ไม่ขอยุ่ง! นายกฯปัดตอบรบ.แห่งชาติปท.ถึงทางตัน

นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบรัฐบาล แห่งชาติประเทศถึงทางตัน บอกความขัดแย้งขึ้นอยู่กับจิตสำนึก ปัดละเมิดสิทธิตรวจ DNA คัดเลือกเกณฑ์ทหารชายแดนใต้ ยันเก็บไว้เป็นข้อมูลความมั่นคง

นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบรัฐบาลแห่งชาติประเทศถึงทางตัน บอกความขัดแย้งขึ้นอยู่กับจิตสำนึก ปัดละเมิดสิทธิตรวจ DNA คัดเลือกเกณฑ์ทหารชายแดนใต้ ยันเก็บไว้เป็นข้อมูลความมั่นคง-ไม่พอใจยอดตายสงกรานต์ยังสูง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ มองว่าประเทศถึงทางตันจริงแล้วหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า ไม่มีความเห็น

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวช่วงหนึ่งด้วยว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่จิตสำนึกในเรื่องความขัดแย้งก็เช่นเดียวกันอยู่ที่จิตสำนึก ว่า ทุกคนต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร มีความสงบปลอดภัย และมีสันติหรือไม่

นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรมออกแถลงการณ์คัดค้านการเก็บดีเอ็นเอของทหารเกณฑ์ของทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อให้เคารพสิทธิในเนื้อตัวและร่างกาย ว่า รัฐบาลเคารพสิทธิต่างๆ ของทุกคนและถือเป็นครั้งแรกในการตรวจดีเอ็นเอในการคัดเลือการกเกณฑ์ทหาร ถือเป็นปีแห่งการนำร่องโดยได้เริ่มในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อน เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องความมั่นคงอยู่

ส่วนจะมีการขยายไปในพื้นที่ต่างๆ นั้น ก็ไม่ได้มีการบังคับเพียงแต่ได้แจ้งให้กับผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารทุกคนรับทราบก่อนทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสมัครใจและการยินยอมของแต่ละคนก็ให้ความร่วมมือดี เข้าใจในเหตุผล ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ ส่วนเหตุผลของการที่มีการเก็บดีเอ็นเอไว้ เพื่อเป็นฐานข้อมูลของความมั่นคง เพราะเข้ารับราชการทหารเพียงแค่ 2 ปี เท่านั้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมอุบัติเหตุและการเดินทางไป-กลับของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ว่า ส่วนตัวยังไม่พึงพอใจ ตราบใดที่ยังมีการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิต แน่นอนว่าไม่มีใครพอใจอยู่แล้ว เพราะทุกคนคือกำลังสำคัญของประเทศเรา และก็เป็นที่น่าเสียใจที่มีการสูญเสียชีวิต ถึงแม้ว่า จะลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมาไม่มากนักก็ตาม แต่รัฐบาลได้พยายามทำทุกมาตรการแล้ว

ส่วนที่มีข้อเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการทางกฎหมายนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ พร้อมขอให้ทุกคนสนใจกฎหมายปกติให้มากขึ้นก่อน ทั้งการสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัย เมาไม่ขับ เพราะเห็นอยู่แล้ว ว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการเมาแล้วขับ ไม่ว่าจะมีกฎหมายจะมากแค่ไหน แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่จิตสำนึกในการทำให้ตนเองและครอบครัวปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่แล้ว ในทุกเรื่อง

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มวัยรุ่นเมาสุรา ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลหลายจังหวัด ว่า เป็นปัญหาสังคมมายาวนาน เช่นเดียวกับกรณีเด็กแวนซ์ที่แข่งขันรถจักรยานยนตร์ ที่มีมาตลอด กฎหมายก็มีทุกตัว จับกุมทุกครั้งก็ยังไม่เข็ดหลาบ จึงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายปกติให้มากขึ้น พร้อมขอให้คนไทยมีสติให้มากขึ้น รู้จักสำนึกผิดชอบชั่วดี รักชีวิตตนเองและของผู้อื่นด้วย อย่าอ้างเพียงแค่ขาดสติเพราะน้ำเมา เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่มีใครบังคับ ทุกคนดื่นกินกันเองทั้งสิ้น เราก็รู้อยู่ว่าไม่สามารถที่จะไปห้ามไม่ให้ดื่มเหล้าได้ทุกคน จึงได้พยายามรณรงค์ในทุกปี ดังนั้นจิตสำนึกของแต่ละคนสำคัญที่สุดในทุกเรื่อง

ส่วนเรื่องของการรักษาความปลอดภัยทางถนน ทุกคนได้ทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนตัวต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนรวมทั้งจิตอาสา ที่ทำงานในช่วงเทศปีใหม่ไทยสงกรานต์นี้อย่างเข็มแข็ง ทุกคนได้เสียสละในทุกปี ทหารที่อยู่ชายแดนและในพื้นที่ภาคใต้ก็ไม่ได้กลับบ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องดูแลประชาชนก็ไม่ได้พักผ่อนเช่นเดียวกัน สาเหตุต่างๆ จึงเกิดจากตัวบุคคล หากทุกคนไม่ช่วยกันจะโทษใครได้ โทษกฏหมายหรือเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นต้องดำเนินการในเรื่องของกฎหมายอย่างเต็มที่และเข้มงวด ตลอดจนดำเนินการกับผู้ที่ละเมิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่วนตัวได้เตือนไปยังเจ้าหน้าที่ ผู้ขับขี่รถทั้งหมดแล้วแต่ก็ยังเกิดขึ้นอีกเหมือนเดิม จึงอยากฝากสื่อและประชาชนช่วยกันเตือนสติทุกคนด้วย

และสิ่งสำคัญคือเรื่องของสุขภาพของผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ และผู้ประกอบการที่ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการดูแลให้เกิดความปลอดภัย อย่ามองเพียงแค่หากมีเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็แก้ปัญหาไป อย่าลืมว่าชีวิตไม่สามารถเอากลับมาได้ บาดเจ็บ สูญเสีย พิการก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ก็จะเดือดร้อนไปทั้งหมดและเป็นที่น่าเสียใจทุกครั้งที่มีวันหยุด แทนที่ทุกคนจะมีความสุข แต่ต้องเสียใจไปทำพิธีศพซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews