เซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์ มุมมองจากคุณหมอ เซ็กซ์ตอนท้องกับข้อควรระวัง

ฉันจะสนุกกับเซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์หรือไม่ มีเหตุผลที่คู่สมรสควรต้องหลีกเลี่ยงการมีเซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์หรือไม่ Dr. Tan Eng Loy นายแพทย์ที่ปรึกษาแผนกสูตินรีเวช จะมาช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ

เซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์ มุมมองจากคุณหมอ บอกเล่าอย่างหมดเปลือก เซ็กซ์ตอนท้องกับข้อควรระวัง การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ ที่คนเป็นพ่อและแม่ต้องรู้

เพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์

 

การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันนำไปสู่การตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์แล้ว คู่สมรสหลายคู่อาจหยุดการมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากทำตามเป้าหมายได้สำเร็จแล้ว บางคู่อาจหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้เกิดปัญหากับการตั้งครรภ์ขึ้น

ฉันจะสนุกกับเซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์หรือไม่

อาจฟังดูแปลกๆ ถ้าจะบอกว่าการมีเซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์จะให้ความรู้สึกพึงพอใจกับคู่สมรสได้มากกว่าช่วงเวลาปกติ แม้ว่าจะมีความถี่ลดลงก็ตาม ระหว่างการตั้งครรภ์ คู่สมรสอาจพบว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องรื่นรมย์กว่าเคย เนื่องจากผู้หญิงจะมีน้ำหล่อลื่นมากขึ้นและบริเวณอวัยวะเพศจะเต่งขึ้น ส่วนคู่สมรสที่ก่อนหน้านี้พยายามที่จะมีลูกอาจพบว่าการกลับมามีเพศสัมพันธ์เพื่อความสุขคราวนี้น่าพอใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงเซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์

ไม่มีเหตุผลใดที่คู่สมรสควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่ง National Institute for Clinical Excellence (NICE) สหราชอาณาจักร ระบุว่า “การมีเซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์ไม่มีก่อให้เกิดความผิดปกติใดๆ ต่อการตั้งครรภ์” คู่สมรสไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกิจกรรมทางเพศเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การคลอดก่อนกำหนด หรือการมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้ การถึงจุดสุดยอดก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์เนื่องจากตัวทารกอยู่ในถุงน้ำคร่ำและมีกล้ามเนื้อมดลูกที่แข็งแรงปกป้องอยู่ ดังนั้น กิจกรรมทางเพศจึงไม่มีผลต่อลูกน้อย

ผู้หญิงกับความต้องการทางเพศที่เปลี่ยนแปลง

ผู้หญิงอาจพบว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับความต้องการทางเพศของตนในขณะตั้งครรภ์ โดยบางคนอาจรู้สึกว่าตนเองมีความต้องการมากขึ้น ขณะที่บางคนอาจมีความสนใจน้อยลงกว่าตอนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือขณะตั้งครรภ์นั้น ขนาดท้องของคุณแม่จะเป็นตัวกำหนดท่าทางที่ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวในการมีเพศสัมพันธ์

ในกรณีที่อาจเกิดปัญหาขึ้นกับการตั้งครรภ์ได้ คุณหมอจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ แต่ขอให้คุณอย่าลืมหาเวลาหวาน ๆ กุ๊กกิ๊กกันกับคู่สมรส  การแสดงความรักต่อกันแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ และยังช่วยให้คู่รักสามารถแสดงออกถึงความรักความใส่ใจที่มีต่อกันได้

จากมุมมองของ Dr. Tan Eng Loy นายแพทย์ที่ปรึกษาแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลสิงคโปร์เจเนรัล

 

เซ็กซ์ตอนท้อง กับข้อควรระวัง

เซ็กซ์ตอนท้อง : รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แนะนำว่า ขณะตั้งครรภ์คุณแม่สามารถมีเซ็กซ์ได้ตามปกติและสามารถมีได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนกระทั้งใกล้คลอด แต่ก็มีข้อควรระวัง ดังนี้

1 ตอนตั้งครรภ์ใหม่ ๆ หรือช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก ควรลดการมีเซ็กซ์ เพราะคุณแม่ส่วนมากมักมีอาการแพ้ท้อง เวียนศีรษะ อ่อนเพลียง่าย

2 คุณแม่ที่เคยแท้งบุตรหรือเคยคลอดก่อนกำหนดมาก่อน แนะนำให้งดเว้นการมีเซ็กซ์ขณะตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดปัญหาซ้ำได้

3 คุณแม่ที่มีรกเกาะต่ำก็ควรขอร้องให้สามีงดการมีเซ็กซ์ เพราะอาจไปกระตุ้นให้เลือดออกได้

 

มีเซ็กซ์หลั่งใน ถึงจุดสุดยอด จะเป็นอันตรายต่อลูกไหม

- เวลาที่มีเซ็กซ์กัน อวัยวะเพศของสามีไม่มีทางไปโดนตัวลูก ดังนั้น ที่พ่อแม่กังวลกันว่า มีเซ็กซ์แล้วลูกจะเป็นอันตรายจึงไม่เป็นความจริง

- เมื่อถึงจุดสุดยอด จนหลั่งในตอนท้อง ก็ไม่มีผลต่อลูกในท้อง เพียงแต่ต้องระวังการติดเชื้อทางช่องคลอดมากกว่า ดังนั้น ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ควรใส่ถุงยางอนามัย

- การมีเซ็กซ์ระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะช่วงใกล้คลอด ต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ เพราะถ้าหลั่งในตอนท้องแก่ ก็มีโอกาสกระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอดได้ เนื่องจากการที่อวัยวะเพศชายไปกระแทกกับปากมดลูกและน้ำอสุจิ สามารถกระตุ้นให้ปากมดลูกสร้างสารเคมีตัวหนึ่งที่ชื่อว่า พรอสตราแกลนดิน (Prostaglandins) ทำให้ปากมดลูกนุ่มขึ้นและกระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวได้

- ท่าเซ็กซ์ที่ต้องระวังตอนตั้งครรภ์ไตรมาส 3 คือ ท่าเซ็กซ์ที่ฝ่ายชายนอนกดทับหน้าท้อง จะทำให้แม่ท้องอึดอัดหายใจไม่ออกได้ ท่าที่ดีสำหรับแม่ท้องแก่คือ ท่าที่แม่ท้องอยู่ด้านบน หรือ Woman On Top หรือท่าเซ็กซ์ Doggy Style ที่เข้าทางข้างหลัง จะได้ไม่กระทบกระเทือนต่อลูกในท้อง ที่สำคัญ ไม่ควรเป็นท่าที่ผาดโผนมากนัก!

 

อย่ามัวแต่เขินอาย หากกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกในท้อง ต้องสอบถามคุณหมอทุกอย่างนะคะ เพราะแม่ท้องแต่ละคนมีโรคประจำตัว อายุ และปัจจัยอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไป การได้พูดคุยสอบถามคุณหมอเป็นการส่วนตัว จึงจะได้รับคำตอบที่ดีที่สุด

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:sanook.com