสาน ตามกำหนดการพรรคเพื่อชาติสัญจร พร้อมทั้งเปิดสถาบันพัฒนาการเมือง โดยมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เป็นผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ตั้งแต่วันที่ 19-26 มกราคม 2562 โดยวันนี้ช่วงเช้าอยู่ที่ เทศบาลเมืองสุรินทร์ และต่อด้วยช่วงบ่ายซึ่งเป็นเวทีปราศรัยใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน โดยจัดขึ้นที่เทศบาลตำบลศีรขรภูมิ อ.ศีรขรภูมิ จ.สุรินทร์ และ ปิดท้ายที่โรงสีคุณโรจนินทร์ อ.ปราสาท บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนนับหมื่นคนมาเฝ้ารอและให้การต้อนรับอย่างคึกคัก ปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ จ.สุรินทร์ เขต 2 นายสมชาย เกียรติคุณรัตน์ (หมอยา) เขต 3 นายพงศกร พันไหล เขต 4 นายโกวิฎ วัฒนกุล เขต 5 นายศุรวิษฐ ศิริพาณิชย์ศกุนต์ (หมอติ๊ก) เขต 6 นางยิ่งลักษณ์ ไชยศรีษะ และเขต 7
นายจันทร์ทอง ทนงตน
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจรัฐธรรมนูญฉบับนี้ การที่จะเดินไปถึง 376 เสียง ไม่ใช้เรื่องที่ง่ายในระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว เพราะว่าในระบบบัตรเดียวจะไม่มีพรรคการเมืองใด ได้เกิน 175 นี้คือข้อเท็จจริงซึ่งเป็นไปได้ยาก ในระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบเราเคยจะเดินไปถึง 377 หรือ 265 ระบบบัตรใบเดียวได้ทำลายพรรคการเมืองพรรคใหญ่ ไม่ให้เป็นพรรคการเมืองพรรคใหญ่ได้อีกต่อไป เพราะฉะนั้นการรวมกันแพ้ แยกกันจึงชนะ มันมีความจำเป็น ฉะนั้นพรรคเพื่อชาติ ตั้งขึ้นมาก็เพราะรู้ว่า ถ้าอยู่รวมกันก็จะได้เสียงไม่ถึงครึ่ง เพราะฉะนั้นการแยกออกมาจะทำให้เสียงถึงครึ่ง ของสภาผู้แทนราษฎรแม้ว่าจะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ถ้าฝ่ายสืบทอดอำนาจสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะเขาต้องการเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเพียงแค่ 126 เท่านั้น แต่ว่าเวลาบริหารประเทศต้องอยู่กับสภาผู้แทนราษฎรสภาเดียวชนะก็ปกครองไม่ได้ ก็จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ภารกิจของพรรคเพื่อชาติคือต้องหาทุกคะแนนเสียง เพื่อไปสมทบกับฝ่ายประชาธิปไตย และต้องคิดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดว่า การเลือกฝ่ายประชาธิปไตยนั้นไม่ใช่การตัดคะแนนกัน แต่เป็นการเพิ่มคะแนนให้กัน
ขอบคุณข้อมูลจาก:innnews
โพสต์โดย : monnyboy