ทษช.ปราศรัยใหญ่25ก.พ.ชัยนาท-ท้า”บิ๊กตู่”แข่งนโยบายเวทีพปชร.

ทษช. พร้อมจัดปราศรัยใหญ่ 25 ก.พ. นี้ ยันไม่พูดเรื่องคดียุบพรรค ยังอุบ กก.บห. ลงพื้นที่-ขึ้นเวที แซะพลังประชารัฐขอ "บิ๊กตู่" ช่วยหาเสียงชี้ที่ทำอยู่ก็เอาเปรียบมากแล้ว แนะขึ้นเวทีปราศรัยไปเลยประชาชนจะได้เห็นชัดเจน 

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคไทยรักษาชาติได้เตรียมความพร้อมในการลงพื้นที่พบปะประชาชนและจัดเวทีปราศรัยทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกจะจัดขึ้นที่จังหวัดชัยนาท ในวันที่ 25 ก.พ. นี้ โดยมีกำหนดการลงพื้นที่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้จนถึง 18 มี.ค. หลังจากนั้นจะเว้นว่างเพื่อจัดเวทีปราศัย และลงพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งกำหนดการหาเสียง อยู่บนหลักการของพรรค เมื่อพรรคส่งผู้สมัครแต่ละเขต จึงจะต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้สมัครแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ เหตุผลที่พรรคไทยรักษาชาติกลับมาวางแผนจัดเวทีปราศรัยอีกครั้งนั้น เพราะจากการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนแล้ว มีการสอบถามถึงนโยบายและการทำงานของพรรค เวทีปราศรัยจึงเป็นเวทีที่จำเป็น เพราะจะได้สื่อสารถึงแนวนโยบายกับประชาชน และพรรคจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับคดีในชั้นศาลที่จะมีการนัดพิจารณาในวันที่ 27 ก.พ. นี้ ซึ่งการจัดเวทีปราศัยจะไม่พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีความ และยังไม่มีกำหนดการของคณะกรรมการบริหารพรรคในการลงพื้นที่และขึ้นเวทีปราศรัย แม้ตามกฎหมายไม่ได้มีข้อห้ามแต่คดีความเป็นเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อน ทางคณะกรรมการบริหารพรรคจึงอยากปฏิบัติงานในส่วนการต่อสู้ทางคดีก่อน

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวถึง สถานการณ์ทางการเมือง อย่างเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐ เตรียมหารือกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาช่วยหาเสียงในนามพรรค รวมถึงการให้ขึ้นเวทีปราศัยในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อสร้างความสนใจ ว่าการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำมาจนถึงวันนี้ก็ได้เปรียบอยู่แล้ว ซึ่งตนเองจะไม่ท้า พล.อ.ประยุทธ์ ดีเบต เพราะเชื่อว่ามีข้ออ้างมากมาย แต่ขอเชิญชวนให้ขึ้นเวทีปราศรัยร่วมกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อให้ประชาชนได้เห็นชัดไม่ต้องใช้เวทีของรัฐบาลตระเวนลงพื้นที่ พบปะประชาชน เพราะนี่คือการต่อสู้ทางการเมืองในสนามเลือกตั้ง และควรสู้อย่างตรงไปตรงมา

พร้อมกันนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวถึง การพยายามจะผลักดันนโยบายข้าว ซึ่งเมื่อวานนี้พรรคพลังประชารัฐได้พูดบนเวทีปราศัยใหญ่ที่จังหวัดชัยนาท ว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกข้อกฎหมายที่เป็นปัญหา ส่วนตัวมองว่าวันนี้ผู้มีอำนาจควรตัดสินใจแก้ปัญหาโดนด่วน และขอเรียกร้อง ว่า พ.ร.บ.ข้าว ไม่ใช่เงื่อนไขทางการเมืองของพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น ควรถอนออกจากสภาก่อน สนช. จะพิจารณาในวันที่ 26 ก.พ. ส่วนหลังจากนี้หากมีรัฐบาลใหม่จะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีกหรือไม่เป็นเรื่องของรัฐบาลต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews