Social :



เทคนิคการปลูก และดูแล สาเก

28 ม.ค. 62 11:01
เทคนิคการปลูก และดูแล สาเก

เทคนิคการปลูก และดูแล สาเก

เทคนิคการปลูก  และดูแล  สาเก

สาเก   เป็นผลไม้ที่มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน  สามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารได้หลายรูปแบบ และยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ  อีกมากมาย  สามารถเจริญเติบโตได้เร็ว  ให้ผลดก และมีใบที่สวยงาม จึงเหมาะที่จะปลูกไว้เป็นไม้ผลหรือไม้ประดับที่ให้ร่มเงาในบริเวณบ้านเป็นอย่างยิ่ง

ความต้องการสาเกของท้องตลาดในปัจจุบัน สาเกนั้นยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกษตรกรที่ปลูกต้นสาเกเพื่อจำหน่ายผลยังคงมีไม่มากนัก โดยเฉพาะท้องตลาดที่รับซื้อสาเกไปแปรรูปเป็นอาหาร เช่น นำสาเกไปเชื่อม ยังคงมีความต้องการสาเกเป็นจำนวนมาก วันนี้เว็บไซต์เกษตรฮอตนิวส์ สาระความรู้ด้านการเกษตร จึงนำความรู้การปลูกสาเก ผลไม้พื้นบ้าน ราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาด มาฝากเพื่อนๆเกษตรกรครับ


สายพันธุ์สาเก ที่ปลูกในเมืองไทย แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลักๆ ดังนี้
1. พันธุ์ข้าวเหนียว  ลักษณะผลใหญ่  เนื้อแน่น  เมื่อเชื่อมเนื้อจะเหนียวหนึบ  ไม่ร่วนซุย  เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันทั่วไป
2. พันธุ์ข้าวจ้าว   ผลมักย่อมกว่าพันธุ์ข้าวเหนียว  เนื้อค่อนข้างหยาบ  ร่วนซุย  เหมาะแก่การทำแป้ง  ไม่ค่อยนิยมปลูกกันมากนัก  การขยายพันธุ์

วิธีขยายพันธุ์  ที่นิยมทำกันมาก คือ  การสกัดราก  ทำได้โดยเลือกรากที่โคนต้นที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  ½ - 2  นิ้ว  ใช้มีดหรือสิ่วตัดรากให้ขาดแล้วทิ้งไว้อย่างนั้น  รากนั้นจะแตกหน่อออกมาเป็นต้น อาจได้ต้นเดียวหรือหลายต้น  ถ้าแตกหน่อออกมาหลายต้นให้สกัดแยกออกเป็นต้นๆ  แล้วขุดออกมาปลูกชำในดินปลูกในที่ร่มรำไรสักพักหนึ่งก่อน  เมื่อเติบโตแข็งแรงดีแล้วจึงนำไปปลูกหรือจำหน่ายต่อไป


การเตรียมดินสำหรับปลูก  ต้นสาเก  นั้นให้ขุดหลุมที่มีขนาดกว้าง  ยาว  ลึก  อยู่ที่  50-100  ซม.  โดยถ้าดินมีความร่วนซุยและมีเศษใบไม้ใบหญ้ามาก  ก็ขุดหลุมให้เล็กลงได้  แต่ถ้าดินไม่ดีก็ต้องขุดให้กว้างเข้าไว้เพื่อที่จะได้ปรับปรุงดินในหลุมให้ดียิ่งขึ้นก่อนการปลูก และเมื่อขุดดินในหลุมขึ้นมาแล้วก็ให้ทำการตากดินไว้  10-15  วัน  แล้วนำปุ๋ยคอกรองก้นหลุม และนำไปผสมกับดินที่ขุดขึ้นมา  หลังจากนั้นใส่ลงในหลุมตามเดิมแล้วก็สามารถปลูกได้เลย  หรือจะทิ้งไว้ให้ดินยุบตัวดีก่อนแล้วค่อยปลูกก็ได้  ส่วนระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถวควรอยู่ที่  8×10  เมตร  หรือ  12×10  เมตร  ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูความเหมาะสมของพื้นที่เป็นสำคัญ
MulticollaC

สาเกเป็นพืชเขตร้อน จึงสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคในประเทศไทย  เติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด  แต่จะเจริญได้ดีในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์  หากเป็นดินชนิดอื่นที่ได้ปรับปรุงให้มีสภาพที่เหมาะสมแล้ว   ก็สามารถเจริญเติบโตได้รวดเร็วเช่นกัน แหล่งปลูกสาเกต้องมีปริมาณน้ำฝนต่อปีไม่น้อยกว่า  50  ซม.  เป็นพื้นที่ที่ไม่มีน้ำท่วมขัง  หรือชื้นแฉะ เป็นพืชที่ชอบแสงแดดจัดๆ  จึงไม่ควรปลูกใต้ต้นไม้อื่น  หรือในที่ร่ม


สาเกเป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากนัก  โรคแมลงไม่ค่อยรบกวน  ที่สำคัญคือ  การให้น้ำอย่างสม่ำเสมอในระยะแรก  จนต้นสาเกอายุได้  1  ปี  ไปแล้วก็จะปลอดภัย  แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้ต้นเติบโตอย่างสม่ำเสมอไม่แคระแกรนก็ควรรดน้ำให้ด้วยในช่วงฤดูแล้ง  หรือถ้าฝนไม่ตกนานๆ  ในฤดูแล้งควรจะรดน้ำอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง  และ  2  ครั้งในฤดูหนาว  โดยสังเกตความชุ่มชื้นของดินประกอบด้วย  เมื่อต้นสาเกโตขนาดให้ผลแล้ว  ในระยะเวลาที่สาเกออกดอกให้งดการให้น้ำระยะหนึ่ง  เมื่อดอกบานและติดผลแล้วจึงให้น้ำมากขึ้นเพื่อบำรุงผลให้เติบโตและมีคุณภาพดี

การให้ผลผลิตของสาเก
สาเกจะให้ผลหลังจากปลูกประมาณ  3-5  ปี  แล้วแต่ขนาดของต้นที่นำมาปลูกและการดูแลบำรุงต้น ถ้านำต้นใหญ่มาปลูกบำรุงรักษาดีก็สามารถให้ผลได้ในเวลา  3  ปี  โดยปกติสาเกจะตกผลปีละครั้ง  เริ่มออกดอกในราวเดือนธันวาคม  มกราคม  และผลจะแก่ราวเดือนเมษายน พฤษภาคม อายุผลแก่ประมาณ 6 เดือน แต่บางต้นก็ออกผลปีละ  2  ครั้ง  จึงมักเห็นผลสาเกอยู่บนต้นเสมอ สาเกเป็นไม้ผลที่ปลูกง่าย  ทนทาน

คุณค่าอาหารและสรรพคุณ
เนื้อสาเก  อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต  ให้พลังงานสูง  นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม  วิตามินเอ  และวิตามินบี  มีสรรพคุณป้องกันการเกิดโรคหัวใจ  ความจำเสื่อม และโรคกระดูกผุในผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน


ข้อมูลอ้างอิง  :  https://www.kasethotnews.com

โพสต์โดย : POK@