เตือนภัยร้านค้า! ระวังกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นตัวแทนบริษัทค้าส่ง ตุ๋นขายสินค้า

เตือนภัยร้านค้า / เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอมรรัตน์ วรฉัตร อายุ 41 ปี เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี โพสต์เฟซบุ๊กเตือนเจ้าของร้านค้าด้วยกัน

ระวังกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นตัวแทนบริษัทค้าส่ง หลอกขายสินค้าส่งในราคาถูก สุดท้ายลงสินค้าให้ไม่ครบ แถมเชิดเงินหนี เจ้าของร้านที่ตกเป็นเหยื่อนำภาพวงจรปิดพร้อมใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความ พบมีผู้ตกเป็นเหยื่อมาแล้วจำนวนมากในหลายพื้นที่

โดยภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ของร้านค้าในพื้นที่บ้านบ่อระแหง ตำบลพังตรุ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี สามารถบันทึกภาพของชายรูปร่างอ้วน อายุประมาณ 30-35 ปี กำลังพูดคุยกับเจ้าของร้านค้า ก่อนจะทำทีเป็นยกลังสินค้าเข้าไปวางภายในร้าน

ซึ่งชายคนดังกล่าว เป็นหนึ่งในกลุ่มมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างเป็นตัวแทนของบริษัทค้าส่งขนาดใหญ่ นำสินค้าหลากหลายชนิดมาจำหน่ายให้กับร้านค้าในชุมชน ในราคาที่ถูกกว่าร้านค้าส่งทั่วไป ก่อนที่สุดท้าย เมื่อเจ้าของร้านหลงเชื่อ ซื้อสินค้ากับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ก็จะถูกหลอก ได้สินค้าไม่ครบ แถมกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ยังเชิดเงินหลบหนีลอยนวล

นางอมรรัตน์ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ทำงานกันเป็นทีม โดยขับรถกระบะสีบรอนซ์เทา ติดหลังคา เข้ามาเสนอขายสินค้าให้กับร้านของตน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.00 นาฬิกา ของวันที่ 12 มีนาคม โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนของบริษัทค้าส่งขนาดใหญ่ ที่มาเปิดตลาดใหม่ในพื้นที่ พร้อมเสนอขายสินค้าหลากหลายชนิดให้กับทางร้านในราคาที่ถูกกว่าร้านค้าส่งทั่วไป

แถมยังอ้างว่าจะนำเอาชั้นวางของและอุปกรณ์ตกแต่งร้านเข้ามาช่วยตกแต่งร้าน เพื่อให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในชุมชน ทำให้ตนหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้าไปในราคา 18,513 บาท ซึ่งในการสั่งซื้อ กลุ่มมิจฉาชีพก็มีการพิมพ์ใบสั่งซื้อ ใบรับสินค้าต่างๆเหมือนกับร้านค้าส่งขนาดใหญ่จริง

โดยจะมีหัวหน้าทีมเป็นชายคนที่อยู่ในคลิป คอยพูดคุยหลอกล่อกับเจ้าของร้าน ส่วนเพื่อนร่วมขบวนการอีกสองคน จะรีบขนของเข้ามาภายในร้าน โดยไม่ให้เจ้าของร้านตรวจเช็กสินค้า จากนั้น จะรีบกลับไปรอที่รถ ปล่อยให้หัวหน้าทีมพูดคุยกับเจ้าของร้านและเรียกเก็บเงิน พร้อมออกใบเสร็จรับเงินให้

เมื่อได้เงินครบ หัวหน้าทีมจะรีบเดินกลับไปขึ้นรถและขับรถออกไปทันที เมื่อเจ้าของร้านมาตรวจเช็กสินค้า ก็พบว่าได้รับของมาไม่ครบตามที่กลุ่มมิจฉาชีพอ้าง โดยสินค้าที่ได้รับมามีมูลค่าประมาณ 4,000 บาทเท่านั้น เมื่อรู้ว่าได้สินค้าไม่ครบ ก็พยายามโทรติดต่อตามเบอร์โทรศัพท์ที่กลุ่มมิจฉาชีพให้ไว้ แต่ก็ไม่มีคนรับสาย จึงรู้ตัวว่าโดนหลอกแน่นอน

สุดท้าย จึงตัดสินใจรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดและใบเสร็จรับเงิน ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพนมทวน ซึ่งพบว่า มีผู้เสียหายที่เคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน จากหลายพื้นที่ โดยแต่ละรายถูกหลอกจนสูญเงินไปหลายหมื่นบาท

ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย3คน ใกล้เคียงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ จึงตัดสินใจนำเอาภาพของหนึ่งในคนร้ายโพสลงในเฟซบุ๊ก เพื่อแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนที่ตนเองโดน

พร้อมกันนี้ ยังได้ฝากถึงกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ตามชุมชนต่างๆ ว่าอย่าได้หลงเชื่อกลุ่มคนที่เข้ามาเสนอขายสินค้าให้ในราคาที่ถูกเป็นพิเศษ แม้กลุ่มคนดังกล่าวจะดูน่าเชื่อถือ และหากตกลงซื้อสินค้ากับกลุ่มคนแปลกหน้า ก็ควรรีบตรวจเช็กสินค้าก่อนจะจ่ายเงิน เพราะหากจ่ายเงินไปโดยไม่ตรวจเช็กสินค้าก็อาจจะถูกหลอกเหมือนที่ตนเองโดน

อ่านข่าวต้นฉบับ