สาวโวย! รพ.ขอโทษลืมผ้าก๊อซไว้ในช่องคลอด

สาวโวย ทำคลอด รพ. ลืมผ้าก๊อซไว้ในช่องคลอด ด้าน ผ.อ. ขอโทษ ผู้เสียหาย เร่งเยียวยา

ผู้เสียหายรายนี้แจ้งว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ แต่ตรวจพบที่โรงพยาบาลอีกแห่ง เพราะผู้เสียหายมีอาการผิดปกติ เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 25 พ.ค.62  ไปตรวจหลังคลอด 45 วัน แล้ว สิ่งที่พบในช่องคลอดคือผ้าก๊อซ ตอนตรวจหลังคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ 7 วัน พยาบาลบอกว่ามันปกติดี ไม่เจออะไร แต่มาโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการปรากฏว่าเจอผ้าก๊อซถึง 2 ชิ้น อาการที่เป็นก็มีอะไรปูดๆออกมาจากช่องคลอดเจ็บมาก แต่ผู้เสียหายก็ไม่กล้าดึงออกเพราะคิดว่าเป็นแผลปูดแผลนูน จนไปตรวจหลังคลอด พยาบาลบอกว่ามันมีอะไรติดอยู่ พยาบาลเลยดึงออกมาพบว่าเป็นผ้าก๊อซ  พยาบาลได้ส่งตัวผู้เสียหายไปพบหมอสูตินรีเวช เพื่อทำการตรวจภายใน หลังตรวจพบว่าเป็นแผลในมดลูกเยอะมาก ผู้เสียหาย  ยังบอกอีกว่า เหตุการณ์ผ่านมาเป็นเดือนแล้วยังไม่ได้รับการรับผิดชอบจากโรงพยาบาลต้นเรื่องเลย ไม่มีการติดต่อผู้เสียหาย ตอนนั้นมีแต่บอกรับผิดชอบตามบัตร 30 บาท เดี๋ยวชดเชยเป็นเงินตามบัตร 30 บาท ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รุดลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้เข้าไปสอบถามญาติผู้เสียหาย ทราบว่า หลานสาวไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลในจังหวัด จากนั้นกลับมาพักฟื้นที่บ้านก็บ่นว่าปวดท้อง แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นไรมาก และเดินทางกลับไปทำงานที่สมุทรปราการ จากนั้นก็มาทราบเรื่องข่าว ว่ามีผ้าก๊อซติดอยู่ในช่องคลอด

ล่าสุดวันนี้ (13 พ.ค.62) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ทีมงานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลติดต่อไปยังน้องผู้หญิงคนดังกล่าวที่อยู่ทางจ.สมุมทรปราการ ทางโทรศัพท์ ว่า ให้ทำเอกสารมาเพื่อรับการช่วยเหลือเยียวยา ต้องมีการลงมือชื่อ เพื่อขอรับการช่วยเหลือเยียวยา ตามมาตรา 41 แต่ผู้เสียหายไม่สะดวกในการทำเอกสาร จึงติดต่อประสานงานไปยังพี่สาวที่อยู่ จ.สุรินทร์ เนื่องจากน้องมีอายุเพียง 16 ปี จึงทำให้การพูดคุยไม่ค่อยเข้าใจกัน ตนยอมรับว่ามีพยาบาลที่ทำคลอด เวลาทำคลอดอาจจะมีแผลที่ช่องคลอด จะต้องมีการเย็บแผล แต่ถ้ามีเลือดออกเยอะจะต้องมีการใช้ผ้าก๊อซดันไว้ พอเย็บเสร็จเขาไม่ได้เอาผ้าก็อซออก เป็นการลืม หรือพูดง่ายๆว่าเป็นการทำพลาด ในทางการแพทย์ อาจมีอันตายจากการอักเสบ บางที่ก็จะไหลออกเองเหมือนกับน้ำคาวปลา ส่วนที่อ้างว่าขณะทำคลอดเจ้าหน้าที่มีอาการมึนเมา ตนยืนยันว่าไม่น่าจะใช่ และปกติเวลาอยู่เวรก็จะไม่มีใครดื่มสุรากันอยู่แล้ว  โดยเฉพาะส่วนใหญ่มีแต่พยาบาลผู้หญิง

ตนในฐานะผู้บริหารโรงพยาบาลต้องขอโทษ ผู้เสียหายและครอบครัวเป็นอย่างมาก ยอมรับในความผิดพลาด เรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุทางการพยาบาล ส่วนค่าเสียหายเยียวยาต่างๆทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้เร่งดำเนินการ เนื่องจากน้องผู้เสียหายอยู่ใกล้เลยติดต่อกันลำบาก ซึ่งในขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปติดตามญาติ คือ พี่สาว แต่ปรากฏว่า พี่สาวก็ให้ติดต่อโดยตรงกับน้องสาว ซึ่งเป็นผู้เสียหายเอง พยายามประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews