เทคนิคการดูแลสวนยางพารา ในช่วงหน้าแล้ง
เทคนิคการดูแลสวนยางพารา ในช่วงหน้าแล้ง
ใน
ช่วงหน้าแล้ง ของทุกปี มักประสบปัญหาไฟไหม้สวนยาง และ
ต้นยาง ชะงักการเจริญเติบโต โดยเฉพาะสวนที่ปลูกใหม่ในภาคอีสาน ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะลดน้อยลง และสามารถป้องกันได้ถ้าเจ้าของสวนยางมีการจัดการดูแลที่เหมาะสมอย่าสม่ำเสมอ
สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร จึงได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ
การจัดการดูแลสวนยางในช่วงฤดูแล้ง ไว้เป็นแนวทางให้เกษตรกรนำไปปรับใช้เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากสภาวะแล้งไว้ ดังนี้
การคลุมโคน ต้นยางพารา : การคลุมโคนต้นยางพาราเป็นวิธีการที่จะเป็นต้องปฏิบัติต่อต้นยางอ่อนอายุ 1-3 ปีก่อนเข้าฤดูแล้ง ซึ่งมีประโยชน์ต่อการปลูกสร้างสวนยางของเกษตรกร คือ
1. ช่วยเก็บรักษาความชื้นในดิน
2. ทำให้ต้นยางรอดตายสูงกว่าการไม่คลุมโคน
3. ช่วยให้ต้นยางเจริญเติบโตดีขึ้น
4. วัสดุที่ใช้คลุมโคนจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
วัสดุที่เลือกใช้คลุมโคนต้นยาง ควรเป็นวัสดุที่หาง่ายในท้องงถิ่นและมีปริมาณมาก ต้นทุนต่ำ และมีประสิทธิภาพดี เช่น เศษซากวัชพืช ซากพคลุม หญ้าคา ฟางข้าว เป็นต้น
ควรคลุมโคนก่อนเข้าหน้าแล้วประมาณ 1 เดือน ในขณะที่ดินยังมีความชื้นอยู่ สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
1. คลุมบริเวณโคนต้นยาง ให้เป็นวงกลม ห่างจากต้นยาง 5-10 ซม. หรือประมาณ 1 ฝ่ามือ มีรัศศมีคลุมพื้นที่รอบโคนต้นประมาณ 1
เมตร หนา 10 ซม.
2. คลุมตลอดแถวยาง วิธีนี้เหมาะสำหรับสวนที่หาวัสดุคลุมดินได้ง่าย มีปปริมาณมากและมีแรงงานเพียงพอ ควรคลุมให้ตลอดแถวยางจากโคนคลุมพื้นที่ออกไปข้างละ 1 เมตร หนา 10 ซม.
** ข้อควรระวัง ** การคลุมดคนต้นยางในหน้าแล้ง วัสดุอาจติดไฟได้ง่าย ควรระวังเหตุที่จะเกิดไฟไหม้ด้วย
การป้องกันการไหม้จากแสงแดด :
ต้นยางที่ปลูกในเขตแห้งแล้งมักจะปรากฎรอยไหม้จาแสงแดด ซึ่งเกิดจากการที่เนื้อเยื่อส่วนนั้นได้รับแสงแดดเป็นเวลานานติดต่อกันจนเสียหาย ไม่สามรถภเจริญเติบโตต่อไปได้ จึงเกิดเป็นรอยแผลขนาดต่รางๆ ดังนั้นต้นยางอ่อนอายุ 1-2 ปี เมื่อเข้าหน้าแล้ง ควรใช้ปูนขาวละลายน้ำทาบริเวณโคนสูงจากพื้นดิน 1 เมตร เพื่อป้องกันความรุนแรงของแสงแดด
สำหรับรอยแผลที่เกิดขึ้นให้แก้ไขโดมใช้สีน้ำมันทาปิดทับในขณะที่สำรวจพบทันทีและทาปิดทับอีกครั้งก่อนจะเข้าฤดูแล้งในปีถัดไป
โพสต์โดย : POK@