"คู่มือการเลี้ยงดูพ่อแม่ ทำหน้าที่ลูกที่ดี"
ยามเรายังเป็นเด็ก ตีนเท่าฝาหอย พ่อแม่ เลี้ยงดู เรา ให้เร าเติบโต เป็น ลูก ที่ดีในวันนี้ ยามท่านแก่ตัวลง มันก็ถึงเวลาแล้วละค่ะ ที่ลูกๆอย่างเราจะต้องหันมาดูแล เอาอกเอาใจท่านบ้าง "คู่มือการเลี้ยงดูพ่อแม่ ทำหน้าที่ลูกที่ดี" ใครที่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ตามไปอ่านทำความเข้าใจกันดีกว่าค่ะ
1.ฟังให้มาก
ตั้งแต่เราเด็กๆ แม้เราจะยังพูดจาไม่เป็นภาษาคน แต่พ่อแม่ก็ยังพยายามฟังและคอยตอบทุกคำถาม โดยไม่แสดงท่าทีรำคาญ พ่อแม่ในวันนี้ก็ต้องการให้คุณทำแบบนั้นเช่นเดียวกัน แม้ท่านจะเล่าแต่เรื่องอดีตวนเวียนไปมา หรือคอยบอกเล่าเรื่องราวที่คุณเห็นว่าไม่ได้เกี่ยวกับตัวคุณสักนิด แต่จงฟัง แค่ตั้งใจฟังท่านเท่านั้น แค่นี้ก็ทำให้ท่านรู้สึกว่า ท่านไม่ได้เป็นคนแก่ที่น่ารำคาญสำหรับคุณแล้ว
2.กอดบ่อยๆ
คำพูดหนึ่งที่พ่อแม่มักพูดกันเมื่อลูกยังเป็นเด็ก คือ ให้รีบกอดลูกเสียตั้งแต่ตอนนั้น เพราะเมื่อโตขึ้นแล้ว อาจจะไม่ได้มีโอกาสกอดลูกอีก นั่นเป็นเพราะเมื่อโตขึ้น คนส่วนใหญ่รู้สึกเขินอายที่จะแสดงความรักกับพ่อแม่ ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่ท่านต้องการมากที่สุด และเป็นสิ่งที่ลูกทำได้ง่ายที่สุด โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท นอกจากนี้ยังช่วยเยียวยาความเจ็บไข้ได้ป่วยทางใจให้พ่อแม่ได้เป็นอย่างดี เชื่อเถอะว่า ไม่ว่าคุณจะเติบโตไปมากเท่าไหร่ พ่อแม่ก็ยังต้องการอ้อมกอดจากลูกเสมอ
3.เข้าใจธรรมชาติของพ่อแม่
เป็นความจริงที่ว่า ยิ่งพ่อแม่แก่มากขึ้นเท่าไหร่ ท่านก็จะยิ่งทำตัวเป็นเด็กมากเท่านั้น บางครั้งท่านจึงดูเหมือนคนเอาแต่ใจ พูดไม่ฟัง หรือขี้น้อยใจอยู่บ้าง แต่นั่นคือธรรมชาติของพ่อแม่ ก็เหมือนกับตอนคุณเป็นวัยรุ่นที่มักจะทำตัวติดเพื่อน เรียกร้องความสนใจ หรือแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ แต่พ่อแม่ ก็ยังพยายาม ทำความเข้าใจ แล ะปรับตัว เข้าหาคุณ ตอนนี้ถึงตาคุณที่ต้อง พยายาม ทำความเข้าใจท่านบ้างแล้วคุณแค่ต้องควบคุมอารมณ์หงุดหงิด โมโห พยายามตั้งสติเมื่อเห็นท่านทำอะไรที่ไม่ถูกใจคุณ จำไว้ว่า อย่าเผลอใช้คำพูดทิ่มแทงหัวใจพ่อแม่อย่างเด็ดขาด
4.ขออโหสิกรรมเมื่อทำผิด
เมื่อไหร่ที่เราทำไม่ดีกับพ่อแม่ ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ก็ตาม จิตใจของเราย่อมจะขุ่นมัว
เศร้าหมอง ไม่สบายใจ คิดวกวนแต่เรื่องนั้นอยู่ในหัว ส่งผลให้การงานที่ทำด้อยประสิทธิภาพตามลงไป หากคุณพลั้งเผลอทำไม่ดีกับท่านแล้วรู้สึกเช่นนี้ ลองขอขมาคุณพ่อคุณแม่ โดยบอกกับท่านว่า “สิ่งใดที่พลั้งพลาดทำไม่ดีกับพ่อแม่ ทั้งทางกาย วาจา ใจ ลูกขอ
อโหสิกรรม ” เมื่อท่านยกโทษให้ ความรู้สึกภายในใจของคุณก็จะโล่ง เบา ผ่องใส และเบิกบานขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
5.สร้างวันพิเศษ
ในขณะที่คุณออกไปทำงาน พบปะเพื่อนฝูง เจอคนมากหน้าหลายตาทั้งวัน พ่อแม่ที่อยู่บ้าน ได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่คุณจะกลับ วนเวียนแบบนี้ซ้ำๆ เป็นกิจวัตรทุกวัน ลองถามตัวเองว่า หากคุณต้องอยู่กับบ้านเฉยๆ และคอยเวลาลูกกลับอย่างนี้จะรู้สึกอย่างไร ดังนั้น เพื่อช่วยให้ท่านไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและเบื่อหน่ายกับชีวิตซ้ำๆ เช่นนี้จนเกินไป ลองกำหนดวันพิเศษขึ้นมาอย่างน้อยสักหนึ่งวันในสัปดาห์ พาท่านไปกินของอร่อย หรือไปในที่ที่ท่านชอบและรู้สึกผ่อนคลาย เช่น วัด ทะเล น้ำตก หรือถ้าไม่มีเวลา ลองช่วยกันทำอาหาร หรือปลูกต้นไม้ในบ้าน เท่านี้ก็ช่วยเติมเต็มวันดีๆ ให้กับท่านได้ง่ายๆ แล้ว
6.อย่ายัดเยียดความสุข
ไม่ผิดเลยที่ลูกจะอยากให้พ่อแม่มีความสุข ได้กินอะไรดีๆ ได้อยู่ในที่ดีๆ และได้มีชีวิตดีๆ แต่คุณต้องไม่ลืมถามท่านก่อนทุกครั้ง ว่าท่านอยากจะมีชีวิตแบบที่คุณกำลังวาดไว้หรือไม่ เพราะบางครั้งพ่อแม่อาจไม่ได้มีความสุขกับชีวิตแบบนั้นก็ได้ เช่น คุณอยากให้พ่อแม่อยู่ในบ้านหลังใหญ่ ได้ไปเที่ยวเมืองนอก กินอาหารในภัตตาคารหรู แต่ความจริงแล้ว ท่านอาจจะไม่ชอบใช้ชีวิตแบบนั้น เพราะรู้สึกทำตัวไม่ถูกและไม่เป็นตัวเอง ท่านอาจจะแค่อยากใช้ชีวิตเรียบๆ ในบ้านเล็กๆ ที่อบอุ่น ได้กินอาหารที่ลูกแสดงฝีมือเที่ยวน้ำตก ชมดอกไม้ ถ่ายรูปภูเขาในจังหวัดใกล้ๆ โดยมีลูกหลานอยู่กันพร้อมหน้า
ข้อมูล : goodlifeupdate
โพสต์โดย : FILM1205