Social :



เทคนิคการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในบ่อดิน ,บ่อคอนกรีต และบ่อพักน้ำ

09 มี.ค. 62 12:03
เทคนิคการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในบ่อดิน ,บ่อคอนกรีต และบ่อพักน้ำ

เทคนิคการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในบ่อดิน ,บ่อคอนกรีต และบ่อพักน้ำ

เทคนิคการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น
ในบ่อดิน ,บ่อคอนกรีต และบ่อพักน้ำ

กรมประมงได้มีการริเริ่มเลี้ยงสาหร่ายชนิดนี้มาตั้งแต่ปี  พ.ศ.  2536  โดย สถานีวิจัยประมง  ชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี   ในขณะนั้นรับพันธุ์ สาหร่ายพวงองุ่น   จากอาจารย์กาญจนภาชน์  ลิ่วมโนมนต์  คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  มาเพื่อปรับสภาพน้ำด้วยวิธีทางชีวภาพ  เพื่อใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงสัตว์น้ำ

ต่อมาในปี  พ.ศ.  2557  ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งเพชรบุรี  ได้รับมอบหมายให้พัฒนาเทคนิคการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นเพื่อการขยายผลเชิงพาณิชย์  ศูนย์ฯ  จึงได้นำองค์ความรู้ที่สั่งสมมามากกว่า  10  ปี  พัฒนารูปแบบการผลิตสาหร่ายพวงองุ่นแบบครบวงจร

จนในปัจจุบันสามารถเลี้ยงให้มีปริมาณมาก  และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้สม่ำเสมอ คุณภาพดี สะอาด พร้อมที่จะขยายผลเชิงพาณิชย์สู่เกษตรกร  และผู้ประกอบการ  เพื่อนำไปเพาะเลี้ยง สร้างอาชีพ  และสร้างรายได้ ที่มั่นคงต่อไป


การเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในปัจจุบันเป็นการเลี้ยงในบ่อเพาะเลี้ยง  โดยสามารถเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นได้  3  รูปแบบ  ได้แก่
1.ระบบการเลี้ยงในบ่อดิน
2.ระบบการเลี้ยงในบ่อคอนกรีต
3.ระบบการเลี้ยงในบ่อพักน้ำแบบธรรมชาติ

โดยสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เป็นระยะๆ  ประมาณเดือนละ  1-2  ครั้ง  ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโต  ทั้งนี้สาหร่ายที่เลี้ยงหากมีความหนาแน่นมากเกินไป  อาจเกิดการบังแสงกัน ส่งผลต่อการสังเคราะห์แสง  อีกทั้งปริมาณสารอาหารในน้ำไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของสาหร่าย  ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่นต่ำลงได้


1.การปลูกสาหร่าย ปลูกได้ทั้งแบบหว่าน และแบบปักชำ  โดยในช่วงเริ่มต้นปลูกครั้งแรก  เติมน้ำความเค็ม  27-30  ส่วนในพัน  ประมาณ  40  เซนติเมตร  เมื่อปลูกแล้วประมาณ  1  สัปดาห์  จึงค่อยเพิ่มระดับน้ำให้อยู่ในระดับที่แสงส่องถึง  ขึ้นกับความโปร่งแสงของน้ำ

โดยส่วนมากรักษาระดับน้ำให้มีความลึกประมาณ  60-100  ซม.  แบบปักชำมีข้อดีกว่าแบบหว่าน  เนื่องจากสาหร่ายจะมีอัตราความหนาแน่นที่ใกล้เคียงกัน  และควบคุมความหนาแน่นได้  ทำให้สาหร่ายที่โตมีแขนงที่ยาว  และมีขนาดสม่ำเสมอ นอกจากนี้สามารถปลูกสาหร่ายบนแผงอวนหรือตาข่ายได้  ทำให้สาหร่ายมีความสะอาด  และมีคุณลักษณะดี

2.หลังจากการปลูกประมาณ  1-2  เดือน  จะสามารถเก็บเกี่ยวสาหร่ายได้  และความถี่ในการเก็บเกี่ยว  2  สัปดาห์ต่อครั้ง

3.การจัดการระบบน้ำ  ควรมีการสูบน้ำเข้าบ่อเลี้ยงประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์  หรือดัดแปลงบ่อด้วยการติดตั้งท่อน้ำเข้า-ออก  แบบมีลิ้นปิด-เปิดตามระดับน้ำธรรมชาติ  นอกจากนี้ความถี่ในการสูบน้ำเข้ายังขึ้นกับอายุการเลี้ยง  และความหนาแน่นของสาหร่าย เพื่อเพิ่มสารอาหารธรรมชาติ  การหมุนเวียนน้ำ และการรักษาระดับน้ำในบ่อเลี้ยง
MulticollaC

4.อาจติดตั้งเครื่องตีน้ำรอบช้าหรือระบบยกน้ำ  เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนน้ำ  และป้องกันการแบ่งชั้นของน้ำ  และติดตั้งท่อระบายน้ำผิวบนออกในฤดูฝน

5.เพื่อป้องกันการบังแสงและแก่งแย่งสารอาหาร  ควรสุ่มตรวจความหนาแน่นของสาหร่าย โดยอัตราความหนาแน่นที่เหมาะสมประมาณ  1  กิโลกรัมต่อตารางเมตร  ทยอยเก็บเกี่ยวทุก  2  สัปดาห์ และคงปริมาณไว้ประมาณ  25%  ของปริมาณตั้งต้น  หากสาหร่ายแน่นเกินไป  ให้นำไปหว่านบริเวณอื่น

6.การกำจัดและป้องกันศัตรูของสาหร่าย  หมั่นเก็บสาหร่ายชนิดอื่น  หรือ  epiphyte  ที่เกิดขึ้นในบ่อเมื่อน้ำตื้นเกินไป  ดังนั้นการรักษาระดับน้ำเพื่อให้แสงส่องถึงในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ


การเก็บสาหร่ายพวงองุ่น   ทั้งในบ่อดินและบ่อคอนกรีต
ในระบบการเลี้ยงในบ่อดิน และปลูกบนแผงตาข่าย ขนาด  0.1  ตร.ม.  มีปริมาณสาหร่ายเริ่มต้น  2.5  กิโลกรัม สามารถเลี้ยงให้มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น  45%  ของน้ำหนักตั้งต้น  หรือ  1.25  กิโลกรัมต่อแผงต่อ  2  สัปดาห์ เทียบเท่าผลผลิต  12.5  กิโลกรัมต่อตารางเมตรต่อ  2  สัปดาห์

โดยน้ำเลี้ยงควรมีสารอาหารและคุณสมบัติ  ดังนี้  แอมโมเนียรวมไม่น้อยกว่า  0.05  ppm. pH  ช่วงกว้าง  8-9,  แอลคาไลนิตี้  120-140  มิลลิกรัมต่อลิตร  ความเค็ม  27-33  ส่วนในพัน  อุณหภูมิประมาณ  25-30  องศาเซลเซียส

ในระบบการเลี้ยงในบ่อคอนกรีต  และปลูกบนแผงตาข่ายขนาด  0.1  ตร.ม.  มีปริมาณสาหร่ายเริ่มต้น  2.5  กิโลกรัม มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น  30%  ของน้ำหนักตั้งต้น หรือ  750  กรัมต่อแผงต่อ  2  สัปดาห์  เทียบเท่า  7.5  กิโลกรัมต่อตารางเมตรต่อ  2  สัปดาห์

ผลผลิตในบ่อคอนกรีตน้อยกว่าบ่อดิน  เนื่องจากมีข้อจำกัดของสารอาหาร  โดยปริมาณแอมโมเนียไม่ควร  0.05  ppm.  และควรมีการเติมน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง  ส่วนคุณภาพน้ำอื่นๆ  เช่นเดียวกับในบ่อคอนกรีต



ข้อมูลอ้างอิง  :  https://www.palangkaset.com/

โพสต์โดย : POK@