นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำมันและไฟฟ้าช่วงไตรมาส 1 ปี 2559 ภาพรวมทั้งประเทศมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและปรากฏการณ์เอลนีโญเป็นเวลานานและจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของรัฐบาล โดยเฉพาะการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 43,278 ล้านหน่วย (กิกะวัตต์ชั่วโมง) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ซึ่งล่าสุดเกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 เวลา 14.23 น. อุณหภูมิเฉลี่ย 37.8 ที่ 29,407 เมกะวัตต์ สูงกว่าพีคไฟฟ้าปี 2558 อยู่ที่ 27,346 เมกะวัตต์ อยู่ 2,061เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5
สำหรับภาพรวมสถานการณ์น้ำมันไตรมาส 1 ปี 2559 การใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินยังปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 และ 12.2 ตามลำดับ จากราคาขายปลีกที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตามราคาน้ำมันตลาดโลกและการปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้สะท้อนต้นทุนสำหรับการใช้น้ำมันภาคขนส่งทางบก ในภาพรวมมีการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.52 เป็นการเพิ่มขึ้นจากน้ำมันเบนซินและดีเซลที่ร้อยละ 5.95 และ 12.20 ตามลำดับ ขณะที่การใช้แอลพีจีและเอ็นจีวี ปรับลดลงร้อยละ 15.47 และ 6.32 ตามลำดับ เนื่องจากมีการปรับราคาขายปลีกให้สะท้อนต้นทุนมากขึ้นและผู้ใช้บางส่วนกลับไปใช้น้ำมันจากราคาที่ปรับลดลง โดยราคาขายปลีกแอลพีจีเฉลี่ยอยู่ที่ 21.03 บาทต่อกิโลกรัม ปรับลดลง 3.13 บาทต่อกิโลกรัม จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และราคาขายปลีกเอ็นจีวี เฉลี่ยอยู่ที่ 13.50 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีรถยนต์ติดตั้งเอ็นจีวี สะสมรวม 473,649 คัน และสถานีบริการเอ็นจีวีรวม 501 สถานี
ส่วนภาพรวมสถานการณ์ไฟฟ้าไตรมาส 1 ปี 2559 เนื่องจากช่วงไตรมาสแรกมีสภาพอากาศร้อนจัดต่อเนื่องเป็นเวลานานประกอบกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นโดยกำลังผลิตไฟฟ้าในระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สิ้นเดือนมีนาคม 2559 อยู่ที่ 40,337 เมกะวัตต์ (ไม่รวมการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า
ทั้งนี้ สนพ.ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกับการรณรงค์รวมพลังคนไทย ลดพีคไฟฟ้า ตามมาตรการ 4 ป. “ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน" วันอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง ในช่วงเวลา 14.00-15.00 น.ตั้งแต่วันนี้ – 20 พฤษภาคมนี้ด้วยการปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเป็น 26 องศา หรือเปลี่ยนจาก Cool Mode เป็น Fan Mode ปลดปลั๊กเมื่อไม่ใช้ และเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์เบอร์ 5 ซึ่งทุกคนสามารถช่วยชาติประหยัดไฟฟ้าได้เพียงช่วยกันลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าลงและรองรับการเกิดพีคในช่วงหน้าร้อน