Social :



วิธีการปลูก และดูแล ผักขี้หูด

30 ม.ค. 62 11:01
วิธีการปลูก และดูแล ผักขี้หูด

วิธีการปลูก และดูแล ผักขี้หูด

วิธีการปลูก  และดูแล  ผักขี้หูด

ผักขี้หูด   จัดเป็นผักพื้นบ้านที่พบมากในภาคเหนือที่นิยมเก็บฝักอ่อนหรือยอดอ่อนมาประกอบอาหาร เนื่องจากผักสด ให้รสเผ็ด มีกลิ่นฉุน ใช้รับประทานคู่น้ำพริก เมื่อลวกหรือปรุงทำอาหารจะมีความกรอบ  และหวานมัน  กลิ่นฉุนไม่ค่อยมี

ถิ่นกำเนิด  และการแพร่กระจาย
ผักขี้หูดมีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอินเดีย  และต่อมาค่อยแพร่กระจายเข้ามาปลูกในพม่า  และประเทศไทย  โดยพบแพร่กระจายในพื้นที่สูง  พบมากในภาคเหนือ  ตามที่ลาดเชิงเขา  หรือพื้นที่โล่งในที่สูง


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
ผักขี้หูด  จัดเป็นพืชล้มลุกปีเดียว ลำต้นในระยะแรกจะเป็นข้อสั้นๆที่มีใบแตกออกด้านข้างแผ่ลงดิน ต่อมาลำต้นเติบโตสูงชะลูด  ประมาณ  30-120  เซนติเมตร ขนาดลำต้นเล็ก ด้านในลำต้นเป็นรูกลวง  ผิวลำต้นสีเขียวอ่อน ปลายลำต้นเจริญเป็นช่อดอก ส่วนรากประกอบด้วยรากแก้วที่ไม่พองออกเหมือนรากผักกาดหัว และแตกเป็นรากแขนงเรียวยาว รากผักขี้หูดไม่นิยมใช้รับประทาน แต่สามารถใช้ในแก่สมุนไพรได้

ใบ
ใบผักขี้หูด  ใบเป็นใบเดี่ยว  ออกเรียงสลับกันตามข้อของลำต้น  แผ่นใบเรียบ  มีสีเขียวอ่อน ส่วนขอบใบมีทั้งชนิดที่ขอบใบเรียบ และขอบใบเว้าเป็นแฉก  ใบในระยะแรกจะแตกออกเป็นกระจุกที่โคนต้น และเป็นใบขนาดใหญ่  แผ่นใบหนา  ขนาดใบกว้างประมาณ  4-8  เซนติเมตร  และยาวประมาณ  15-30  เซนติเมตร  ใบในระยะที่ต้นสูงชะลูดจะเรียวเล็กลง  แผ่นใบบาง  และสีใบจางลง ขนาดกว้าง  3-5  เซนติเมตร  ยาวประมาณ  10-20  เซนติเมตร

ดอก
ดอกผักขี้หูด  แทงออกเป็นช่อที่ปลายยอด  ช่อดอกมีลักษณะคล้ายกับช่อผักกาดทั่วไป  ช่อดอกหลักมีความยาวประมาณ  15-40  เซนติเมตร  และแตกแขนงเป็นช่อดอกย่อย  แต่ละช่อดอกย่อยประกอบด้วยดอกขนาดเล็ก  เรียงออกเป็นดอกเดี่ยวเยื้องสลับตามความยาวของก้านช่อ

ดอกตูมมีลักษณะเป็นกรวยที่หุ้มด้วยกลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน  เมื่อดอกบานกลีบเลี้ยงจะร่วงออก  และกลีบดอกจะแผ่บานออก  ตัวกลีบดอกมีทั้งหมด  4  กลีบ  แต่ละกลีบเป็นรูปพัด  โคนกลีบสอบแคบ ปลายกลีบใหญ่  และโค้งมน แผ่นกลีบดอกช่วงปลายมีสีม่วง โคนกลีบดอกมีสีขาวอมม่วง  แผ่นกลีบดอกมองเห็นเส้นกลีบชัดเจน ตรงกลางดอกเป็นเกสรตัวเมีย  และรังไข่  โดยผักขี้หูดจะเริ่มติดดอกอย่างต่อเนื่องหลังจากการปลูกแล้วประมาณ  1  เดือน

ผล
ผลผักขี้หูด  เรียกว่า  ฝัก  มีลักษณะทรงกระบอก มีลักษณะโค้งยาว และเป็นลูกคลื่นหรือเป็นตะปุ่มนูนตามระยะของเมล็ด  ปลายฝักแหลมเป็นติ่ง  เปลือกฝักค่อนข้างหนา  ฝักอ่อนมีสีเขียวเข้ม ฝักแก่มีสีเขียวอ่อน  แกนกลางฝักเป็นร่องสีเขียวทั้งสองข้าง  ฝักมีขนาด  0.5-0.8  เซนติเมตร  ยาวประมาณ  3-25  เซนติเมตร  และสามารถยาวได้มากกว่า  70  เซนติเมตร  ภายในฝักมีเมล็ดประมาณ 1-10 เมล็ด  หรือมากกว่า  ขึ้นอยู่กับความยาวของฝัก  เมื่อฝักแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และปริแตกออกเป็น  2  ซีกตามร่องฝัก ซึ่งสามารถเก็บเมล็ดแก่ได้ประมาณ  120  วัน  หลังการปลูก

Lif
เมล็ด
เมล็ดผักขี้หูด  มีลักษณะกลม  เปลือกเมล็ดค่อนข้างหนาเป็นสีน้ำตาลอมดำ  ขนาดประมาณ  3-5  มิลลิเมตร  ฝักจะติดอย่างต่อเนื่องหลังการปลูกแล้วประมาณ  1-2  เดือน


ผักขี้หูดเพาะ และปลูกด้วยการหว่านเมล็ดเท่านั้น  ซึ่งเกษตรกรนิยมหว่านในช่วงต้นฤดูฝนหรือก่อนการเก็บเกี่ยวข้าว

การเตรียมแปลง
เตรียมแปลงด้วยการไถพรวน และกำจัดวัชพืช  1  รอบ  และตากดินนาน  5-7  วัน  หลังจากนั้นหว่านด้วยปุ๋ยคอก  ประมาณ  1-2  ตัน/ไร่  และอาจหว่านปุ๋ยสูตร  15-15-15  ร่วมด้วย ประมาณ  20  กิโลกรัม/ไร่  ก่อนจะไถพรวนอีก  1  รอบ  และหว่านเมล็ด

การปลูกในช่วงต้นฤดูฝน  ไม่จำเป็นต้องให้น้ำ  แต่หากปลูกช่วงต้นฤดูหนาวที่ฝนไม่ตก  ควรให้น้ำเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ  1  ครั้ง  หรือให้  2  ครั้ง  เช้า-เย็น


การใส่ปุ๋ย
หลังจากต้นผักขี้หูดขึ้นแล้ว  1  อาทิตย์ ให้หว่านด้วยปุ๋ยสูตร  24-12-12  อัตรา  20  กิโลกรัม/ไร่  เพื่อเร่งใบให้สีเขียวสำหรับเก็บใบ  และยอดอ่อน ส่วนการเก็บฝักอ่อน  ให้หว่านปุ๋ยสูตร  6-6-12  หลังการปลูกประมาณ  20-25  วัน  เพื่อบำรุงดอก และฝักอ่อน

การเก็บผลผลิต
การเก็บใบหรือยอดอ่อน  สามารถเริ่มเก็บได้หลังการปลูกแล้วประมาณ  7-10  วัน  และจะเก็บได้นานประมาณ  5-7  วัน  ก่อนที่ลำต้นจะเติบโตชะลูดสูง  ซึ่งในระยะที่ต้นขึ้นสูง  ใบจะมีขนาดใบเล็ก  ใบแก่หยาบ  ไม่นิยมเก็บมารับประทาน

ส่วนดอก  และผลอ่อนจะพร้อมเก็บรับประทานได้  ตั้งแต่หลังการหว่านเมล็ด  1  เดือน  และเก็บได้ต่อเนื่องนาน  2  เดือน  และหลังจากนั้นในเดือนที่  4  ต้น  และฝักจะเริ่มแก่


ข้อมูลอ้างอิง  :  https://puechkaset.com

โพสต์โดย : POK@