Social :



ชี้ไม่มีสาระ! นายกฯบอกยังไม่จำเป็นดีเบตไม่กลัวชี้ไม่มีสาระ

27 ก.พ. 62 06:02
ชี้ไม่มีสาระ! นายกฯบอกยังไม่จำเป็นดีเบตไม่กลัวชี้ไม่มีสาระ

ชี้ไม่มีสาระ! นายกฯบอกยังไม่จำเป็นดีเบตไม่กลัวชี้ไม่มีสาระ

นายกรัฐมนตรี บอกยังไม่จำเป็นดีเบต ไม่ได้กลัว ชี้ไม่มีสาระ เน้นแต่โจมตีกัน เสียเวลา ที่ต้องไปประดิษฐ์ประดอยคำพูด ย้ำวิสัยทัศน์ มีแล้ว มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง






พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวหนังสือ “ประชารัฐ สร้างชาติ” ว่า ส่วนตัวได้เห็นหนังสือดังกล่าวแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริงของตนเอง แต่ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแจกส.ส.และสมาชิกพรรคเท่านั้น เนื่องจากพรรคเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อพรรค ส่วนได้มีการเตรียมตัวหรือไม่หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พิจารณาว่าสามารถขึ้นเวทีดีเบตได้นั้น ส่วนตัวเตรียมตัวมานานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นในการดีเบต ไม่ใช่กลัวหรือไม่กลัว แต่ต้องดูว่าเวทีดีเบตเป็นอย่างไร เพราะเป็นการโจมตีกันส่วนใหญ่ ไม่เคยมีสาระ จึงขอไปดูการดีเบตในต่างประเทศว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นส่วนตัวคงไม่ไป ไม่ว่าใครจะมากระตุ้นอะไรก็ไม่โกรธและไม่กลัว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญวันนี้กำลังทำงาน จึงเป็นการเสียเวลา ที่ต้องไปประดิษฐ์ประดอยคำพูดต่างๆ เพราะแค่ทำงานในระบบก็แย่พออยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งต่างๆ เป็นข้อเท็จจริง หากต้องการทราบวิสัยทัศน์ของตนเองในฐานะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหากได้เป็น ซึ่งมีวิสัยทัศน์อยู่แล้ว คือ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ภายใต้หลักปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ขณะที่นโยบายทั้ง 11 ด้านของรัฐบาล รวมถึงวาระแห่งชาติต่างๆ ก็ได้แก้ไขปัญหาไปหมดแล้ว ส่วนตัวได้แสดงฝีมือให้เห็นแล้ว แต่หากถามว่าในอนาคตหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อจะทำอะไรต่อนั้น ที่ผ่านมาได้จัดทำยุทธศาสตร์ แผนแม่บท และกฎหมายการเงินการคลัง รวมถึงกฎหมายต่างๆ ออกมาแล้ว และทุกอย่างไม่ได้แก้ที่ปลายทาง จะต้องแก้ที่ต้นทางด้วย



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ถอนร่าง พ.ร.บ.ข้าว ออกจากการพิจารณาและให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ว่า หลายคนมองว่ากฎหมายดังกล่าวมีความจำเป็นเพราะเป็นเพิ่มศักยภาพให้กับอาชีพชาวนา แต่มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่สามารถไปก้าวล่วงเพราะเป็นร่างกฎหมายที่เสนอโดย สนช. แต่วันนี้ได้รับรายงานว่า สนช. ขอชะลอร่างดังกล่าวออกไปก่อนเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม เพราะสนช.ไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวไปแพร่กระจาย ใช้โอกาสตรงนี้ไปบิดเบือน ซึ่งตนเป็นห่วงพี่น้องเกษตรที่ไม่เข้าใจ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง กรณี ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าพ.ร.บ.โรงงานที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะส่งผลกระทบในวงกว้าง เพราะลดทอนมาตรการตรวจสอบโรงงาน
Lif
และจะซ้ำเติมปัญหาเดิมที่มีอยู่ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจง ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะไม่อยากให้ฝ่ายใดเดือดร้อน ซึ่งทุกคนไม่ต้องการกฎระเบียบใหม่ แต่ก็ยังมีปัญหาร้องเรียน ดังนั้นจึงต้องอยู่ข้อกฎหมายว่าเป็นอย่างไรกฎหมายทุกฉบับมีทางออกเพื่อให้ทุกคนได้มีการปรับเปลี่ยน เพราะหากเดือดร้อนกันทั้งหมดก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการดูแล เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเป็นแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ






ส่วนมีเสียงเรียกร้องจากภาคประชาชนขอให้เปิดเผยรายชื่อ และเหตุผลของ 142 สนช.ที่โหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.โรงงาน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการลงมติครั้งนี้ ว่า เป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะขณะนี้กฎหมายออกมาแล้ว ที่ผ่านมาผู้ยกร่างก็ยืนยันว่าผ่านการรับฟังความเห็นแล้ว จะมาให้เปิดเผยรายชื่อแบบนี้ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ ในฐานะหัวหน้า คสช. ขอให้ทุกคนพิจารณาทางออกอย่างรอบคอบ รับฟังเสียงส่วนน้อยแต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามเสียงใหญ่ และแก้ไขปัญหาให้กับเสียงส่วนน้อยด้วย ซึ่งหากตามใจหมดกฎหมายจะออกมาไม่ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นบุกทำร้ายผู้อำนวยการเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัย รวมถึงครูและนักเรียนโรงเรียนวัดสิงห์ที่อยู่ระหว่างการสอบ PAT 5 ว่า ได้มีการจับกุม ลงโทษและดำเนินคดีแล้วทั้งหมด ซึ่งตนเองได้สั่งการให้ใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ในเคสแบบนี้ไม่ว่าจะตีกันหรือใช้อาวุธในโรงพยาบาล บนถนนหรือคล้ายกับลักษณะดังกล่าวที่สร้างผลกระทบกับสังคมก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ต้องสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายทุกประการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงไปแก้ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องของการดื่มสุราในวัด ค่านิยมการบวช การเปิดเครื่องเสียงในงานบวช ตนเองเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่ทุกอย่างต้องไม่เกินเลยซึ่งกันและกัน เพราะเด็กจะสอบ ก็ต้องดูว่ารบกวนหรือไม่ จึงต้องมีจิตสำนึก ส่วนใหญ่เราขาดจิตสำนึกกันสังคมก็เลยวุ่นวายกันไปหมด

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสเรียกร้องจากหลายพรรคการเมือง ว่าหลังการเลือกตั้ง หากพรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับ 1 รวมเสียงในสภาได้เกินกว่า 251 ที่นั่ง ควรได้โอกาสเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก่อน และสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. 250 คน ไม่ควรโหวตสวน ว่า ขอให้ไปดูกฎหมายและรัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น โดยเฉพาะหลักการสำคัญ ขณะเดียวกันส่วนตัวได้พูดไปหลายครั้งแล้วว่า ไม่ว่าจะเรื่องส.ว.หรืออะไรต่างๆ ก็ตาม ได้ผ่านการทำประชามติของประชาชนมาแล้ว รวมถึงผ่านคำถามพ่วงก็ตอบมาหมดแล้ว ซึ่งทั้งหมดคือประชาธิปไตยไม่สามารถบังคับให้คนเห็นชอบทั้งหมดได้ หากใครทำได้ก็ขอให้มาบอกตนเอง

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว. 194 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว แต่ย้อนถามว่า แล้วทำไมละ



ขอขอบคุณเจ้าของมูล: innnews.

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด