เตรียมฟ้องสายขุด "บัวบูชา" แจงไม่ใช่ "แพรวา 9ศพ" หลังโซเชียลจับโยงคดีดัง
เตรียมฟ้องสายขุด "บัวบูชา" แจงไม่ใช่ "แพรวา 9ศพ" หลังโซเชียลจับโยงคดีดัง
ผู้ใช้ไอจีชื่อ “บัวบูชา” แจงไม่ใช่ “แพรวา9ศพ” หลังโซเชียลสายขุดจับโยงคดีปี 53 ด้านแอดมินเพจดัง เผย เจ้าตัวเตรียมฟ้องคนกล่าวหาทำให้เสียหาย
วันที่ 17 ก.ค. จากกรณีสังคมออนไลน์กลับมาให้ความสนใจกับคดีรถยนต์ยี่ห้อซีวิคเฉี่ยวชนรถตู้โดยสารบนดอยเมืองโทลลเวย์ เหตุเกิดในปี 2553 โดยเกิดแฮชแท็ก #แพรวา9ศพ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ ที่ชื่อว่า tintin ระบุว่าอยู่ในรถตู้คันดังกล่าวแต่รอดชีวิต ได้เผยแพร่หมายศาล ระบุว่า แพรวา จำเลยในคดีดังกล่าว ได้เปลี่ยนชื่อใช้ อรชร หรือแพรวา หรือบัวบูชา เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือน.ส.รวินภิมรย์ อรุณวงศ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นในสังคมออนไลน์ก็มีการขุดภาพต่างๆ พร้อมข้อความว่า “แพรวา” เปลี่ยนชื่อเป็น “บัวบูชา” และแต่งงานกับคนใหญ่คนโต
ต่อมา เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้นำโพสต์จากอินสตาแกรมของผู้ใช้ชื่อว่า bua_boo_cha ออกมาเปิดเผยพร้อมระบุว่า “ข่าวประชาสัมพันธ์ ตอนนี้ในทวิตเตอร์มีการเสียบประจานแอคเคาท์มั่วซั่วไปหมด หาว่าเป็นแพรวาที่เปลี่ยน ชื่อ เช่น แอคเคาท์นี้ เจ้าตัวแจ้งว่า เขาชื่อนี้มาตั้งแต่เกิดละโว้ย ไม่ใช่เพิ่งเปลี่ยนชื่อ ดังนั้นตอนนี้ใครที่กำลังเดือดๆ เพราะข่าวนี้ กรุณาอ่านแบบมีสติ ส่วนคนที่ถูกพาดพิงกำลังไปแจ้งความดำเนินคดีกับแอคในทวิตเตอร์อันนั้น”
ย้อนคดี 9 ปี สู้ 3 ศาลทั้งอาญาและแพ่ง #แพรวา9ศพ
1 – 27 ธ.ค.2553 เวลา 3 ทุ่ม เกิดเหตุรถยนต์ฮอนด้าซีวิค ชนท้ายรถตู้สาธารณะ บนดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วง ม.เกษตร มุ่งหน้าหมอชิต
2 – รถตู้ชนกับขอบทางอย่างแรง ฟาดเสาไฟฟ้า ทำให้มีผู้โดยสารกระเด็นจากรถและติดในรถตู้ มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บ 6 คน อีก 3 วันถัดมาเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน
3 – ผู้เสียชีวิต คือ นักศึกษา, นักวิจัย และ อ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมทั้งคนขับรถตู้
4 – ส่วน “แพรวา” วัย 17 ปี คนขับซีวิคเจ็บเล็กน้อย หลังถูกช่วยออกจากรถ เธอยืนใช้โทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่ติดต่อกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของรถ แต่ภาพนี้ถูกวิจารณ์หนักว่า ทำไมไม่ไปดูคู่กรณี นอกจากนี้มีการไปเติมข้อความบางอย่างว่าเธอโพสต์ ซึ่งครอบครัวยืนยันว่าไม่จริง
5 – ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบรถซีวิคขับมาด้วยความเร็วแล้วเปลี่ยนเลนกะทันหัน จนเฉี่ยวชนท้ายรถตู้
2 ครั้ง
6 – ประเด็นที่สังคมถกเถียงกันตอนนั้นคือ คนขับซีวิคไม่มีใบขับขี่และเป็นเยาวชน จะถูกดำเนินคดีอย่างใดหรือไม่ รวมทั้งการมีนามสกุลตระกูลดังจะมีผลต่อคดีไหม
7 – ปี 2555 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาจำคุก แพรวา 3 ปี ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย แต่ลดโทษจากคำให้การ คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี คุมประพฤติ 3 ปี
8 – ให้ทำงานบริการสังคมโดยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ชั่วโมง และห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์
9 – ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยใช้โทรศัพท์จริงหรือไม่
10 – ต่อมาฝั่งแพรวาอุทธรณ์ขอลดโทษ ฝั่งญาติผู้เสียชีวิตอุทธรณ์ขอให้ลงโทษหนักขึ้น
11 – ปี 57 ศาลอุทธรณ์ ลงโทษเพิ่ม แก้โทษรอลงอาญาเพิ่มเป็น 4 ปี และบำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลา 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
12 – ปี 58 ฝั่งแพรวา ยื่นฎีกาขอให้ลดโทษอีก แต่ศาลไม่รับ เนื่องจากไม่มีสาระสำคัญที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลคำพิพากษา จึงให้ยืนตามชั้นอุทธรณ์
13 – ทั้งนี้ตลอดขั้นตอนคดีอาญากลุ่มญาติผู้เสียหายเปิดเผยเป็นระยะว่า ไม่เคยได้รับเงินเยียวยาและการสอบถามใดๆ จากฝั่งของแพรวา
14 – ส่วนคดีทางแพ่ง กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย 113 ล้านบาท ปี 58 ศาลชั้นต้น สั่งให้จ่ายชดเชยกว่า 26 ล้าน
15 – ต่อมามีการยื่นอุทธรณ์ ปี 60 ศาลพิพากษาลดวงเงินชดเชยลงเหลือ 19.8 ล้าน ให้กับญาติมีจำนวนเงินตั้งแต่ 80,000-1,440,000 บาท
16 – เรื่องนี้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง เมื่อครอบครัวผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า คดีถึงที่สุด เมื่อวันที่ 8 พ.ค.62 ศาลฎีกาของศาลแพ่ง ให้ชดใช้เหมือนศาลชั้นต้นพิพากษา
17 – แต่วันพิพากษาศาลฎีกา ฝ่ายจำเลยไม่มีใครมาแม้แต่ทนายและครบ 30 วันก็ยังไม่มีการติดต่อชดใช้ใดๆ จากครอบครัวของแพรวา
18 – ครอบครัวผู้เสียหายที่ไม่เคยได้รับการเยียวยา จนต้องสู้คดีให้ถึงที่สุด ณ วันนี้ก็ยังคงไม่ได้รับสิ่งนั้น
โพสต์โดย : Ao