เผย! ถอดสูตรคิดสมการจับขั้วรัฐบาลผสม

เป็นที่รู้กันนานแล้ว ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ได้รัฐบาลผสม ที่ค่อนข้างอ่อนแอ เพราะมีนักวิชาการหลายคนเคยให้ความเห็นไว้ รวมถึง อดีต กรธ. ก็เคยพูดไว้ดังนั้นสมการจับขั้วกันหลังจากนี้จึงมีความน่าสนใจมากทีเดียว

จากภาพบรรยากาศการหาเสีย ง ในห้วงเวลานี้ ซึ่งเหลืออีก 30 วัน ก่อนจะถึงวันหย่อนบัตร ปรากฏชัดเป็น 4 ขั้ว ใหญ่ๆ คือกลุ่ม หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ, รวมพลังประชาชาติไทย, ประชาชนปฏิรูป, กลุ่มเพื่อไทยและพันธมิตร ที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ที่มี เพื่อชาติ, ประชาชาติ, เสรีรวมไทย, อนาคตใหม่ รวมถึง ไทยรักษาชาติ หากไม่ถูกยุบพรรคไปก่อน, กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกข้าง แต่พร้อมร่วมทุกฝ่าย อย่าง ภูมิใจไทย, ชาติไทยพัฒนา,ชาติพัฒนา และพรรคเล็กอื่นๆ ส่วนสุดท้ายคือ ประชาธิปไตย์ ที่ค่อนข้างโดดเดี่ยว ในศึกครั้งนี้

ใครจะมองว่ากลุ่มไหน ได้เปรียบ กลุ่มไหนมีโอกาสเป็นรัฐบาลมากกว่ากัน แต่ต้องไม่ลืมตัวแปรสำคัญของการโหวต คือ ส.ว. ที่ คสช. จะคัดสรรแต่ตั้งมา 250 คน นั่นเอง แม้พรรคการเมืองจะรวมเสียงกันไว้เกิน 250 ที่นั่ง แต่ก็ไม่อาจจะที่โหวตเลือกนายกฯได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว.แตกแถวมาบ้าง ทางเดียว ที่จะได้นายกฯ โดยไม่ง้อ ส.ว. ก็จะต้องรวมเสียงให้ได้

มากกว่า 376 นั่นเอง แต่โอกาสมันยากที่จะเกินขึ้น

ดังนั้น หากจะตั้งสมการ ว่า กลุ่มประชาธิปไตย โดยอิงจากฐานเสียงเก่า และอดีต ส.ส. ที่มี จะตั้งรัฐบาล เพื่อไทยเป็นแกนนำ จับมือ ประชาชาติ, เพื่อชาติ, เสรีรวมไทย และ ไทยรักษาชาติ คงไม่ยาก แต่เสียงก็คงยังใกล้เคียง สูสีกับ ส.ว. เท่านั้น จะนับรวมอนาคตใหม่ด้วยหรือไม่ ก็ยังมีข้อแม้ เพราะ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประกาศไว้ จะสนับสนุนนากยฯ ที่มาจากการเป็น

ส.ส. เท่านั้น ดังนั้น หาก เพื่อไทยเป็นแกนนำ ชู “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เป็นนายกฯ อนาคตใหม่ อาจไม่เข้าร่วม แต่ถ้าเป็น “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ” ก็ไม่แน่ เว้นแต่ไป จับมือภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ นั่นแหละ ยอดจะทะลุ 376 ได้ แต่โอกาสมีน้อยมากๆ

กลับกัน หากเป็น สมการฝั่ง พลังประชารัฐชนะ จะได้มากี่ที่นั่ง ยังไม่ต้องพูดถึง เอาแค่ ว่าชนะพอ แถมมี ส.ว. อีก 250 มีโอกาสตั้งนายกฯได้แน่ แถมยังมีประชาชนปฏิรูป และ รวมพลังประชาชาติไทยด้วย แม้จะไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาล่าง แต่เรื่องความมั่นคงของรัฐบาลผสม คงสร้างไม่ยากหากผลประโยชน์ลงตัว ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนา คงพร้อมาร่วมด้วยแน่นอน สูตรนี้ง่ายกว่าสูตรแรก ถ้าพลังประชารัฐชนะจริง แต่นั่นแหละคือความยาก จะให้ชนะเป็นอันดับ 1 ได้อย่างไร

สูตร ที่ 3 ก็น่าสนใจ คือพลังประชารัฐไม่ชนะ เพื่อไทยไม่ชนะ แต่ 2 พรรคนี้สู้กัน ตัดคะแนนกันเอง กลายเป็นประชาธิปัตย์ มาเป็นอันดับ 1 แถมเสียงเกิน 100 ตามที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” มั่นใจ สมการตั้งรัฐบาล ก็จะยิ่งง่ายเข้าไปอีก ประชาธิปัตย์ จับมือ ภูมิใจไทย ,ชาติพัฒนา และชาติไทยพัฒนา ก่อน รวมกันอาจจะถึง 200 แล้ว ค่อยไปดึงพลังประชารัฐมาร่วม บนพื้นฐานนายกฯต้องชื่อ “อภิสิทธิ์” พลังประชารัฐ ก็คงไม่มีทางเลือก ต้องมาทางนี้แน่ และ ส.ว. ก็คงต้องเทมาทางนี้เช่นกัน

สมการรัฐบาลหลังเลือกตั้ง คงไม่หนีไปจากนี้ แต่จะเข้าตำราไหนแค่นั้น คงต้องรอดูมติของประชาชน กันอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ เพื่อไทย จับมือ พลังประชารัฐ หรือ ประชาธิปัตย์ เป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่ประชาธิตย์ จับมือ พลังประชารัฐ นั้นเป็นได้ หากพรรคใดพรรคหนึ่งคือผู้ชนะ………..

ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews